"โฆษกเพื่อชาติ"ชี้การเมืองไทยไม่เคยถึงทางตัน ซัดเหตุทางตันเพราะกลุ่มผู้เฒ่าอ้างผลประโยชน์อยากมีอำนาจยืนยาว 3อภิโครงการแสนล้านไม่ต้องรีบปชช.รอได้ ไม่ต้องเร่งรีบเอื้อประโยชน์กับกลุ่มนายทุนประชารัฐ
19 เม.ย.62 น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ตนเพิ่งเข้าใจประโยคที่ว่าเมื่อกาลเวลาผ่านไป "ผู้เฒ่าจะเป็นเด็กอีกครั้ง" จากสถานการณ์การเมืองไทยในวันนี้ คือ คณะผู้เฒ่าที่อยากอยู่ยาว วัยร่วงโรยกำลังเปิดศึกแย่งชิงอำนาจจากคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ประเทศไทยก้าวไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งถ้ามองในสายตาคนนอกก็จะน่าขำในพฤติกรรมผู้เฒ่า แต่ถ้ามองในสายตาคนรุ่นใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากการแย่งชิงอำนาจของผู้เฒ่าอยากอยู่ยาวกลุ่มนี้จะขำไม่ออก
น.ส.เกศปรียา กล่าวว่า โดยคณะผู้เฒ่ากลุ่มนี้ทำทุกวิถีทางเพื่อจะรักษาอำนาจไว้ แล้วอ้างว่าทำเพื่อชาติ แต่ทำไมไม่คิดย้อนกลับว่าชาติคือประชาชนคนรุ่นใหม่ กลุ่มผู้เฒ่าอยากอยู่ยาว พยายามทำลายคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจทำเพื่ออนาคตประเทศที่พวกเขาต้องอยู่ต่อไปอีกยาว แต่พวกผู้เฒ่าที่อ้างว่ารักชาติกลับคิดทำลายพวกเค้า ซึ่งก็คือการทำลายชาตินั่นเอง อย่างเช่นการอ้างว่าจะตีความกฎหมายเพื่อให้เข้าข่ายรักษาอำนาจของพวกผู้เฒ่าวัยร่วงโรยให้อยู่ยืนยาว เป็นกระบวนการที่ทำให้ระบบนิติรัฐของประเทศเสียหายและบิดเบี้ยว เช่น การคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่จะคำนวณแบบต่ำกว่าคะแนนมาตรฐาน ส.ส.พึงมี ซึ่งแค่วิธีคิดก็ผิดสามัญสำนึกแล้ว ไม่เห็นจะต้องไปตีความให้ยุ่งยาก อีกกรณีที่จะนำ ส.ว.250 คน มาโหวตงบประมาณร่วมเพื่อจะได้ไม่เกิดทางตันในการบริหารประเทศ โดยกฎหมายกำหนดให้ ส.ว.250 คน มาโหวตร่วมได้ถ้าเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศ งบประมาณแผ่นดินเป็นงานประจำที่ต้องทำทุกปี ส่วนใหญ่เป็นงบค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่รัฐใช่เรื่องปฏิรูปประเทศหรือไม่ อยากฝากให้ผู้เฒ่าเหล่านี้คำนึงถึงความละอายที่หลงลืมไปตามกาลเวลาบ้าง
"ฝ่ายผู้เฒ่าหวงอำนาจที่มีเสียง ส.ส.จากประชาชนสนับสนุนไม่เพียงพอ แต่ดันทุรังอยากมีอำนาจต่อไป ชอบอ้างเหตุผลว่าต้องทำให้หลักการต่างๆ บิดเบี้ยวเพื่อบ้านเมืองจะได้ไม่ถึงทางตัน ตนขอบอกเลยว่าเมืองไทยไม่เคยถึงทางตัน ทางตันที่ว่าคือทางตันของกลุ่มผู้เฒ่าที่อ้างเพื่อผลประโยชน์ของการอยากมีอำนาจยืนยาว" น.ส.เกศปรียา กล่าว
โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวอีกว่า ในส่วน 3 อภิโครงการแสนล้าน โครงการแรกประมูลรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน 2.24 แสนล้านบาท ตนอยากจะฝากรัฐบาลทหารว่า ไม่ต้องเร่งรีบ เพราะผ่านมา 5 ปี เรายังไม่มีรถไฟความเร็วสูง ดังนั้น ประชาชนไทยคงรอต่อไปได้ ไม่ต้องรีบสรุปในเวลานี้ แม้เวลาจะเป็นของมีค่าและมีต้นทุน อย่าให้เป็นกรณีประเทศต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเหยื่อนายทุนอีก โครงการที่ 2 เลื่อนจ่ายค่าประมูล 4G งวดสุดท้าย 1.6 แสนล้านบาท โดยรัฐจะเสียรายได้ 2.4 หมื่นล้านบาท ให้เอกชน กรณีนี้ให้ลองเปลี่ยนชื่อผู้ใช้ มาตรา 44 เป็น คุณธนาธร พรรคอนาคตใหม่ หรือคุณทักษิณ เป็นผู้ใช้มาตรา 44 ดูว่ารัฐบาลทหารและผู้สนับสนุนยอมรับหรือไม่ โครงการที่ 3 ประมูลดิวตี้ฟรี 10 ปี มูลค่าหลายแสนล้าน ที่ยังไม่ชัดว่าเข้าข่ายกฎหมายร่วมทุนหรือไม่ และไม่เอื้อต่อการแข่งขัน ดังนั้น ทั้ง 3 โครงการ ไม่ต้องเร่งรีบ ประชาชนคนรุ่นใหม่รอรถไฟความเร็วสูงมา 5 ปีแล้ว รอต่อเพื่อทำให้ถูกต้องได้ ไม่ต้องเร่งรีบเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุนประชารัฐ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี