วิษณุแจงพรบ.ข้าว
เป็นสิทธิ์รบ.หน้า
ปัดโยนเผือกร้อน
ทำต่อหรือคว่ำก็ได้
“วิษณุ”ปัดโยนพ.ร.บ.ข้าวให้รัฐบาลหน้า ชี้มีสิทธิ์เลือกจะทำหรือไม่ทำก็ได้ ด้าน “เอ็นจีโอชาติ” จี้สนช.หยุดลักไก่ออกกฎหมายทันที นัดบุกสภาสัปดาห์หน้า แฉเบื้องหลัง พรบ.ข้าวพ่อค้าเมล็ดพันธุ์เปิดศึก หวังผูกขาด กรรมตกอยู่กับชาวนา
เมื่อวันที่ 21กุมภาพันธ์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เลื่อนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.)ข้าว ไปเป็นวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ว่า ตนไม่ทราบว่าจะเลื่อนไปพิจารณาในวันดังกล่าว เมื่อถามว่า มีการระบุว่าจะนำไปพิจารณาในรัฐบาลชุดหน้า นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่รู้ เพราะไม่ใช่ร่างที่รัฐบาลเสนอ และเรื่องนี้ไม่มีข้อกำหนดเวลา เสร็จก็เสร็จ ถ้าไม่เสร็จก็ทิ้งไว้ เพราะสนช.จะพิจารณากฎหมายถึงวันที่ 8 มีนาคม ซึ่งหากทิ้งกฎหมายไว้กฏหมายก็ไม่ตกไป เมื่อไปถึงรัฐบาลหน้าก็มีสิทธิ์ที่จะยกขึ้นมาพิจารณาต่อไปได้ภายใน 60 วัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ส่งไปให้รัฐบาลหน้าพิจารณา เหมือนเป็นการโยนเผือกร้อนไปให้รัฐบาลหน้าหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ไม่เห็นเป็นไร รัฐบาลหน้าก็บอกว่าไม่เอาเสียสิ ก็หมดเรื่อง เผือกร้อนอะไร มีการเลือกตั้ง มีรัฐบาล มีนายกฯ เขามีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ จะไม่ทำก็ได้ โดยมากกฎหมายที่ค้างอยู่ทั้งหมดจะตกหมด ยกเว้นว่า รัฐบาลจะขอเวลาภายใน 60วัน ให้ยกขึ้นมาพิจารณาต่อ
เมื่อถามว่า กฎหมายที่ยังค้างอยู่ใน สนช.ตอนนี้มีจำนวนกี่ฉบับ รองนายกฯ กล่าวว่า เหลืออีกไม่กี่ฉบับ สนช.จะนำเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณาในอีกไม่กี่วันนี้ แต่จะมีกฎหมายที่รัฐบาลจะส่งไปใหม่อีก 2-3 ฉบับ ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญแต่ไม่เร่งด่วน เนื่องจากรัฐบาลเห็นว่าเราจะต้องทิ้งจังหวะว่างไปอีกนาน กลัวจะไม่ทันการ จึงต้องส่งกฎหมายไปที่ สนช.
วันเดียวกัน นายประยงค์ ดอกลำไย ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรเอกชนพัฒนาชนบท หรือเอ็นจีโอชาติ กล่าวเรียกร้องไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า เครือข่ายองค์กรเอกชนกว่า 200 องค์กร มีมติร่วมกันว่า สนช.ควรยุติการพิจารณากฎหมายทันที เนื่องจากประเทศกำลังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง กำลังจะมีส.ส.ที่เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริงเข้ามาทำหน้าที่พิจารณากฎหมาย สนช.ที่มาจากการแต่งตั้งต้องยุติการพิจารณากฎหมายทุกฉบับ ที่จะมีผลเกี่ยวพันกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและกระทบทั่งทางชุมนุม สังคมและสิ่งแวดล้อมทันที ไม่ให้เหมือน สนช.จากการรัฐประหารเมื่อปี 2550 ที่ลักไก่ออกกฎหมายนับร้อยฉบับก่อนพ้นวาระ
นายประยงค์ กล่าวต่อว่า เครือข่ายเอ็นจีโอชาติจะรวบรวมรายชื่อจากประชาชนและองค์กรทั่วไปเพิ่มเติม เพื่อไปยื่นข้อเรียกร้องดังกล่าวนี้ต่อ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. พร้อมจัดกิจกรรมพิเศษที่รัฐสภา ในสัปดาห์หน้าต่อไป เพื่อไม่ให้ช่วงโค้งสุดท้ายของการรัฐประหาร
นายประยงค์ กล่าวว่า การพิจารณากฎหมายช่วงโค้งสุดท้ายของ สนช.จำเป็นต้องยุติเพราะชัดเจนว่า ตั้งแต่ต้นปี 2562 เป็นต้นมามีการลักไก่เร่งรีบผลักดันกฎหมายโดยไม่รับฟังเสียงเรียกร้องของประชาชน เช่น พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ ก็ได้รับการผลักดันอย่างรวดเร็วภายใน 2 สัปดาห์ โดยไม่สนใจร่างกฎหมายที่ประชาชนเสนอควบคู่กันไป หรือ พ.ร.บ.โรงงาน ที่กำหนดให้อุตสาหกรรมขนาดเล็ก ที่มีเครื่องจักรกำลังน้อยกว่า 50 แรงม้า ไม่ต้องขออนุญาตนั้น ในทางปฏิบัติจริง ธุรกิจต่างๆ ก็เลี่ยงกฎหมายด้วยการแตกโรงงานเป็นเล็กๆ กระจายในพื้นที่ เพื่อจะได้ไม่ต้องขออนุญาต ซึ่งก็ก่อให้ปัญหาทางสิ่งแวดล้อมให้ชุมชนมากขึ้น
“ส่วน ร่างพ.ร.บ.ข้าว ที่เลื่อนการพิจารณาออกไป เนื้อหาสาระที่แท้จริงคือ เป็นการเปิดศึกของพ่อค้าเมล็ดพันธุ์ข้าว รายย่อยบางกลุ่มที่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ เพื่อก่อให้เกิดการผูกขาดเมื่อกฎหมายบังคับใช้ แต่กลับทำให้ชาวนาที่ต้องได้รับการคุ้มครอง ต้องได้รับผลกระทบไปด้วย ทั้งที่เรื่องเหล่านี้เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน หากปล่อยไปก็จะเกิดการผูกขาดเหมือนเหล้าเบียร์ แล้วภูมิปัญญาชาวบ้านก็จะถูกทำลาย” ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรเอกชนพัฒนาชนบท กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี