"จาตุรนต์"ลั่น!ปราศรัยต้านเผด็จการไม่ผิดกฎหมาย เตือนกกต.วางตัวเป็นกลางอย่าทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง งงผลสอบโต๊ะจีนพปชร. ห่วงการเลือกตั้งไม่ยุติธรรม
13 มี.ค.62 ที่ จ.ร้อยเอ็ด นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกกลุ่ม "ก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย" และอดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งกรรมการไต่สวนแกนนำและสมาชิกพรรค ทษช.รณรงค์เทคะแนนให้พรรคการเมืองอื่น ว่า ตนยังไม่เห็นประเด็นว่าจะมาสอบเรื่องอะไร เพราะยังไม่มีอะไรที่เป็นการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง กลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตยขออนุญาตใช้สถานที่และขออนุญาตชุมนุมก่อนปราศรัยทุกครั้ง แต่ไม่ได้ชุมนุมเพื่อเรียกร้องหรือคัดค้านอะไร เป็นการชุมนุมเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.ซึ่งเป็นสิทธิของประชาชนทุกอย่าง
"อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรค ทษช.ก็ไม่ได้ถูกเพิกถอนสิทธิอะไร เพียงแต่พ้นจากการเป็นผู้สมัคร ส.ส.และยังมีสิทธิเท่ากับประชาชนทุกอย่าง และไม่มีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เช่น ไม่ได้จัดมหรสพ ไม่สัญญาว่าจะให้ หรือให้เงินใคร รวมทั้งไม่ได้ข่มขู่หลอกลวงหรือใส่ร้ายป้ายสีใคร เพราะฉะนั้นจึงไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่ผิดกฎหมาย เป็นประชาชนคนหนึ่งที่มีสิทธิแสดงความคิดเห็นในระหว่างเลือกตั้ง ซึ่งก็ได้รับความคุ้มครองในรัฐธรรมนูญ และกรณีที่ผู้สมัครจะเทคะแนนหรือโหวตโน ตนก็ไม่เห็นประเด็นที่จะผิดกฎหมาย เพราะการเสนอให้โหวตโน เป็นข้อเสนอมาจากประชาชน อดีตผู้สมัครคงจะไม่ไปรณรงค์อะไรได้" นายจาตุรนต์ กล่าว
ส่วนการเทคะแนนก็ไม่มีคำนิยามตามกฎหมายแปลว่าอะไร คนๆ หนึ่งจะเทคะแนนเลือกตั้งก็คือเทคะแนนตัวเอง หนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงเท่ากัน ส่วนคะแนนของคนอื่นๆ มันเทไม่ได้ ไม่มีอยู่ในสารบบของภาษากฎหมาย และไม่เห็นว่าจะผิดกฎหมายอะไร ส่วนการที่อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งจะไปบอกประชาชนว่าอย่าเลือกหรือเลือกพรรคนั้นพรรคนี้ ก็เหมือนกับประชาชนคนอื่นๆ ทั่วไปที่นั่งคุยกัน ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย และไม่เข้าใจว่าทำไม กกต.กระตือรือร้นผิดปกติกับอดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ทษช.ส่วนการจะบอกว่ารัฐบาลดีหรือไม่ดี อย่าไปเลือกรัฐบาล อย่าไปให้รัฐบาลสืบทอดอำนาจ จะตีความว่าชี้นำหรือไม่ชี้นำก็แล้วแต่ เป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ทุกอย่าง กกต.ไม่มีหน้าที่อะไรมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
"ปัญหาอยู่ที่ว่าถึงแม้ชี้นำก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย คนเราจะไปพูดแนะนำใครก็เป็นสิทธิเสรีภาพ ไม่มีกฎหมายห้ามชี้นำ แต่ว่าเราก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะไปชี้นำใคร เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นใครเห็นด้วยก็ทำตาม ใครไม่เห็นด้วยเขาก็ไม่ทำตาม ก็เป็นสิทธิเสรีภาพของแต่ละคน การตั้งประเด็นว่าจะเป็นการชี้นำหรือไม่ การชี้นำผิดกฎหมายหรือไม่ แสดงถึงความล้าหลัง ล้าสมัยของกฎหมาย ของประเทศที่ยังไม่เข้าใจเรื่องสิทธิเสรีภาพ" นายจาตุรนต์ กล่าว
สำหรับกรณีที่ กกต.พิจารณาว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดระดมทุนโต๊ะจีนไม่มีทุนจากต่างประเทศ ไม่เข้าข่ายถูกยุบพรรคนั้น เป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก เพราะที่มีคนร้องและต้องการหลักฐาน คือ มีบริษัทที่ขาดทุนมาบริจาค หรือบริจาคเกินกำหนดหรือไม่ รัฐวิสาหกิจมาเกี่ยวข้องหรือไม่ ถือเป็นเรื่องผิดสังเกตว่าทำไม กกต.ถึงสรุปประเด็นแบบนี้ และยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญไม่สามารถสมัครเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ ก็ยังไม่เห็นทำอะไร ทำไมปล่อยให้ชักช้าแบบนี้ ตนเพิ่งปราศรัยวันเดียวต้องตั้งกรรมการสอบกันแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กกต.กำลังวางตัวไม่เป็นกลาง
"คำว่า กกต.ไม่เป็นกลางนี้ เป็นการชี้นำหรือไม่ ผมไม่ทราบ แต่ถ้าชี้นำประชาชนบอกว่า กกต.ไม่เป็นกลาง ผมยินดีจะบอกว่าผมกำลังบอกกับประชาชนว่า กกต.กำลังวางตัวไม่เป็นกลาง"
นอกจากนี้ นายจาตุรนต์ ยังกล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้น่าเป็นห่วง เนื่องจาก กกต.ทำงานบกพร่องอย่างเห็นได้ชัด ในเรื่องที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งในต่างประเทศ และก็ยังไม่รู้ว่าต่อไปในการเลือกตั้งล่วงหน้าที่จะมีขึ้นจะวุ่นวายสับสน มีอะไรผิดขาดตกบกพร่องอีกมากน้อยแค่ไหน และในการเลือกตั้งทั่วประเทศจะทำได้ดีแค่ไหน และการที่ กกต.เร่งบางเรื่อง ไม่เร่งบางเรื่อง บางเรื่องทำให้ชักช้า แล้วก็มาทำในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง มันก็ทำให้คนคิดได้ว่า กกต.วางตัวไม่เป็นกลาง และถ้า กกต.วางตัวไม่เป็นกลางแล้ว การเลือกตั้งก็จะไม่เป็นธรรมและไม่ยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี