สอบตก!‘พีเน็ต’กางกฎหมายชำแหละ กกต. จวกผลงานครึ่งปีไม่ผ่านประเมิน
7 มี.ค.62 มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต - PNET) ออกแถลงการณ์ประเมินการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดปัจจุบัน ซึ่งตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการเลือกตั้ง พ. ศ. 2560 มาตรา 12 กำหนดว่าให้คณะกรรมการสรรหา กกต. ปรึกษาหารือเพื่อคัดสรรให้ได้บุคคลซึ่งมีความรับผิดชอบสูง มีความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่ มีพฤติกรรมทางจริยธรรมเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม และไม่มีพฤติการณ์ยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใดๆ รวมตลอดทั้งมีทัศนคติที่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลสำเร็จ
ประกอบกับมาตรา 21 ระบุว่า กรรมการต้องปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลา และการปฏิบัติหน้าที่และการใช้อำนาจของคณะกรรมการต้องเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ และปราศจากอคติทั้งปวงในการใช้ดุลพินิจ อีกทั้ง กกต. ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระฯ ข้อ 13 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม เป็นอิสระ เป็นกลาง และปราศจากอคติ โดยไม่หวั่นไหวต่ออิทธิพล กระแสสังคม หรือแรงกดดันอันมิชอบด้วยกฎหมาย
ข้อ 21 ปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเต็มกำลังความสามารถ และยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ และปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อ 22 อุทิศเวลาแก่ทางราชการ ข้อ 24 ดูแล รักษาและใช้ทรัพย์สินของทางราชการอย่างประหยัด คุ้มค่า โดยระมัดระวังมิให้เสียหายหรือสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น ทั้งนี้มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ที่มีภารกิจในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ได้ติดตามการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมา และมีความเห็นว่า
1.กกต. ยังไม่ได้แสดงคุณสมบัติตามเกณฑ์การสรรหา กกต.ว่าเป็นผู้มีความรับผิดชอบสูงหรือได้ทำหน้าที่อย่างกล้าหาญไม่ประพฤติตนตกอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใดๆ รวมทั้งมุ่งหวังให้เกิดผลสำเร็จในการทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม โดยขอยกกรณีการร้องเรียนที่เกิดขึ้นจำนวนมาก แต่มีเพียงเรื่องเดียวที่ กกต นำสำนวนส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญ
และกรณีมีเสียงเรียกร้องให้ กกต. วินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช. เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ) และมีลักษณะต้องห้ามเป็นบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น กกต. กลับเพิกเฉยในกรณีนี้ 2.กกต. ไม่ได้อุทิศเวลาให้แก่การปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยไม่มีการจัดประชุมปรึกษาหารือกันนานร่วม 10 วัน ทั้งๆ ที่มีภารกิจต้องพิจารณาเรื่องร้องเรียนต่างๆ เกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งเป็นข่าวว่ามีจำนวนนับร้อยเรื่อง
รวมทั้งมีภารกิจต้องพิจารณาออกระเบียบ และประกาศ และตอบข้อหารือของพรรคการเมืองเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งต้องการความชัดเจนโดยเร็ว อนึ่ง มีรายงานข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมการปราศรัยหาเสียงของพรรคการเมืองในหลายพื้นที่ว่ามีการขนคนและแจกเงินให้คนเข้าร่วมฟังการปราศรัย แต่ไม่ปรากฏว่า กกต. ได้ทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบในเรื่องนี้
3.กกต. ยังไม่ได้ปฏิบัติตาม พ.ร.ป.คณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา 22 (5) ที่กำหนดให้ออกหลักเกณฑ์และวิธีการสนับสนุนให้องค์กรเอกชนสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมทั้งการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการเลือกตั้ง
4.กกต. ไม่ได้ใช้ทรัพย์สินของทางราชการอย่างประหยัดคุ้มค่า และระมัดระวังมิให้สิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น โดยใช้งบประมาณร่วม 12 ล้านบาทในการเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อศึกษาดูงานในระยะเวลาไล่เลี่ยกันทั้ง 7 คน โดยไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ทุกคนจะต้องไปศึกษาดูงาน โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังมีการเลือกตั้งนอกเขตในวันที่ 17 มี.ค. 2562 และการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มี.ค. 2562 และมีการแข่งขันอย่างเข้มข้นดังที่เป็นอยู่
มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย จึงขอประเมินว่า กกต. ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และขอเรียกร้องให้ กกต. ปรับปรุงการปฏิบัติงานอย่างเร่งด่วน และแถลงผลงานที่ทันกับเหตุการณ์เป็นระยะๆ เพื่อให้การบริหารจัดการการเลือกตั้งของ กกต. มีความโปร่งใส และเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี