2 มี.ค. 62 นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว เล่าถึงการลงพื้นที่ช่วยนายธันวา ไกรฤกษ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เขต 20 กรุงเทพฯ ซึ่งประกอบด้วยเขตสวนหลวงและเขตประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอนและแขวงดอกไม้) หาเสียงในย่านคลองพระโขนงเชื่อมคลองประเวศบุรีรัมย์ โดยเสนอว่าพื้นที่คลองดังกล่าวเหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ ดังนี้
“วันนี้ (2 มี.ค 62) ผมพร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ดร.สันติ กีระนันท์ นายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์ และผู้สมัคร สส. กทม เขตสวนหลวงประเวศ คุณธันวา ไกรฤกษ์ เบอร์ 6 ลงพื้นที่คลองพระโขนงเชื่อมคลองประเวศบุรีรัมย์เพื่อพบปะกับพี่น้องในพื้นที่ครับ หลังจากที่พรรคพลังประชารัฐได้มีการเปิดตัวแคมเปญ Bangkok OK ไปเมื่อวันก่อน มีนโยบายหนึ่งที่น่าสนใจมากๆก็คือ กรุงเทพน่าเที่ยว”
“วันนี้เราจะแสดงให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐนั้นพูดจริง ทำจริง และทำเร็ว นอกจากจะมาพบปะพี่น้องประชาชนแล้ว เรามาสำรวจพื้นที่ทำโครงการแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนด้วย ในเขตสวนหลวงและเขตประเวศ มีคลองศักยภาพที่เชื่อมถึงกัน ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำได้ คือคลองพระโขนงและคลองประเวศบุรีรมย์ และยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่เมื่อเทียบกับตลาดน้ำบางน้ำผึ้งที่ไม่มีคลองใหญ่เลยด้วยซ้ำ แต่สามารถทำตลาดน้ำที่มีชื่อเสียงระดับประเทศได้ ดังนั้นตลาดน้ำวัดมหาบุศย์ แม่นาคพระโขนง ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ”
“โดยอาศัยจุดแข็งที่วัดมหาบุศย์เป็นวัดดังและมีผู้มาเยี่ยมเยือนมากมายอยู่แล้วในวันเสาร์-อาทิตย์ ทั้งโครงสร้างพื้นฐานทุกอย่างครบหมด เราเพียงเติม สร้างบรรยากาศ ให้นักท่องเที่ยวที่มาได้สัมผัสถึงบรรยากาศ อารมณ์ ความรู้สึกแบบตลาดน้ำไทยๆเท่านั้น นอกจากนี้ต้องมีการเชื่อมโยงกับตลาดน้ำอีกแห่งหนึ่งซึ่งน่าทำมากๆ คือตลาดน้ำวัดกระทุ่มเสือปลา ในเขตประเวศ ตั้งอยู่ติดริมน้ำคลองประเวศบุรีรมณ์ รวมถึงคลองนี้เป็นคลองพหุวัฒนธรรม มีทั้งวัด, มัสยิดและศาลเจ้าที่สวยและมีเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างมากมายเลยทีเดียวครับ โดยสองตลาดน้ำนี้สามารถนั่งเรือเชื่อมถึงกันได้ เป็นจุดขายสำคัญที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีเหมือนล่องคลองตลาดน้ำอัมพวา”
“เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ตลาดน้ำทั้งสองแห่งควรให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการค้าขาย ซึ่งในเขตสวนหลวงและเขตประเวศมีชุมชนรวมกันกว่า100แห่ง ทุกชุมชนจะได้สิทธิ์ในการเปิดร้านค้า1-2ร้าน และสองฝั่งคลองสามารถพัฒนาเป็นห้องพัก LongStay ให้นักท่องเที่ยวเข้าพักได้อีกด้วยเป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนมีพื้นที่ขายสินค้าโอทอปหรือสินค้าอื่นๆตามความถนัด รวมถึงพวกขนมหวานและอาหารไทยโบราณซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ซึ่งงบประมาณดำเนินการไม่มากเลย บางส่วนเป็นเรื่องการสร้างการมีส่วนร่วมจากเอกชนที่อยากมาค้าขาย บางส่วนมาจากชุมชนเอง”
“หัวใจสำคัญของโครงการจากคลองสู่คลองกทม..เป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในกทม. ซึ่งหากรัฐวิสาหกิจหรือบริษัทเอกชนรายใหญ่ต่างๆอยากทำCSR ก็สามารถเข้ามาสนับสนุนได้ ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งได้เห็นนักท่องเที่ยว นั่งเรือทัวร์ชมคลองนี้แล้วนึกเสียดาย ที่คนไทยเองกับไม่ได้ชื่นชมกับบรรยากาศริมสองฝั่งคลองเลยทีเดียวครับ”
“ในอนาคตเรามองไปถึงแนวทางการพัฒนาริมฝั่งคลองทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ตรงวัดมหาบุศย์ ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ยาวไปจนถึงฉะเชิงเทรา ทุกสายน้ำเชื่อมโยงกันได้ หากเปิดประตูระบายน้ำบ้าง จะสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้อีกหลายจุด และรองรับการจัดการน้ำเมิ่อน้ำมาก น้ำล้น ป้องกันน้ำท่วมให้กับกทม. ชั้นในได้อีกด้วยครับ”
ขอบคุณเรื่องจาก : https://www.facebook.com/drsuvitpage/posts/1680039065636150?__tn__=K-R
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี