20 มี.ค.62 ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและการปฏิรูปการบริหาราชการแผ่นดิน ด้านความมั่นคง โดยรัฐบาลพยายามเร่งดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลอัตลักษณ์แห่งชาติ และอัตลักษณ์บุคคลแห่งชาติ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลเห็นปัญหาของความไม่เชื่อมโยงข้อมูลของอัตลักษณ์บุคคลที่หน่วยงานที่มีและใช้อยู่ แต่ไม่มีการเชื่อมโยงกันและไม่สามารถบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ จึงได้เร่งรัดจัดทำฐานข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลแห่งชาติขึ้นมาโดยให้กระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม เป็นเจ้าภาพร่วมกับกระทรวงการคลัง ต่างประเทศ คมนาคม พาณิชย์มหาดไทย ยุติธรรม แรงงาน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการฐานความมั่นคงกับอัตลักษณ์บุคคลแห่งชาติเพื่อจะได้ดูแลความปลอดภัยด้านความมั่นคงของประเทศ ซึ่งในภาพรวมเนื่องจากปัจจุบันมีข้อมูลอย่างกระจัดกระจาย
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งให้เร่งตรวจสอบความครบถ้วนของข้อมูลทุกหน่วยงาน และเร่งดำเนินการเชื่อมโยงของหน่วยงานและศูนย์ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลกับหน่วยงานด้านความมั่นคง และกำหนดให้มีการบริหารจัดการร่วมกันโดยให้นำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ พร้อมทั้งให้พิจารณาเชื่อมโยงระบบกล้องวงจรปิดเพื่อการรักษาความปลอดภัย และดูแลความสงบความปลอดภัยให้กับบ้านเมือง และความยุติธรรมให้กับประชาชนในการใช้เป็นหลักฐานทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคลเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรมเพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ
ขณะที่ในพื้นที่ภาคใต้ได้สั่งศูนย์บูรณาการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยดำเนินการร่วมกับหน่วยงานภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งเรื่องนี้จะช่วยให้การประเมินผลในการคุ้มครองและดูแลความสงบสุขและทุกข์ผดุงความยุติธรรมให้กับประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ จะให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นหน่วยงานในการกำกับดูแลในการขับเคลื่อนด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี