พปชร.ปลุกคนสุรินทร์ปลดทิ้งนักการเมืองเก่า แจกกระหน่ำ‘บัตรคนจน-ท้องปั๊บรับปุ๊บ’
เมื่อเวลา 10.40 น.วันนี้(1 มี.ค.62) ที่ลานบริษัทไอคิว สี่แยกสลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน , นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง , นายวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำภาคอีสาน , น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หรือมาดามเดียร์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขึ้นปราศรัยหาเสียงช่วยนายอนันต์ ปาลีคุปต์ ผู้สมัคร หมายเลข 8 เขต 1 จ.สุรินทร์
นายสนธิรัตน์ ปราศรัยว่า วันนี้เป็นวันสำคัญที่เราได้เจอกันเพราะในชีวิตของคนหนึ่งคน ที่ไม่เคยรู้จักกันแต่มาเจอกัน ตนถือเป็นบุญของชีวิต สำหรับ จ.สุรินทร์ มีพร้อมทุกอย่าง สุรินทร์มีข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุด แต่เดี๋ยวนี้โดนแย่ง สุรินทร์ คือ เมืองช้าง ไม่มีที่ไหนคล้องช้างเก่งเท่า สุรินทร์ ผ้าไหมสุรินทร์ เส้นสวย ทอมาไม่มีใครสู้ได้ การค้าชายแดนบริเวณด่านช่องจอมที่ติดกับชายแดนกัมพูชา เช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆแต่ จังหวัดอื่นๆกลับรวยเอาๆ ในขณะที่ จ.สุรินทร์ ไม่รวยเหมือนอย่างเขา คงเป็นเพราะ จ.สุรินทร์ อาจยังไม่มี ส.ส.ที่ดีๆ มีแต่ ส.ส.ที่กระจัดกระจาย แต่ตนไม่ได้ว่า ส.ส.เก่า เพราะเขาก็ทำมาเต็มที่แล้ว
“สุรินทร์มี ส.ส.7 คน แต่ยังไม่สามารถทำให้สุรินทร์ดีขึ้นได้ ดังนั้นวันนี้หากคนสุรินทร์ เลือกพรรคเก่าก็จะได้ของเก่า จ.สุรินทร์ ก็จะเหมือนเก่า ดังนั้นขอให้ลองเปลี่ยนมาเลือกคนของพรรคพลังประชารัฐ อย่าง นายอนันต์ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง” นายสนธิรัตน์ กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า เราไม่ได้มาปากหวาน แต่อยากให้ดูนโยบายของพรรค ว่า วันนี้มีพรรคการเมืองไหน ที่นโยบายเข้าไปสู่หัวใจประชาชนเหมือนกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเกิดขึ้นจากคนของพรรคพลังประชารัฐอย่างพวกตน วันนี้พี่น้องชอบของจริง หรืออยากได้ของปลอม เพราะของจริงได้เห็นกันแล้ว แต่ของปลอมต้องมาลองอีก เดี๋ยวก็พาไปโกงอีก บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถือเป็นหัวใจหลักของพรรค อย่าให้ใครเอาไป เพราะวันนี้พรรคจะทำให้ดีขึ้น เพราะยังมีพี่น้องประชาชนที่สมัครแล้ว หรือมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ แต่ยังไม่ได้อีกจำนวนมาก ดังนั้นหากพรรคพลังประชารัฐได้เข้าไปเป็นรัฐบาลจะดำเนินการตรวจสอบให้ เพราะบัตรนี้ คือสิ่งที่พรรคจะทำให้ดีกว่าเดิม ทำให้ประชาชนมีความสุข เพราะพรรคไม่ได้มีแค่นโยบายกินได้ แต่มีออกมาเรื่อยๆ อย่างนโยบายข้าว ที่หากชาวนาอยากได้ค่าปลูกพวกตนจะไปหารือกันเพื่อพิจารณา
นอกจากนี้ พรรคยังมีนโยบายดูแลลูกหลานคนไทยไม่ให้ลำบาก อย่างนโยบายมารดาประชารัฐที่ให้ความสำคัญตั้งแต่ท้อง คือท้องปั๊บ รับ 3000 บาท จำนวน 9 เดือน รวม 27,000 บาท จากนั้นเมื่อคลอดก็จะได้รับอีก 10,000 บาท รวมเป็น 37,000 บาท ยังไม่พอเพราะมีค่าเลี้ยงดูให้อีกเดือนละ 2,000 อีก 6 ปี รวมค่าดูแลทั้งสิ้น 181,000 บาท พร้อมยืนยันพรรคไม่ได้มาแจกเงิน แต่ลูกหลานเรา เราต้องกล้าลงทุน ต้องดูแลคนไทยด้วยกัน
นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า พลังประชารัฐมาแบบมีความหวัง หวังในการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ถ้า จ.สุรินทร์รักพลังประชารัฐ ก็ต้องเลือก ส.ส.ของพรรค ทั้ง 7 เขต เพราะผมตั้งใจว่า ถ้าพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล ผมเป็นรัฐมนตรีจะมารับใช้คนสุรินทร์ อาสามาเป็นคนสุรินทร์ เพื่อพาพี่น้องสุรินทร์สู้จังหวัดใกล้เคียงให้ได้ ดังนั้น 24 มี.ค.เลือกพลังประชารัฐยกจังหวัด
ด้านนายสุริยะ กล่าวว่า ขอให้คนสุรินทร์เลือกพรรคพลังประชารัฐทั้ง 7 เขต ในการเข้าไปสานต่อและผลักดันนโยบายของพรรคเพื่อประชาชน เพราะหาก ได้ ส.ส.เข้าไปน้อย นโยบายที่พรรคนำเสนอจะได้รับการผลักดันได้ลำบาก เพราะที่ผ่านมา ส.ส.สุรินทร์ยังไม่มีความเป็นปึกแผ่นทั้งที่เป็นจังหวัดใหญ่ ดังนั้นหากได้รับเลือกทั้งจังหวัด จ.สุรินทร์จะได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งเกษตรและชาวนาและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืนแน่นอน
ขณะที่ นายอนุชา ปราศรัยว่า วันนี้เราต้องรักประเทศชาติ รักประชาชน ต้องไม่ยอมให้คนไทยออกมาเดินบนถนนเพื่อเข่นฆ่า หรือ ขัดแย้งกันกันอีก เพราะขัดแย้งมานานแล้วกว่า 10 ปี แต่ช่วง 5 ปี ที่ผ่านมาประเทศสงบ แม้ปัญหาเศรษฐกิจยังไม่ดีเพราะเป็นผลมาจาความขัดแย้ง แต่รัฐบาลชุดนี้ก็พยายามแก้ปัญหาให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ตั้งใจให้พีน้องที่ตกทุกข์ได้ยากมีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต แม้ไม่ได้ทำให้ร่ำรวย แต่ก็ช่วยให้พี่น้องประชาชนมีเงินใช้จ่าย ขณะเดียวกันเมื่อประเทศชาติสงบ เราก็พบแสงสว่างเราจึงมารวมอยู่ตัวกันอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ เพื่อต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง มีนโยบายที่ดีเพื่อตอบสนองคนไทย คนยากคนจน ชาวไร่ ชาวนา ที่ถูกทอดทิ้ง โดยเฉพาะชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติแต่ปัจจุบันชาวนามีแต่หนี้
“ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐตั้งใจอย่างแน่วแน่ ในการจะสร้างประวัติศาสตร์ ทุ่มเททำเพื่อให้คนเหล่านี้ได้ลืมตาอ้าปากหายจากความยากจนให้สำเร็จให้ได้ พรรคพลังประชารัฐ พูดจริง ทำจริง และประชาชนได้ประโยชน์อย่างแน่นอน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมสามารถลง ส.ส.ได้อีกครั้งหลังถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ดังนั้นจึงขอประกาศว่า หากผมช่วยเกษตรกร คนยากคนจนให้พ้นจากความยากจน หากพรรคเป็นรัฐบาล ดูแลบริหารบ้านเมืองครบ 4 ปี แล้วความเป็นอยู่ของประชาชนยังไม่ดีขึ้น ก็จะขอเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี