ก่อนศึกผาแดง! ‘วินทร์ เลียววาริณ’ยก‘สามก๊ก’เทียบ ‘ภท.-จิวยี่’คือ‘กังตั๋ง-เนวิน’
29 มี.ค.62 วินทร์ เลียววาริณ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ และนักเขียนเจ้าของรางวัลซีไรต์ชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “วินทร์ เลียววาริณ” เทียบเคียงสถานการณ์ทางการเมืองกับนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ “สามก๊ก” มีเนื้อหาดังนี้
ก่อนศึกผาแดง เล่าปี่ส่งขงเบ้งไปเชื่อมเป็นพันธมิตรกับซุนกวน เพื่อให้ช่วยรบกับโจโฉ
เป็นงานยากแสนสาหัส เพราะขุนนางกังตั๋งส่วนใหญ่เทใจไปสนับสนุนเป็นพันธมิตรกับโจโฉ
ซุนกวนตัดสินใจไม่ถูกว่าจะไปทางฝั่งโจโฉหรือฝั่งเล่าปี่ นางงอก๊กไถ้จึงเตือนว่า ก่อนซุนเซ็กพี่ชายของซุนกวนตาย สั่งเสียว่า “ความเมืองภายในให้ฟังเตียวเจียว ความเมืองภายนอกให้ฟังจิวยี่”
ขงเบ้งย่อมรู้ว่า ซุนกวนต้องไปปรึกษาจิวยี่ จึงชิงรุก ขอให้โลซกพาตนไปพบจิวยี่
จิวยี่รู้ดีว่าขงเบ้งมาโน้มน้าวใจตน กล่าวว่า "ข้าฯมองไม่เห็นว่าจะรบกับโจโฉไปทำไม"
ขงเบ้งบอกว่า ก็สมควรที่จิวยี่จะยอมแพ้โจโฉ เพราะการยอมแพ้ทำให้ชาวกังตั๋งปลอดภัย เหล่าขุนนางก็จะได้รับยศถาบรรดาศักดิ์จากโจโฉ
"แค่ยกสตรีกังตั๋งสองคนให้โจโฉ"
จิงยี่ถามว่า "สตรีสองนางนี้คือใคร?"
ขงเบ้งตอบว่า "โจโฉเป็นผู้มักมากในกามคุณ เสาะหาหญิงงามมาบำเรอตน เขาได้ยินว่าในแผ่นดินกังตั๋งมีสองหญิงงาม คือไต้เกี้ยวกับเสียวเกี้ยว บุตรีของท่านเฉียวกง โจโฉจึงสร้างปราสาทรอไว้เชยชมสองหญิงงาม อีกทั้งให้บุตรชายโจสิดที่เป็นกวีแต่งคำประพันธ์ยกยอสองหญิงที่จะมาเคียงคู่พ่อ"
ขงเบ้งหัวเราะว่า "ยึดกังตั๋งเมื่อไร จะนำหญิงทั้งสองไปบำเรอ ดังนั้นจิวยี่แค่ส่งนางไต้เกี้ยวกับเสียวเกี้ยวไปให้โจโฉ แผ่นดินกังตั๋งก็สงบ"
จิวยี่โกรธจนตัวสั่น บอกว่า "โจโฉดูแคลนเรามากเกินไปแล้ว เราจะรบกับโจโฉ"
ขงเบ้งตกใจ โลซกจึงอธิบายว่า "ไต้เกี้ยวคือภรรยาของซุนเซ็ก เสียวเกี้ยวเป็นภรรยาของจิวยี่"
ขงเบ้งตีหน้าตกใจ โค้งแล้วโค้งอีก บอกจิวยี่ว่า "ข้าพเจ้าสมควรตายๆ"
เมื่อทำให้เป็นเรื่องส่วนตัว กังตั๋งก็ร่วมเป็นพันธมิตรกับเล่าปี่ รบกับโจโฉ
…………….
นาทีนี้บรรดาคอการเมืองไทยคุยกันเรื่องสองพรรคใหญ่พยายามร่วมเป็นพันธมิตรกับพรรคภูมิใจไทย
ผู้คร่ำหวอดในวงการเมืองบางท่านเชื่อว่า สูตร 'เพื่อไทย + ภูมิใจไทย' เกิดขึ้นยาก
ประการหนึ่ง มีการวิเคราะห์กันว่า สายสัมพันธ์ทางธุรกิจของผู้นำภูมิใจไทยกับโครงการภาครัฐที่ผ่านมานั้น จัดอยู่ในระดับ "ดีมาก"
อีกประการหนึ่งคือ 'เรื่องส่วนตัว'
เรื่องส่วนตัวอะไร?
พรรคภูมิใจไทยก็มีคำกล่าวคล้ายๆ กังตั๋ง “ความเมืองภายในให้ฟังเนวิน ความเมืองภายนอกให้ฟังเนวิน”
เนวิน ชิดชอบ นามนี้มิใช่นักการเมืองธรรมดา หากคือเซียนนักการเมือง
ฝีมือเดินหมากไม่ด้อยกว่าขงเบ้ง กุยแก หรือสุมาอี้
หลังเหตุการณ์ 'แทงข้างหลัง' สมัคร สุนทรเวช แต่คมมีดเผลอไปโดนเนวินเป็นแผลฉกรรจ์ ส่งผล butterfly efect ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเมืองของไทย เริ่มที่ เนวิน ชิดชอบ เอ่ยประโยคคลาสสิก “มันจบแล้วครับนาย”
ริ้วคลื่นแห่ง butterfly efect พัดโถมให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลอยขึ้นไปบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอย่างน่าอัศจรรย์
คำถามคือ ผ่านไป 1,800 ปี กลยุทธ์ 'ไต้เกี้ยว-เสียวเกี้ยว' ยังจะใช้ได้ผลหรือไม่? บาดแผลกรณี สมัคร สุนทรเวช หายแล้วยัง?
ไม่มีใครรู้
เรารู้เพียงแต่ว่า วงการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร
Everything is possible มาตั้งแต่ยุคสามก๊ก
.………………..
วินทร์ เลียววาริณ
เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี