ด่วน!!! กกต.สั่งเลือกตั้งใหม่ 6 หน่วย นับคะแนนใหม่ 2 หน่วย
4 เม.ย.62 นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงว่า ที่ประชุม กกต.เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณากรณีผลการนับคะแนน ส.ส. และกรณีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน โดยมีมติสั่งให้นับคะแนนใหม่ใน 2 หน่วยเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.ขอนแก่น คือ
1.หน่วยเลือกตั้งที่ 1 หมู่ที่ 1 ต.บัวใหญ่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
2.หน่วยเลือกตั้งที่ 5 หมู่ที่ 5 ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
ทั้งนี้ เนื่องจากพบว่าการขีดคะแนนไม่สัมพันธ์กับการขานคะแนน โดย กกต.จะแจ้งมติไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขต (กกต.เขต) ซึ่งจะไปพิจารณากำหนดวันในการนับคะแนนใหม่
นอกจากนี้ยังสั่งให้มีการเลือกตั้ง ใน 6 หน่วยเลือกตั้ง ใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย
1. จ.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 จำนวน 2 หน่วย ได้แก่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 5 ต.ปางหลวง อ.เกาะคา และหน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่ที่ 2 ต.ศาลา อ.เกาะคา
2. จ.ยโสธร เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 6 ต.หัวเมือง อ.มหาชนะชัย
3. จ.เพชรบูรณ์ เขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 12 หมู่ที่ 12 ต.เข็กน้อย ต.เขาค้อ
4. จ.พิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 6 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม
5 กรุงเทพมหานครเขตเลือกตั้งที่ 13 หน่วยเลือกตั้งที่ 32 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ
ทั้งนี้ เนื่องจากพบว่า พบว่า ผลการนับคะแนนที่มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกับจำนวนผู้มาแสดงตน และไม่ตรงกับรายเซ็นที่ต้นขั้วบัตร จำนวนบัตรที่ถูกใช้ไปคือบัตรดี บัตรเสีย บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน ไม่ตรงกับผลการนับคะแนน
สำหรับวันเลือกตั้งใหม่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของ กกต. แต่คาดว่าจะเป็นหลังเทศกาลสงกรานต์ โดยผู้สมัครยังคงเป็นชุดเดิมทั้งหมดสามารถหาเสียงได้ แต่ค่าใช้จ่ายจะต้องลดจำนวนลงตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตามกรณีนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเริ่มพิจารณาของกกต.เท่านั้น เขตเลือกตั้งเหล่านี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาในเรื่องร้องเรียนหรือการกระทำไม่สุจริตที่อาจจะนำไปสู่การสั่งเลือกตั้งใหม่ทั้งเขต รวมทั้งยังมีกรณีของเขตเลือกตั้งหรือหน่วยเลือกตั้งอื่นๆที่มีปัญหาและยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของกกต. โดยกกต.จะพิจารณาสั่งเลือกตั้งใหม่ ไปพร้อมกันทั้งหมดในวันเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ในกรณีปัญหาเรื่องการนับคะแนนยังมีที่กกต.สั่งยุติเรื่องเพราะทราบสาเหตุและเห็นว่าเหตุนั้นไม่มีผลทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรมตามมาตรา 122 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง จึงมีมติให้ยุติเรื่องรวม 4 หน่วยเลือกตั้ง ประกอบด้วย
1. จ.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 4 หน่วยเลือกตั้งที่ 1 หมู่ที่ 1 บ้านกลางเวียง ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย ที่พบว่าปัญหาจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้นับคะแนนเพราะมีการฉีกบัตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว
2. จ.ประจวบคีรีขันธ์ เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ที่ 2 ต.บางน้ำปราณ (เขตเทศบาล) อ.ปราณบุรี ที่จำนวนผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้นับคะแนน เพราะผู้มีสิทธิมาแสดงตนใช้สิทธิโดยใช้ใบขับขี่และสำเนาบัตรประชาชน แต่เมื่อใช้สิทธิแล้วพับสำเนาบัตรประชาชนหย่อนในหีบบัตร แล้วบัตรเลือกตั้งออกไป เมื่อเจ้าหน้าที่นับคะแนนพบ จึงไปตามตัวและเจอบัตรเลือกตั้งในรถจึงได้แจ้งความดำเนินคดีข้อหานำบัตรเลือกตั้งออกหน่วยเลือกตั้ง
3. จ.สระแก้ว เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ 4 ต.ห้วยโจด อ.วัฒนานคร และ 4. จ.พิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 3 หน่วยเลือกตั้งที่ 18 หมู่ที่ 17 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง พบว่าปัญหาผู้มาใช้สิทธิมาแสดงตนและลงรายมือชื่อในบัญชีรายชื่อ แต่ไม่ลงลายมือชื่อในต้นขั้วบัตร
นายแสวง ยังกล่าวด้วยว่า กรณีการสั่งนับคะแนนใหม่ และการสั่งเลือกตั้งใหม่ดังกล่าวจะมีผลต่อการคำนวณจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่กำลังเป็นที่สนใจในขณะนี้ ซึ่งกกต.ยังไม่ได้มีการคำนวณ เพราะต้องรอผลการนับคะแนนและการสั่งเลือกตั้งใหม่ ดังกล่าวก่อน ส่วนเรื่องการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น ในส่วนของ กกต.ก็ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ยังไม่ข้อยุติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี