ญาติวีรชนเรียกร้อง5ข้อหยุดวาทกรรมขัดแย้ง เบรก‘ทักษิณ’เลิกพูดปลุกระดมมวลชน
7 เม.ย.62 นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ ว่า เป็นสถานการณ์ที่เป็นห่วงอย่างยิ่ง ภายหลังมีผลการเลือกตั้งออกมาแล้วบ่งบอกว่าการเมืองไทยยังแบ่งแยกกัน 2 ขั้ว และกำลังเผชิญหน้ากันต่อไปในการช่วงชิงการจัดตั้งรัฐบาล และกังวลว่าจะเป็นเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก ทั้งที่ตอนนี้ประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างตั้งตารอคอยน้ำทิพย์ชโลมใจมานานนับปีในการเริ่มต้นเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ยิ่งใกล้วันยิ่งเฝ้ารอคอยด้วยใจจดจ่อที่ทุกฝ่ายต้องมีความรักสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จึงขอให้ทุกฝ่ายหยุดการกระทำที่มิบังควรด้วยการหยุดสร้างความวาทกรรมปลุกเกลียดชังกล่าวหาใส่ร้ายกัน เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง
ทั้งนี้ ขอเรียกร้องดังนี้ 1.คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ต้องแสดงให้สาธารณชนเห็นว่าได้จัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ต่อข้อสงสัยและการร้องเรียนต่างๆจะต้องเร่งตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาด้วยความโปร่งใส แล้วชี้แจงให้กระจ่างชัด เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และหากมีความชัดเจนตามกติกาแล้วทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับกติกาเช่นกัน ซึ่งจะเป็นช่องทางการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง
2.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯของพรรคการเมืองต้องรู้จักสถานะของตนเอง อย่าดึงกองทัพเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะจะทำให้กองทัพต้องเผชิญหน้ากับประชาชนสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งรุนแรงได้
3.กรณี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. บอกว่าตนเองไม่ได้ทำงานการเมือง แต่ทำงานพิทักษ์ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์นั้น เป็นภารกิจที่ถูกต้องแล้ว แต่ไม่ควรสร้างวาทกรรม “ขวาพิฆาตซ้าย” ขึ้นมาหรือพูดจายั่วยุอีก และต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมืองให้ชัดเจน ส่วนนายทักษิณ ชินวัตร ที่ประกาศไม่ให้ยอมแพ้ ก็ไม่สมควรปลุกระดมมวลชนเช่นนี้อีก การกระทำที่ผ่านมาน่าจะเป็นบทเรียนเพียงพอแล้ว
4.บุคคลที่มีทัศนคติทางลบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์แล้วหนีไปอยู่ต่างประเทศแต่กลับยั่วยุประชาชนในประเทศใช้กำลังเปลี่ยนแปลงการปกครองแบบฝรั่งเศสเป็นการกระทำที่ขาดจิตสำนึกในความเป็นมนุษย์ที่เกิดมาเป็นคนไทยและไร้ความรับผิดชอบขอให้หยุดการกระทำที่เลวร้ายเช่นนี้ได้แล้ว
5.การดำเนินคดีกับผู้ที่เห็นต่างทางการเมืองต้องยกเลิกทั้งหมด เพราะประเทศมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และเลือกตั้งเสร็จแล้วกำลังเข้าสู่บรรยากาศปกติตามระบอบประชาธิปไตยไม่ว่าจะเป็นคดีเก่าหรือคดีใหม่ พนักงานสอบสวนหรืออัยการสามารถใช้ดุลยพินิจสั่งไม่ฟ้องได้
“ผมไม่สบายใจกับสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังตึงเครียด เขม็งเกลียวขึ้นเช่นนี้ เพราะผมก็เป็นผู้สูญเสียเพราะภัยความรุนแรงมาก่อน ผมรู้ว่าตัวเองและครอบครัวต้องทนทุกข์ทรมานกับบาดแผลที่ฝังลึก เจ็บปวดนี้มานานเพียงไร จึงไม่อยากให้ใครๆในบ้านเมืองของเราต้องประสบพบชะตากรรมแบบเดียวกันอีก ตัวการร้ายที่ก่อให้เกิดความรุนแรงถึงขั้นคร่าชีวิตของผู้คนตัวหนึ่งคือความเกลียดชังที่ถูกสร้างขึ้นและบ่มเพาะด้วยการให้ร้ายฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับตนด้วยวาจาที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) จึงอยากขอวิงวอนทุกคนในสังคมไทยให้คอยเฝ้าระวังพิษร้ายของวาจาที่สร้างความเกลียดชังทุกชนิด เพราะผลที่แน่นอนอย่างหนึ่งของพิษชนิดนี้ คือ สร้างโศกนาฎกรรมที่เราได้เคยประสบมาด้วยกันหลายครั้งหลายหนแล้ว” นายอดุลย์ กล่าว
นายอดุลย์ กล่าวด้วยว่า ถึงเวลาที่ต้องร่วมกันป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนั้นอีก และให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของพระราชพิธีอันสำคัญยิ่งของประเทศที่เป็นจุดศูนย์รวมของจิตใจคนทั้งขาติ เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงเจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี