ทบ.แจก‘คู่มือ 7 ข้อ’สร้างความเข้าใจ ยันมุ่งลดขนาดกองทัพบก ปฏิรูปใช้คนคุมเครื่องมือ-ยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย แจงงบประมาณได้รับน้อยกว่าหลักสากล บรรจุแผนรับทหารโดยสมัครใจในแผนยุทธศาสตร์ ย้ำความจำเป็นที่ประเทศต้องมีทหาร ลั่นทำงานช่วยประชาชนด้วยศรัทธาไม่ได้จ้างด้วยเงิน
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 7 มี.ค.62 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ครั้งที่ 2/2562 วาระพิเศษ โดยมีผู้บังคับหน่วยระดับกองพัน ระดับผู้บังคับการกรม ผู้บัญชาการกองพล ผู้บัญชาการกองพลทหารบก พร้อมนายทหารระดับสูงทั่วประเทศกว่า 796 นาย เข้าร่วมการประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการแจกเอกสารข้อมูลเรื่อง “การสร้างความเข้าใจในภาพรวมเกี่ยวกับการดำเนินงานต่างๆของกองทัพบก” ให้กับผู้ร่วมประชุม โดยแบ่งเป็น 7 ข้อ ไล่ตั้งแต่ที่มาของการมีกำลังทหาร อำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม และหน้าที่กองทัพบก ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 การใช้กำลัง การเตรียมกำลัง ซึ่งในส่วนนี้ได้ระบุว่า “ถึงแม้ในการเตรียมกำลังนั้น มีความจำเป็นต้องใช้กำลังพลจำนวนมาก และเป็นการจัดหน่วยที่มีความสมบูรณ์สูง แต่กองทัพบกยังมีความพยายามในการลดขนาดลง แต่ต้องการพัฒนาความรู้และเทคโนโลยีเข้ามาแทน หรือใช้คนน้อยลง ในลักษณะคนคุมเครื่องมือและยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย แต่ต้องมีประสิทธิภาพเท่าเดิมหรือดีกว่าเดิม”
ในส่วนของงบประมาณ ระบุว่า ในปีงบประมาณปี 2545 เป็นต้นมา กระทรวงกลาโหมได้รับการจัดสรรงบประมาณโดยเฉลี่ยร้อยยะ 1.29 ของจีดีพี ซึ่งตามหลักสากลทั่วไป กระทรวงกลาโหมควรต้องได้รับการจัดสรรไม่น้อยกว่า 2% ของจีดีพี ซึ่งตามหลักสากลทั่วไปกระทรวงกลาโหมควรต้องได้รับการจัดสรรไม่น้อยร้อยละ2 ของจีดีพี อีกทั้งกระทรวงกลาโหมได้รับงบประมาณเพิ่มตามสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 3 ต่อปี เช่นเดียวกับกระทรวงกลาโหม
นอกจากนั้น ยังมีข้อมูลเรื่องการรับราชการทหารกองประจำการโดยสมัครใจ (ระบบทหารกองประจำการอาสาสมัคร) ซึ่งกำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์กองทัพบก ระยะเวลา 20 ปี พ.ศ.2560-2579 โดยมีทหารกองประจำการอาสาสมัครได้ ร้อยละ100 โดยปี 2561 ที่ผ่านมากระทรวงกลาโหมมีความต้องการทหารกองประจำการสัดส่วนประมาณ ร้อยละ 20 ของชายไทยที่ต้องเข้ารับการตรวจเลือก ซึ่งมีประมาณ 5 แสนคน
ในส่วนสุดท้าย ได้ระบุถึงความจำเป็นที่ประเทศต้องมีทหารว่า ทหารหรือที่เรียกว่ารั้วของชาติ มีบทบาทสำคัญมากมายแก่ชาติไทย ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งประเทศชาติ ในการปกป้องเอกราช และทหารยังทำหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เช่น เมื่อปี 2554 ที่เกิดอุทกภัยใหญ่ของประเทศ ในอนาคตทหารจำเป็นต้องมีส่วนสนับสนุนส่วนราชการอื่นในการช่วยเหลือประชาชนมากขึ้น เนื่องจากทหารมีความพร้อมมากกว่า ทั้งในแง่การจัดองค์กร กำลังพล และยุทโธปกรณ์ ทั้งนี้ทหารทำงานด้วยแรงศรัทธา อุดมการณ์ ไม่ได้จ้างด้วยเงิน เพราะเงินซื้อสิ่งเหล่านี้ไม่ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี