พื้นที่เลือกตั้ง จ.กาฬสินธุ์ ที่มีการแบ่งเขตใหม่ ทำให้จาก 6 เขตเลือกตั้ง เหลือ 5 เขต แชมป์เก่าที่ยึคครองเก้าอี้มายาวนาน พรรคเพื่อไทย แต่มีเพียง 1 ที่ประกาศมาซบพรรคน้องใหม่อย่าง พลังประชารัฐ “นิพนธ์ ศรีธเรศ” อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งการย้ายพรรคครั้งนี้ยังหนีไม่พ้นตำแหน่งขุนพล ที่นำทัพ พปชร. ลุยสู้ศึก แบบดุเดือด เน้นยุทธศาสตร์เข้าถึงประชาชน เข้าใจชาวบ้าน หลายคนมีคำถาม และรอฟังคำตอบ “ทำไมจึงตัดสินใจย้ายออกพรรคเพื่อไทยมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ”
นิพนธ์ ศรีธเรศ กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจจากพรรคเพื่อไทยมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ สืบเนื่องจากรัฐธรรมนูญ ซึ่งผ่านการเห็นชอบของพี่น้องประชาชนในเมื่อเราเป็นนักการเมืองก็ต้องเคารพประชามติเสียงส่วนใหญ่ประการสำคัญอีกอย่างก็คือหากมองย้อนหลัง จะเห็นว่าประเทศไทยเกิดความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรง ตั้งแต่ปี 2547 พี่น้องเสื้อเหลืองมาเดินขบวนขับไล่ อดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลังจากนั้นม็อบเสื้อเหลือง เสื้อแดงผลัดเปลี่ยนกันชุมนุม จนถึงปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในนามหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)จัดแยกเสื้อเหลือง เสื้อแดงออกจากกัน น่าจะจำกันได้ว่า ในเวลานั้นมีการเชิญทางพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยมาตกลงกันปรากฏว่าคุยกัน 3 ชั่วโมงตกลงกันไม่ได้ประเทศไทยกลับเข้าสู่ความวุ่นวาย ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาควบคุมสถานการณ์จนความวุ่นวายสงบลงมีการส่งทหารเข้าไปดูแลแกนนำเสื้อเหลือง เสื้อแดง เชิญอดีตสส.ไปปรับทัศนคติ
วันนี้เรามองย้อนไปถึงข้างหลัง 10 ปีแห่งความขัดแย้งเราถามพี่น้องเสื้อเหลือง และเสี้อแดงทุกคนตอบเหมือนกันหมดว่า ที่มีความขัดแย้งกันนั้นเราได้เพียงความสูญเสียทุกอย่าง โดยเฉพาะความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยว นักลงทุนหนีจากประเทศไทย มีนักท่องเที่ยวเข้ามาลดลง
หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาบริหารประเทศ เหตุทางการเมืองสงบลง นักท่องเที่ยวนักลงทุนไหลกลับสู่ประเทศไทย อย่างปีที่แล้วมีนักท่องกลับเข้ามา 40 ล้านคน ทำรายได้เข้าประเทศ 2 ล้านล้านบาท เพื่อนๆ ในพรรคเพื่อไทยรวมทั้งคนของพรรคประชาธิปัตย์ ชี้ด่าว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์เข้ามาปกครองประเทศ ทำให้เศรษฐกิจไม่ดี แต่ไม่พูดถึงสาเหตุสำคัญ ว่ามันเกิดจากความขัดแย้งทางการเมือง เกิดการชุมนุมเดินขบวนมานานถึง 10 ปี
นิพนธ์ ศรีธเรศ ยังกล่าวอีกว่า คนที่รู้สำนึกคนที่รักความเป็นธรรมโดยเฉพาะอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ตัดสินใจมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ รู้ว่าเราผิดพลาดแล้วนะ เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ เราเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์น่าจะทำให้บ้านเมืองสงบได้ความสงบนี้มันนำมาซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง นำมาซึ่งเศรษฐกิจ มีเงินรายได้มาทำรถไฟฟ้าสายต่างๆ ได้ในกรุงเทพฯและปริมณฑล มีเงินมาทำรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง ยังมีเงินบางส่วนเจียดมาทำบัตรประชารัฐเยียวยา ความเจ็บปวดความยากจนให้กับพี่น้องประชาชน มีเงินมาช่วยค่าเกี่ยวข้าว มาช่วยพี่น้องอสม.มาช่วยเป็นเงินเดือน คนแก่คนเฒ่า
เพราะฉะนั้นเลือกตั้งเที่ยวนี้สิ่งที่เราจะได้มากที่สุดก็คือความสงบสุขของบ้านเมืองถ้าหากที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรี สิ่งที่เกิดกับประเทศเราก็คือ นักลงทุนนักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลเข้ามาประเทศไทยมีเงินเราสามารถพัฒนาประเทศได้ ทำโครงสร้างพื้นฐานเสร็จปัญหาเล็กๆ น้อยๆโดยเฉพาะปัญหาสาธารณูปโภคในพื้นที่
นิพนธ์ ศรีธเรศ กล่าวว่า สถานการณ์ในพื้นที่เลือกตั้ง เขต 5 จ.กาฬสินธุ์ และพื้นที่อื่นๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นอย่างไรบ้างนั้นต้องขอบอกว่า ในเขตอีสานนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ มองรวมๆ ในการต่อสู้ครั้งนี้เปรียบเหมือนพรรคเพื่อไทย เป็นภาพเก่า และพรรคพลังประชารัฐเป็นภาพใหม่ คือภาพแห่งความสงบสุขร่มเย็นผู้สมัครพรรคเพื่อไทยหาเสียง จึงรุมปราศรัยโจมตีรัฐบาลพลเอกประยุทธ์กล่าวหาว่าไปลอกนโยบายของพรรคเพื่อไทย หารู้ไม่ว่าที่นายกฯประยุทธ์เดินมาถึงตรงนี้ได้ เพราะนายกฯประยุทธ์ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบร่มเย็น นักท่องเที่ยวจึงไหลมามีเงินไหลเข้ามาด้วยพวกผมผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐก็จะต้องนำความจริงทั้งหมดนี้ไปอธิบายให้พี่น้องเข้าใจถ้าสามารถสร้างความจริงให้พี่น้องเข้าใจได้อานิสงส์ของพี่น้องที่เดินเข้าคูหาแล้วกาชื่อหมายเลขผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐสำคัญที่สุดก็คือจะทำให้บ้านเมืองสงบสุขเป็นต้นเหตุแห่งความสมบูรณ์พูนสุข ความร่มเย็นเป็นสุขของประเทศนี่คือเหตุผลใหญ่ที่ผมกล้าย้ายออกจากพรรคเพื่อไทยมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ
เราก็ต้องพยายามอธิบายด้วยเหตุด้วยผล เราผ่านความเจ็บปวดมา 10 ปีไม่ได้อะไรสูญเสียชีวิต สูญเสียทรัพย์สิน สูญเสียทุกอย่าง เพราะฉะนั้นความสูญเสียนี้เกิดจากการยึดถือทิฐิของคนเรา เกิดจากความโมโห หน้าที่ของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐต้องไปอธิบายว่าความจริงมันคืออะไร ความจริงที่มีผลดีต่อประเทศต่อตัวเรา ในที่สุดก็คือความสงบสุขของบ้านเมือง ผมเชื่อมั่นในพี่น้องประชาชนเพราะร่วมกันลงประชามติเห็นชอบในรัฐธรรมนูญ ทั้งๆที่พรรคเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์จับมือกันโหวตโน แต่ก็สู้กับพี่น้องประชาชนไม่ได้ เพราะพี่น้องประชาชนมีความคิดเป็นของตัวเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี