"สุวัจน์"ลั่นต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพคือเกือบ300เสียง ไม่หวั่นต้องเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ระบุไม่มีงูเห่าได้เป็นดี ยันยังไม่มีพรรคไหนมาทาบ แนะกกต.ออกมาเคลียร์ทุกประเด็นที่ถูกสงสัย
1 เม.ย.62 ที่บ้านเลขที่ 333 ถ.ราชวิถี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) ได้มีการนัดพูดคุยกับแกนนำพรรคบางส่วน เช่น นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค , นายดล เหตระกูล เลขาธิการพรรค , นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค , นายประเสริฐ บุญชัยสุข รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และคณะที่ปรึกษาพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค , พล.อ.ฐิติวัจน์ กำลังเอก อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และนายวัชรพล โตมรศักดิ์ ว่าที่ ส.ส.หนึ่งเดียวของพรรคชาติพัฒนา ที่ได้เข้ามาในเขต 2 จ.นครราชสีมา
โดย นายสุวัจน์ ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการพูดคุยกันกับผู้ที่รับผิดชอบการเลือกตั้งที่ผ่านมา ว่าพรรคมีจุดอ่อนจุดแข็งอะไรที่ต้องปรับปรุง การเลือกตั้งครั้งนี้ที่คาดว่าจะได้ 3 ที่นั่ง ซึ่งต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อีกครั้ง เราประเมินกันว่าเป็นเรื่องของการเมืองที่วิเคราะห์ยาก มีลักษณะเป็นการเมืองใหม่ ประชาชนออกมาใช้สิทธิกันมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ กติกาใหม่ และ กกต.ซึ่งเป็นผู้ที่ดูแลการเลือกตั้งก็ชุดใหม่ ดังนั้น จึงไม่กล้าฟันธงว่าพรรคชาติพัฒนาจะได้จำนวนเท่าไหร่
"ครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่ดูเหมือนว่ามีขั้วทางการเมืองที่ชัดเจน ทำให้ผลการเลือกตั้งออกมาในลักษณะนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามคะแนนจากบัญชีรายชื่อก็ยังถือว่าดีอยู่ ทั้งที่มีการเปลี่ยนเขตเลือกตั้งใหม่ จึงทำให้มีจำนวน ส.ส.ในเขตเลือกตั้งน้อยลงไป โดยภาพรวมถือว่าน้อยกว่าเดิมแต่ก็พอใจ ซึ่งต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาว จ.นครราชสีมา เรายอมรับผลการเลือกตั้งทุกประการ ไม่มีข้อสงสัยการทำงานของ กกต.แต่อย่างใด ตอนนี้รอคำตอบจาก กกต.ที่จะให้ความชัดเจนว่าพรรคการเมืองไหนได้กี่ที่นั่ง สำหรับพรรคชาติพัฒนาไม่ได้มีประเด็นข้อสงสัยใด ทุกอย่างว่ากันไปตามกฎเกณท์กติกา"
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ส่วนความไม่เข้าใจต่างๆ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์นั้นก็เป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะเป็นผู้ชี้แจง ส่วนกรณีที่มีการล่ารายชื่อขับไล่ กกต.จนถูกวิจารณ์ว่าอาจนำไปสู่การฟ้องร้องเลือกตั้งเป็นโมฆะนั้น คิดว่าสถานการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้แตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก มีผู้ออกมาใช้สิทธิจำนวนมาก มีความตื่นตัวทางการเมืองสูง มีความคาดหวังต่อการเลือกตั้งในครั้งนี้สูง ขณะที่กติกาใหม่จะเห็นได้ว่าบัตรเสียเยอะมากถึง 2 ล้านใบ กกต.เองก็ใหม่ ดังนั้น เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องชี้แจงให้ชัดเจน เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ ว่าการดำเนินการควบคุมการเลือกตั้งและบริหารจัดการครั้งนี้ทำมาได้เรียบร้อยอย่างไร รวมทั้งอธิบายถึงความที่เกิดความไม่เข้าใจที่มาของคะแนน กกต.ต้องชี้แจงให้เคลียร์ทุกคำถาม
"ตอนนี้เกมส์ของผู้เล่นได้จบไปแล้ว ตอนนี้เป็นเกมส์ของกรรมการที่จะบอกว่าใครแพ้ใครชนะ ใครได้คะแนนกี่คะแนน ผู้เล่นหรือประชาชนสงสัยอะไร กกต.ก็จะต้องชี้แจงทำความเข้าใจให้ชัดเจน ว่าเป็นอย่างนี้เพราะอะไร เป็นอย่างนั้นเพราะอะไร"
เมื่อถามว่า 3 เสียงของพรรคชาติพัฒนามีความสำคัญ ขณะนี้มีใครทาบทามให้ร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันอย่างเป็นกิจลักษณะ ขณะนี้ผลการเลือกตั้งยังไม่ชัดเจน คะแนนของการจับขั้วทางการเมืองก็ยังสูสีกันมาก ดังนั้น คงต้องดูผลคะแนนอย่างเป็นทางการจากทาง กกต.ซึ่งพรรคชาติพัฒนาไม่ห่วงว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือเป็นรัฐบาล แต่ที่ห่วงตอนนี้คือการเมืองหลังจากนี้ เพราะทุกคนคาดหวังว่าเมื่อเลือกตั้งแล้วบ้านเมืองจะเรียบร้อย มีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ เข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่เมื่อดูโครงสร้างของตัวเลขที่เกิดขึ้นจากผลการเลือกตั้งแล้ว วันนี้เห็นได้ว่ายังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของเสถียรภาพรัฐบาล ว่าใครจะได้เสียงข้างมาก ซึ่งตรงนี้มีความน่าเป็นห่วงมากกว่า
"น่าเป็นห่วงเรื่องเสถียรภาพการจัดรัฐบาล ยิ่งถ้าเสียงใกล้เคียงกันมาก ตัวเลขใกล้เคียงกันมาก ก็มีนัยยะสำคัญอย่างมากต่อเสถียรภาพรัฐบาลใหม่ ถ้ารัฐบาลขาดเสถียรภาพในเรื่องของตัวเลข ก็อาจกระทบต่อแผนงาน กระทบต่อความเชื่อมั่น โดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศ การลงทุน การค้าขายจากต่างประเทศ ถ้าเสถียรภาพของรัฐบาลไม่เข้มแข็ง ย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจที่เราต้องพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศ รวมไปถึงเศรษฐกิจโลก อียู หรือจีน ดังนั้น ผลกระทบที่รอพวกเราอยู่จึงต้องอาศัยแรงเศรษฐกิจจากภายนอก จึงอยากเห็นรัฐบาลมีตัวเลขและมีเสถียรภาพของการจัดตั้งรัฐบาลที่มากเพียงพอที่จะสร้างความเข้มแข็ง เพื่อให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลใหม่ ดังนั้น เราต้องมีรัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพ ซึ่งผมเคยให้ความเห็นไว้ว่าเสถียรภาพที่เหมาะสมที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบเศรษฐกิจ สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้ ควรมีตัวเลขเกือบ 300 เสียงด้วยซ้ำไป เพราะที่พูดกันถึง 250 เสียงทุกวันนี้เป็นตัวเลขที่บอบบางมาก ย้ำว่าเราไม่ได้เป็นห่วงว่าเราจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่ห่วงว่าอยากให้หลังการเลือกตั้งเราหรือรัฐบาลจะมีเสถียรภาพ"
ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลใหม่อาจมีอายุสั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า อย่าใช้คำว่าอายุรัฐบาลเลย เอาเป็นว่าอายุรัฐสภาก็แล้วกัน หากมีเสียงน้อยมากๆ การจะประชุมสภาแต่ละครั้ง จะต้องผ่านกฎหมาย ผ่าน พ.ร.บ.ใดๆ ตัวเลขที่เหมาะสมก็ต้องเกือบ 300 เสียง เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองต้องช่วยกันคิดว่าจะมีแนวทางอย่างไรเพื่อทำให้เกิดรัฐบาลที่มีเสถียรภาพและคิดถึงบ้านเมือง
"เรายังมีเวลาอีกเดือนกว่าจนกว่า กกต.จะรับรองผลอย่างเป็นทางการ ตอนนี้ตัวเลขยังไม่นิ่ง และยังไม่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ ต้องยอมรับว่ายังไม่นิ่ง ยังมีเวลา กกต.จะรับรองภายในวันที่ 9 พ.ค.ตอนนี้จึงต้องช่วยกันรักษาบรรยากาศต่างๆ ก่อนที่จะประกาศผลอย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะจัดตั้งรัฐบาล ขอให้ช่วยกันก็แล้วกัน ให้ออกมาดี ออกมาเรียบร้อย สิ่งที่เราเป็นห่วงคือหากเสียงของฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลต่างกันน้อยแค่ 5 - 10 เสียง ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะต่างชาติอาจมองว่าเราค่อนข้างที่จะบอบบางต่อเสถียรภาพ ภูมิคุ้มกันในสภาจะน้อย ดังนั้น จึงต้องร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อย"
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับกรณีที่มีข่าวเรื่องงูเห่า นายสุวัจน์ กล่าวว่า เรื่องงูเห่าเป็นเรื่องการคาดการณ์ว่าถ้ารัฐบาลมีเสถียรภาพอย่างนี้ จึงมีการไปนึกถึงในอดีต ซึ่งถ้าไม่มีงูเห่าได้เป็นดี เหมือนกับเราเล่นการเมืองตามกฎและกติกา ที่มีการพูดถึงเรื่องงูเห่า คงมาจากเรื่องจำนวนเสียงและเสถียรภาพ ซึ่งถ้าเสถียรภาพนิ่งแล้วก็เป็นไปตามกลไกของสภาโดยปกติ เมื่อถามว่า มองว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเกิดรัฐบาลแห่งชาติขึ้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตอนนี้ทุกฝ่ายพยายามที่จะหาความชอบธรรมด้วยการหาเสียงข้างมากจาก 500 เสียงเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวถามถึงการพบปะกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะจับมือกันเพื่อให้มีศักยภาพมากขึ้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ไม่ได้คุยกับใครเลย ส่วนที่มีข่าวว่าตนไปพูดคุยกับนายสุเทพนั้น ขอปฏิเสธว่าไม่ได้พูดคุยการเมืองเลย เป็นเพียงการไปทานอาหาร แล้วเจอกัน ทักทายกันปกติ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีบางพรรคการเมืองที่เสนอตัวเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล มีการเสนอประโยชน์ต่างตอบแทนให้กับพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อรวบรวมเสียง มองว่าจะทำให้การเมืองย้อนกลับสู่วังวนเดิมหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ไม่ทราบ สำหรับพรรคชาติพัฒนาไม่มีใครมาพูดคุยในลักษณะนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าว นายสุวัจน์พูดคุยอย่างเป็นกันเองกับบรรดาผู้สื่อข่าว ถึงประเด็นการเลือกตั้งซ่อม กับการเลือกตั้งใหม่ โดยได้กล่าวติดตลกว่า "เลือกตั้งซ่อมต้องมาก่อนสิ แหม แค่นึกถึงเลือกตั้งซ่อมก็หนาวแล้ว แล้วอย่าเพิ่งพูดถึงเลือกตั้งใหม่เลย อย่าเพิ่ง" นายสุวัจน์ กล่าวปนหัวเราะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี