นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่าเมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อมด้วย ศ.กิตติคุณ นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา และคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา(กอปศ.)ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อส่งมอบร่างแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ที่ได้ปรับปรุงแล้วตามมติคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ โดยนำเสนอแผนการทำงานในภาพใหญ่ รวมถึงแผนระยะเร่งด่วน ที่จะต้องผลักดันให้เกิดผลการ
ทำงาน เช่น การพัฒนาดิจิทัล การปฏิรูปครูการปฏิรูประดับโรงเรียน การลดความเหลื่อมล้ำ
นพ.ธีระเกียรติกล่าวถึงนโยบายทางการศึกษาที่พรรคการเมืองต่างๆ ใช้หาเสียงในขณะนี้ ว่า เท่าที่ตนดู แนวโน้มเป็นการหาเสียงโดยการพูดกว้างๆ ไม่ลงลึกในรายละเอียด ซึ่งบางเรื่องถ้าปฏิบัติไม่ได้ก็อาจจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เด็กในเรื่องการสัญญา หรือการเคารพคำพูด เช่นสัญญาที่เกี่ยวกับเรื่องเงิน หรือการเสนอให้เรียนฟรีจนถึงระดับปริญญาตรี ตรงนี้ก็ต้องมาคำนวณให้ดูด้วยว่าถ้าทำจริงๆจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ ถ้าสุดท้ายเงินไม่พอคุณภาพจะลดหรือไม่ หรือดูว่าในต่างประเทศที่เรียนฟรีเขาทำอย่างไร ฟรีทุกคนหรือไม่ตลอดจนต้องไปดูว่าของฟรีนั้นถามประชาชนที่อยากจะเสียเงินเรียนหรือยัง ซึ่งที่ผ่านมาเรื่องเหล่านี้มีตัวอย่างให้เห็น
อย่างไรก็ตาม ตนไม่สามารถให้ความเห็นได้มากนัก เพราะไม่เห็นรายละเอียดทั้งหมด และเพื่อให้มองอย่างเป็นธรรม ด้วยระยะเวลาที่มีการหาเสียงด้วยนโยบายด้านการศึกษาคนอาจจะไม่สนใจมากจึงไม่ลงลึก นักการเมืองจึงไปโฟกัสที่เรื่องเศรษฐกิจมากกว่า
“เวลานี้มีแผนการศึกษาของ กอปศ.ที่เสนอไว้เป็นแผนที่ดี ผมอยากให้นักการเมืองได้ลองมาดู ไม่ต้องมาทะเลาะกันว่านโยบายใครดีกว่าใครในเรื่องการศึกษา ซึ่งหลายๆ ประเทศตกลงกันเลยว่าอย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง”นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี