มท.1เปิดศปถ.เฝ้าระวัง
7วันอันตราย
รับมือเทศกาลสงกรานต์
ล้างคุกรอพวก‘เมาแล้วขับ’
แห่กลับภูมิลำเนาเดิมแน่น
“บิ๊กป๊อก” เปิด ศปถ.เฝ้าระวัง 7 วันอันตราย รับมือเทศกาลสงกรานต์ ลั่นปีนี้ จัดหนัก “นักซิ่ง-เมาขับ-ขาเสพ” เจอทำสำนวนแรง โทษอาญาคุก ขณะประชาชนแห่กลับภูมิลำเนาเดิมแน่นทุกสถานีทุกเส้นทางที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
(ปภ.) เมื่อวันที่ 10 เมษายน เวลา 10.12น.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) พ.ศ.2562 ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. อย่างเป็นทางการเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ทั้งไปและกลับ โดย รมว.มหาดไทย ได้ย้ำว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น บนถนนสายหลักและสายรองที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูง
“มาตรการที่มีการเพิ่มเติมในปีนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเน้นหนักการกระทำความผิด 3 เรื่องหลัก คือ ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ดื่มสุราและใช้ยาเสพติดขณะขับรถ ทำให้เกิดอุบัติเหตุจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากพบว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความสูญเสียเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำสำนวนคดีเป็นกรณีพิเศษ เอาผิดให้ถึงที่สุดตามกฎหมายอาญา และกฎหมายจราจรทางบกที่มีอยู่แล้ว” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
พร้อมขอเน้นย้ำให้ระชาชนอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ทำใจให้เกิดกุศล ทำบุญตักบาตร สวดมนต์ข้ามปีใหม่ไทย กราบไหว้ผู้ใหญ่ โดยไม่จำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ เป็นปีใหม่ไทยที่ดีต่อตนเองและครอบครัว
พล.อ.อนุพงษ์ ยังได้อวยพรพี่น้องประชาชนชาวไทยในเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นวันปีใหม่ของไทย ว่า ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท ได้รดน้ำดำหัว ก็ขอทำใจให้เป็นกุศล และสามารถไปทำบุญหรือสวดมนต์ที่วัดแทนการดื่มสุราได้เช่นกัน
ด้านนายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ศปถ. มุ่งเป้าปิดจุดเสี่ยงในพื้นที่สถิติอุบัติเหตุทางถนนสูง ระดับความเสี่ยงสีแดง 29 อำเภอ และระดับความเสี่ยงสีส้ม 109 อำเภอ ด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและชี้เป้าการจัดการความเสี่ยงให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมลดอุบัติเหตุในระดับพื้นที่ โดยประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนรณรงค์สร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนในรูปแบบเคาะประตูบ้าน อีกทั้งใช้สถาบันครอบครัวเป็นเครื่องมือในการดูแลความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของคนในบ้าน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสร้างการสัญจรปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562
ด้าน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เลขาฯศปถ. กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 11 – 17 เมษายน 2562 จะมีการประชุมร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการฯ จังหวัด ติดตามสถานการณ์ วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุในพื้นที่ เพื่อวางมาตรการและปรับแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาอุบัติเหตุทางถนนและช่วงเวลาในการเดินทาง ของประชาชนในแต่ละพื้นที่
เช้าวันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. (ดูแลงานป้องกันปราบปราม) เรียกประชุมผู้ใต้บังคับบัญชา นาย เพื่อเน้นย้ำมาตรการดูแลพื้นที่ระหว่างเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 12-16 เม.ย. ในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้งขอร้องเพื่อนข้าราชการว่าอย่าเพิ่มลาในช่วงนี้
ส่วนเรื่องของสถานที่จัดงานสงกรานต์นั้น เรามีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เทศกิจ จำนวนเกือบ 1,900 นาย ในสถานที่ใหญ่ๆ ในเขตกรุงเทพฯ ทั้งหมด 14 จุด และสถานที่ต่างๆ อีกประมาณ 60 จุด ซึ่งตำรวจทั้ง88สน.พร้อมดูแลประชาชน
“สงกรานต์ปีนี้ห้ามเอาถังน้ำขึ้นไปบนรถ ห้ามดื่มสุราถ้าใครดื่มสุราแล้วขับรถจนเป็นเหตุให้ผู้อื่าถึงแก่ความตาย ให้พิจารณาโทษอย่างหนักหรือให้แจ้งข้อหาหนัก”ผบช.น.ย้ำ และว่า จะตั้งด่านอำนวยความสะดวกการจราจร รักษาความปลอดภัย กวาดล้างอาชญากรรม ตามความเหมาะสม
วันเดียวกัน พล.ค.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานปล่อยแถวเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจร ดูแลความปลอดภัย ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ(จตุจักร) ถนนกำแพงเพชร 2
ทั้งย้ำถึงแผนรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจรและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเข้มงวด เน้นย้ำการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด พร้อมมาตราการ 4 ห้าม 3 ต้อง คือ ห้ามขับรถเร็ว ห้ามดื่มสุราแล้วขับ ห้ามโทรขณะขับ ห้ามขับขณะง่วง ต้องสวมหมวกนิรภัย ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย และต้องมีใบอนุญาตขับรถ ฝากประชาชนตรวจสอบสภาพรถและผู้ขับขี่ต้องมีความพร้อม ขับรถเคารพกฎวินัยจราจร ตั้งเป้าลดยอดการเกิดอุบัติเหตุที่นำมาซึ่งความสูญเสีย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดทั้งวันที่สถานีรถไฟหัวลำโพง สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) สถานีขนส่งผู้โดยสาร(สายใต้) รวมทั้งสถานีขนส่งในจังหวัดต่างๆ เต็มไปด้วยผู้เดินทางกลับผู้ลำเนาเดิม
นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า วัเฉพาะวันที่10 เม.ย.นี้ บขส.ได้เพิ่มเที่ยววิ่งรถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) รองรับประชาชนในเที่ยวไป จากปกติวันละประมาณ 5,831 เที่ยว เพิ่มขึ้น 1,362 เที่ยว รวม 7,193 เที่ยว สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงกว่า 150,000 คน ส่วนข้อมูลการเดินรถบริษัทฯ และรถร่วม ตั้งแต่วันที่ 1-9 เมษายน 2562 บขส.จัดเที่ยววิ่งรถโดยสารรองรับประชาชนเที่ยวไป รวม 57,835 เที่ยว รองรับผู้โดยสารเดินทาง 891,657 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี