4 เม.ย.62 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการนับคะแนนบัญชีรายชื่อของกกต.ว่า กกต.มั่วตั้งแต่ต้น ความจริงต้องศึกษาข้อกฎหมายให้เสร็จสิ้นกระบวนความก่อนที่จะมีการจัดการเลือกตั้ง ไม่ใช่ว่าเลือกตั้งเสร็จ มาควานหาว่าวิธีการคิดเป็นอย่างไร ทุกอย่างจึงนำไปสู่ความไม่น่าเชื่อถือ แม้กระทั่งข้อเสนอล่าสุดที่ว่า พรรคใดไม่ได้ ส.ส.เขตจะมาคำนวณบัญชีรายชื่อไม่ได้ นี่ก็จะเป็นปัญหาใหม่ขึ้นมา เพราะทุกคนก็ไม่เคยมีความชัดเจนในเรื่องนี้กันมาก่อน เพราะต่างเข้าใจกันว่าอยู่ที่จำนวนเสียง ตนเองเห็นว่าบ้านเมืองมาถึงจุดที่ว่า เหนือกว่าเรื่องการนับคะแนน การจัดการบัญชีรายชื่อ คือ การจัดการเลือกตั้ง ไม่เป็นไปด้วยความสุจริต และเที่ยงธรรม ตามคำขวัญของ กกต. ตนเชื่อว่ามีความจงใจให้ตัวเลขไม่เท่ากัน เพราะว่ามันไม่มีเหตุผลเป็นอย่างอื่น ในการบวกลบคูณหาร เพราะจำนวนยอดผู้มาใช้สิทธิทั้งสองครั้งที่ได้มีการแถลงข่าวในวันที่ 24 มี.ค.และ 28 มี.ค.นั้น ต่างกันถึง 4 ล้านคน
"ผมไม่เชื่อว่า กกต.จะผิดพลาดถึงขนาดนั้น จึงขอตั้งข้อสงสัยว่า เป็นความตั้งใจวางประเด็นกันไว้หรือไม่ รวมถึงประเด็นเรื่อง บัตรดี กับคะแนนพรรคการเมืองห่างกันถึงสองล้าน ตนว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นปัญหาที่จะต้อง คิดกันต่อว่า กกต.ทำไปเพื่ออะไร ตัวเลขให้เท่ากันสองยอดไม่ใช่เรื่องที่ยาก แต่เหมือนกับจงใจให้ตัวเลขสองยอดไม่เท่ากัน ซึ่งก็ต้องคิดกันต่อว่าทำไปเพื่ออะไร ที่มากกว่าเรื่องบัญชีรายชื่อคือ การเลือกตั้งทั้งระบบมันหมดความน่าเชื่อถือไปแล้ว " ประธานนปช.กล่าว
และว่าความจริงการนับคะแนนต้องมีการถ่ายภาพกระดานที่เขานับ ไม่ใช่ว่าแค่ส่งเข้าแอพเป็นตัวเลขยอดคะแนน ซึ่ง คะแนนมันหายแบบผิดสังเกต หลากหลายเรื่องราวมาก ยกตัวอย่างเช่น ครอบครัวหนึ่ง ไปเลือกตั้ง 7 คน แต่พอมาดูการนับคะแนน ในจุดเลือกตั้งนั้น พรรคที่เลือกกลับไม่ได้สักคะแนนเดียว เป็นต้น แต่เรื่องเหล่านี้ก็เป็นเรื่องเล็ก เพราะเรื่องใหญ่ก็คือว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ คนมีความสงสัยกันทั้งหมด ตนจึงได้บอกว่ามันเกินคำว่าสกปรกไปแล้ว ปัญหาก็คือ จะเรียกศรัทธาความเชื่อมั่นกลับมาอย่างไร เพราะฉะนั้น การนับคะแนนเรื่องบัญชีรายชื่อ จะนับอย่างไรก็ตามสบาย แต่ว่ามันหมดความน่าเชื่อถือกันไปหมดแล้ว
"การเลือกตั้งมันไม่ใช่ทางออก แต่มันเป็นปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้นมาแล้ว แม้กระทั่งสามารถเคลียร์ได้ ตอบได้ทุกข้อสงสัย ตัวเลขก็ไปไม่ได้อยู่ดี “อย่างที่ผมเคยอธิบายว่า แจกใบแดง เหลือง ส้ม ดำ ขาว ตัวเลขก็จะไม่เปลี่ยน เพราะคนเลือกเป็นซีกกันไปแล้ว แต่ก็มีอีกหลาย ๆ อย่าง เช่น การรับรองไม่ครบตามจำนวน เพราะกฎหมายให้รับรอง 95 % ถ้าเว้นไว้ 5 % ก็เท่ากับ 25 เขต ตัวเลขก็เป็นจำนวนมาก ก็ส่งผล แต่อย่างไรประเทศก็ไปไม่ได้อยู่ดี ตนว่า ณ ขณะนี้ เอาเรื่อง กกต.ก่อน ทำให้คนไทยสบายใจเสียก่อน ส่วนเรื่องอื่นค่อยมาคิดกัน ส่วนเรื่องการนับคะแนนปาร์ตี้ลิสต์อย่างไรก็เอาที่สบายใจ”นายจตุพร กล่าว
ส่วนกรณีมีการเรียกร้องให้เปิดเผยผลคะแนนดิบว่า จากตัวเลขที่ไม่เท่ากัน ก็เป็นการอธิบายแล้วว่าจะไม่มีการเปิดตัวเลขคะแนนดิบกัน แม้ว่าเวลาผ่านมาเนิ่นนานหลังจากการเลือกตั้งแล้วก็ตาม ตนเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่มีการเปิด แม้ความจริงควรจะต้องเปิด เพราะคนเขาจะได้รู้ว่าใครเลือกใคร แต่ตนเชื่อว่า สถานการณ์แบบนี้ ไม่มีใครยอมที่จะให้เปิด ซึ่งก็จะยิ่งสร้างความน่าสงสัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็จะไม่เป็นประโยชน์กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเลย การเลือกตั้งควรจะเป็นความโปร่งใส สุจริต เที่ยงธรรม สบายใจกันทุกฝ่าย ทั้งผู้แพ้ และผู้ชนะ และผู้เลือกคือประชาชน ดังนั้นตนคิดว่า ถ้าสุจริต โปร่งใส กกต.ก็ควรเปิดเผยตัวเลขคะแนนดิบแต่ละเขต เพราะข้อเรียกร้องที่มีการเรียกร้องอยู่ในขณะนี้ คือ การเรียกร้องให้เปิดเผยความจริง ถ้ามันเป็นความจริงแล้วก็ไม่ควรจะปกปิด แต่ตนเชื่อว่า ลีลาแบบนี้จะไม่ยอมเปิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี