"จาตุรนต์"ปราศรัยกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตยเมืองแปดริ้ว "อนันต์ ฉายแสง"นั่งฟังหน้าเวทีให้กำลังใจ ขอเทคะแนนให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตย จวกคสช.ทำเศรษฐกิจประเทศเสียหาย ประชาชนจนลง-นายทุนรวยขึ้น ออกกฎหมายไม่เป็นธรรม "วุฒิพงศ์"ชี้ยกเลิกจำนำข้าวเงินหายจากระบบไปกว่าสิบล้านล้านบาททำให้ประชาชนจนลง
15 มี.ค.62 เวลา 17.00 น.กลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย ปราศรัยใหญ่ที่ศาลากลาง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นอกจากนี้ ยังมี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ , นายพิชัย นริพทะพันธุ์ , นายนิคม ไวยรัชพานิช , นายประภัสร์ จงสงวน, นพ.เหวง โตจิราการ , น.ส.อรุณี กาสยานนท์ , นายพชร ธรรมมล , น.ส.ชญาภา สินธุไพร , นายทองอยู่ คงขันธ์ และนายโอกาส มีเชาว์ โดยมีข้อความบนที่ป้ายบนเวที ว่า "24 มีนาคม 2562 เลือกฝั่งประชาธิปไตยไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ" โดยมีประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยกันอย่างคับคั่ง บางกลุ่มถือป้ายมาให้กำลังใจแกนนำที่ชื่นชอบ ขณะที่ นางฐิติมา ฉายแสง น้องสาวของนายจาตุรนต์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ไม่ได้มาร่วมปราศรัย เนื่องจากเป็นผู้ช่วยหาเสียงพรรคอนาคตใหม่
นพ.เหวง กล่าวว่า การเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วงก่อนเลือกตั้งว่าเป็นคนน่ารักอารมณ์ดี เป็นการแสดงอย่างเห็นได้ชัด แต่ 5 ปีที่ผ่านมาไม่เคยทำอะไรแบบนี้ รวมทั้งยังสั่งการหน่วยงานความมั่นคงให้ปราบปรามประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล เช่น นักศึกษาที่ชูสามนิ้ว หรือกินแซนวิช เพราะทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์เผด็จการให้ประชาชนออกไปเลือกตนเป็นนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ นพ.เหวง ยังชี้แจงกรณีนางฐิติมา โพสต์ข้อความให้ประชาชนเลือกพรรคอนาคตใหม่ ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะไม่ได้มีการสัญญาว่าจะให้เงิน หลอกลวง หรือใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญประชาชน
นายนิคม กล่าวว่า รัฐธรรมนูญและกฎหมายการเลือกตั้งฉบับนี้เอาเปรียบการเลือกตั้ง โดยเงื่อนไขต่างๆ เช่น การให้ คสช.เลือก ส.ว.250 คน ที่มีอำนาจในการโหวตเลือกนายกฯ และให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นกรรมการสรรหา ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็มาจากแม่น้ำ 5 สาย อีกทั้งการกาบัตรใบเดียวครั้งเดียวทำให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่มีโอกาสได้ ส.ส.น้อยลง การรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลก็จะทำได้ยาก แถมยังต้องไปแข่งกับพรรคฝ่ายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีเสียง ส.ว.250 คน ยิ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันการทำงานของ กกต.ที่มีความผิดปกติ เช่น การร้องเรียนให้พิจารณาว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และขาดคุณสมบัติเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ แทนที่ กกต.จะวินิจฉัยแล้วส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ แต่กลับส่งเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ดังนั้น พรรคฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะการเลือกตั้งได้ ประชาชนทั้งประเทศต้องลงคะแนนให้อย่างถล่มทลาย และตนเชื่อว่าจะเกิดปาฏิหาริย์
ขณะที่ นายประภัสร์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งคนรวยส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มทุน นี่คือผลงานของฝ่ายเผด็จการที่ยึดอำนาจเข้ามา ขณะที่กฎหมาย EEC ให้สิทธิประโยชน์แก่นายทุนมากกว่ากฎหมายส่งเสริมการลงทุนปกติ ทั้งเรื่อง ลดภาษี และการเช่าที่ดินระยะยาว 99 ปี ทั้งที่อดีตนายทักษิณ เคยมีนโยบายให้เอกชนเช่าที่ดิน 50 ปี กลับถูกประณามว่าขายชาติ บางคนอ้างว่าที่ตอนนี้ไม่ออกมาโต้แย้งเพราะบ้านเมืองสงบสุข แต่ตนเห็นว่าที่สงบเพราะความกลัวอำนาจทหาร ดังนั้น การให้เช่าที่ดินระยะยาว 99 ปี ย่อมจะส่งผลกระทบกับประเทศในอนาคตที่ไม่แน่นอน อีกทั้งกฎหมายฉบับนี้ก็ออกมาจากสภาด้วยความรวดเร็ว และไม่มีการแสดงความคิดเห็นของประชาชน เพราะฉะนั้นประชาชนต้องช่วยกันทำให้ประเทศไทยกลับไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนสามารถตรวจสอบฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติได้
นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง น้องชายของนายจาตุรนต์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 พรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า 4 - 5 ปีที่ผ่านมา ตนอึดอัดใจทั้งการบริหารบ้านเมืองและเศรษฐกิจ ตั้งแต่การยุบพรรคพลังประชาชน ในช่วงการชุมนุมพันธมิตรฯ ตอนนั้นตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตนพบว่าคนส่วนหนึ่งที่เข้ามาร่วมชุมนุมคือทหาร และต่อมาในการชุมนุม กปปส.ก็มีทหารเข้าร่วมเช่นเดียวกัน ดังนั้น ตนจึงเห็นว่าที่บ้านเมืองวุ่นวายมาตลอดสิบกว่าปี ส่วนหนึ่งมาจากทหาร แต่หลายคนกลับโทษประชาธิปไตย และหลังจากรัฐประหาร ตนลงพื้นที่พบว่าประชาชนยากจนลง เงินในระบบหายไปหลังจากยกเลิกการจำนำข้าว เฉลี่ย 6,000 บาทต่อไร่ ติดต่อกัน 5 ปี เท่ากับเงินหายไปจากชาวนา 30,000 บาทต่อไร่ รวม 60 ล้านไร่ จะเท่ากับ 1.88 ล้านล้านบาท ซึ่งเงินเหล่านี้จะถูกนำมาใช้จ่ายจำนวน 6 ต่อในระบบเท่ากับเงินในระบบจะหายไปกว่าสินล้านล้านบาท จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คนจนลง
นายพิชัย กล่าวว่า การสืบทอดอำนาจจะทำให้เศรษฐกิจแย่ เพราะความเชื่อมั่นและหายลงทุนหายไป การทุจริตคอร์รัปชันก็จะเพิ่มมากกขึ้น และการใช้อำนาจเบียดบัง ขณะที่โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก ประเทศไทยต้องรีบปรับตัว และถ้าได้ผู้นำที่ดีประเทศก็จะเจริญ
น.ส.อรุณี กล่าวว่า ตอนเวลาที่ทำงานเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยและวิจัย ได้เห็นปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชน คนตัวเล็กขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุน และโอกาสในการเข้าถึงความเสมอภาคทางกฎหมาย สิ่งเดียวที่คนเหล่านี้คาดหวังจะได้รับความช่วยเหลือคือรัฐบาล แต่ตจลอด 4 - 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลที่มาจากทหารกลับทำให้ปัญหายิ่งเพิ่มมากขึ้น ทั้งความปรองดอง ยาเสพติด เศรษฐกิจ คอร์รัปชัน ทุกอยากไม่ถูกแก้ตามสัญญา ประกอบกับการใช้กฎหมายสองมาตรฐาน เช่น นาฬิกายืมเพื่อนไม่มีความผิด และคดีเสือดำกำลังจะหลุด ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี คนรุ่นใหม่ไม่มีส่วนร่วมในการร่าง มีแต่คนรุ่นเก่าที่ไม่รู้จักเทคโนโลยีเข้ามาร่าง แม้กลุ่มของตนจะถูกยุบพรรค แต่อุดมการณ์ประชาธิปไตยจะไม่เสื่อมคลาย จะไม่ทนอยู่กับอำนาจเผด็จการริดรอนสิทธิ ดังนั้น สิ่งเดียวที่ประชาชนจะทำได้ คือ 24 มีนา หยิบปากกาเลือกฝ่ายประชาธิปไตย
ขณะที่ นายจาตุรนต์ ขึ้นกล่าวบนเวที มีประชาชนจำนวนมากออกมาให้ดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจ และมี นายอนันต์ ฉายแสง พ่อของนายจาตุรนต์ นั่งรถเข็นมาฟังการปราศรัยหน้าเวที โดย นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรดีกว่ากลับมาหาพี่น้องที่สนับสนุนกันมาโดยตลอด วันนี้ตนมาในนามของกลุ่ม "ก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย" หลังจากที่พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบไปแล้ว แม้ตนและคนในกลุ่มไม่ได้เป็นผู้สมัคร ส.ส.แล้ว แต่ที่ยังมาปราศรัยอยู่ เพราะจุดมุ่งหมายในชีวิตไม่ใช่ไปสู่ตำแหน่งใด แต่ต้องการเปลี่ยนบ้านเมืองนี้ให้เจริญก้าวหน้าเป็นประชาธิปไตย ถ้าพี่น้องยังเดือดร้อน ประชาชนยังเดือดร้อน ประเทศยังล้าหลังอยู่ ผมก็ยังต้องทำหน้าที่ จาตุรนต์ ฉายแสง จะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป
ทั้งนี้ นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า เมื่อก่อน จ.ฉะเชิงเทรา เป็นเมืองที่ประชาชนส่วนใหญ่ทำนา มีแต่คนยากคนจน พ่อของตนที่เป็นผู้แทนราษฎรก็ถามกับตนว่าโตขึ้นมาตนจะช่วยเหลือคนจนได้เท่าพ่อหรือไม่ หลังจากเรียนจบจากต่างประเทศ ตนก็กลับมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ล้มลุกคลุกคานมามาก และผ่านรัฐประหารมาหลายครั้ง แต่ตนก็พูดกับสื่อเสมอว่าตนไม่เห็นด้วยกันการรัฐประหาร และทุกวันนี้ผลพวงจากรัฐประหาร คือ เศรษฐกิจในประเทศไม่ดี เนื่องจากการส่งออกที่ลดลง ไม่มีการลงทุน สินค้าการเกษตรราคาตกต่ำไม่าได้รับการดูแล ทำให้กำลังซื้อลดลง เศรษฐกิจในเมืองก็แย่ตามไปด้วย
ขณะเดียวกัน การประมูลการสร้างรถไฟ และดิวตี้ฟรี ต่างได้รับการประมูลโดยนายทุนขนาดใหญ่ ที่เคยแวะเวียนเขช้ามาถ่ายรูปกับรัฐบาลในทำเนียบฯ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายเงินให้คนจนไปรูดซื้อของเงินก็เข้าแต่บริษัทนายทุนขนาดใหญ่ทั้งนั้น ทำให้เกิดช่องว่างเศรษฐกิจรวยกระจุกจนกระจาย แม้จะมี EEC แต่นักลงทุนก็ไม่มีความเชื่อถือ ยังไม่เข้ามาลงทุน ถ้าหลังการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกฯ ต่อ ภาพลักษณ์ประเทศก็จะเป็นเผด็จการเหมือนเดิม และการให้เช่าที่ดินระยะยาวของ EEC หากผู้เช่าปรับแก้ผังเมืองก็อาจจะมีผลต่อสิ่งแวดล้อม นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ และเพิ่มฐานเงินเดือนจำนวนมาก จะเอาเงินมาจากไหน และถ้าทำได้ 5 ปี แล้วทำไมไม่ทำ เมื่อก่อนจะขึ้นค่าแรง 300 บาท พล.อ.ประยุทธ์ บอกทำไม่ได้ ไม่มีเงิน แต่เมื่อวานอัดคลิปวีดิโอขึ้นเวทีปราศรัยพรรคพลังประชารัฐ บอกว่าพรรคนี้มีนโยบายที่ดี
นายจาตุรนต์ กล่าวย้ำว่า เกินวันที่ 24 มี.ค.เป็นต้นไป พล.อ.ประยุทธ์ กับ คสช.อยู่ต่ออีกวันเดียวก็ไม่ได้แล้ว อย่าว่าถึง 20 ปี ตามยุทธศาสตร์ชาติ เลย ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลัวตกขบวน แม้ก่อนหน้านี้จะไม่บอกจุดยืนว่าร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ แต่ตอนนี้กลับมาประกาศว่าไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ แต่จะร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ทำให้นายสุเทพไม่พอใจ แต่คนของนายสุเทพอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมาก อาจจะยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้น นโยบายของประชาธิปัตย์อาจไม่ได้ใช้บริหารประเทศ แต่ใช้นโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่บริหารมา 5 ปี ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้ ต่อให้ใครเอาเงินไปให้ก็อย่าไปเลือก เพราะจะทำให้เศรษฐกิจเสียหายต่อไป
นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า มาพูดทุกครั้งก็ได้รับการสนับสนุนจากคนฉะเชิงเทราทุกครั้ง ลงสมัครรับเลือกตั้งทุกครั้งก็ได้รับการสนับสนุนทุกครั้ง เป็นนักการเมือง เป็นรัฐมนตรี หรือเป็นฝ่ายค้าน ก็เพราะการสนับสนุนของพี่น้องฉะเชิงเทรา ตนไม่เคยลืม ตลอดชีวิตตนคิดมาเสมอ และตนจะไม่ทำให้ผิดหวัง ไม่เคยมีเรื่องด่างพร้อยทุจริต ยืนอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตยมาตลอด ไปไหนเจอคนพูดถึง จาตุรนต์ ฉายแสง ไม่อายใคร
"ถ้าวันนี้พี่น้องประชาชนอยากเลือกตน หรือตระกูลฉายแสง ขอให้ทุกคนไปลงคะแนนสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย หยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับตนแม้ว่าจะไม่เป็นผู้สมัคร แต่จากนี้ไปจะยังไม่ยุติบทบาททางการเมือง ตราบใดที่พี่น้องยังสนับสนุน ตนจะอยู่กับการเมือง ต่อสู้ให้บ้านเมืองนี้เป็นประชาธิปไตยให้ได้" นายจาตุรนต์ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ห้ามประชาชนเลือกพรรคไทยรักษาชาติ เพราะจะทำให้บัตรเสีย วันนี้ตนมาปราศรัยเพื่อให้ประชาชนไปลงคะแนนให้พรรคฝั่งประชาธิปไตย แต่อย่าเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเป็นเผด็จการที่ร่างกฎหมายเอง และเพิ่งมีข่าวจาก จ.แพร่ ว่ามีการออกหนังสือราชการให้นายอำเภอเกณฑ์ประชาชนมาต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ สวมหมวกหลายใบ ทั้งนายกฯ , หัวหน้า คสช. , แคนดิเดตนายกฯ และรัฏฐาธิปัตย์ เอาเปรียบนักการเมืองพรรคอื่น และที่อ้างว่าลงพื้นที่ตรวจราชการ แต่ตนไม่เข้าใจว่าอยู่มา 5 ปี ทำไมไม่เห็นออกถี่ขนาดนี้ ตนเข้ามาทำงานพรรคไทยรักษาชาติไม่เคยต่อรองตำแหน่ง แต่ของต่อสู้เพื่อประชาชนต่อต้านเผด็จการ และตนเชื่อว่าปาฏิหาริย์จะเกิดได้ด้วยอำนาจอธิปไตยของประชาชน ไม่ว่าถ้า คสช.จะวางเกมแบบไหน ถ้าประชาชนไม่เอาด้วย ส.ว.250 ก็ไม่มีความหมาย และหลังจากนี้ กลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย จะเดินทางไปปราศรัยที่ จ.นครศรีธรรมราช , จ.พิษณุโลก , จ.เพชบูรณ์ , จ.ลพบุรี , และ จ.สุรินทร์ ตามลำดับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี