"อลงกรณ์"เผยประชุม"กก.บห.ปชป."วันนี้เตรียมตั้งคณะทำงานหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค ชี้ต้องได้หัวหน้าใหม่ไม่เกิน7วันหลัง9พ.ค. ขู่ใครคิดเป็น"งูเห่า"เจอดีแน่นอน
18 เม.ย.62 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในวันนี้ ว่า จะมีวาระในการเตรียมการประชุมใหญ่วิสามัญ ในวันที่ 24 เม.ย.เพื่อรับรองงบดุลรายงานผลการดำเนินการปี 2561 การดำเนินการปฏิรูปพรรค และการตั้งคณะทำงานจัดการหยั่งเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์การหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค อาทิ ขั้นตอนการรับสมัครหัวหน้าพรรค การเปิดให้แสดงวิสัยทัศน์ และการให้สมาชิกพรรคหยั่งเสียงผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งกระบวนการทั้งหมดต้องแล้วเสร็จก่อนวันที่ 9 พ.ค.โดยมั่นใจว่ากระบวนการหยั่งเสียงรวมถึงการให้ผู้สมัครหัวหน้าพรรคแสดงวิสัยทัศน์จะไม่ทำให้พรรคเกิดความแตกแยก แต่เป็นจุดแข็งในความเป็นสถาบันการเมืองที่พรรคได้เริ่มต้นเอาไว้และต้องเดินหน้าต่อ ซึ่งเชื่อว่าทุกฝ่ายยอมรับในกติกา
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะเกิดขึ้นหลังวันที่ 9 พ.ค.ไม่เกิน 7 วัน ซึ่งข้อบังคับพรรคกำหนดให้การลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรคต้องคำนึงถึงผลการหยั่งเสียงด้วย ซึ่งตนจะไม่ลงสมัครหัวหน้าพรรคในครั้งนี้ เนื่องจากครั้งที่ผ่านมาได้คะแนนเสียงเพียง 2 พันกว่าคะแนนเท่านั้น โดยกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และ ส.ส.ที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว จะเป็นผู้ตัดสินใจทางการเมืองว่าจะร่วมรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้าน โดยในขณะนี้การให้ความเห็นไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด รวมถึงข้อเสนอเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ ล้วนเป็นความเห็นส่วนตัวทั้งสิ้น เพราะการตัดสินใจขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ กับ ส.ส.ซึ่งไม่ว่าจะมีมติออกมาเช่นไร ต้องเคารพมติพรรค จะมีงูเห่าไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หากมีงูเห่าเกิดขึ้นพรรคก็มีมาตรการในการจัดการตามข้อบังคับพรรค
ส่วนกรณีที่อาจมีข้ออ้างว่าการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นเอกสิทธิของ ส.ส.ที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญนั้น นายอลงกรณ์ กล่าวว่า จะอ้างรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ปฏิบัติตามมติพรรคไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้กว้างๆ เท่านั้น อีกทั้งการเป็น ส.ส.ต้องสังกัดพรรค ไม่ได้เป็น ส.ส.โดยอิสระ ดังนั้น จึงต้องปฏิบัติตามมติพรรคในเรื่องที่มีความสำคัญทางการเมือง ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าการแก้ปัญหาการเมืองควรแก้ในระบบรัฐสภา และในขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นขั้วการเมืองใดก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้จำนวนเท่าไหร่ เนื่องจากยังไม่มีการรับรอง ส.ส.จึงอยากให้ทุกฝ่ายรอผลการเลือกตั้งก่อน และขอให้เคารพเสียงประชาชนหากเสียงไม่พอก็เป็นฝ่ายค้าน เกิดปัญหาก็กลับไปให้ประชาชนตัดสินใจใหม่ อย่าใช้วิชามารหรือวิธีพิสดารจนทำให้การเมืองต้องกลับไปสู่วังวนเดิมๆ อีก
นอกจากนี้ ตนยังไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ที่จะให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตั้งรัฐบาลโดยใช้เสียง ส.ว.มาร่วมพิจารณากฎหมายงบประมาณ ด้วยการอ้างถึงมาตรา 270 เพราะเป็นการคิดแผลงๆ ที่ไม่เป็นไปตามระบบรัฐสภา ซึ่งจะสร้างปัญหามากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี