รักษาความดี
‘ป๋าเปรม’ให้โอวาทปปช.
ลุ้นกู้เงินจัดการน้ำภาค2
มัดครม.‘ปู’ส่อเอื้อเอกชน
9 ป.ป.ช.เข้าบ้านสี่เสาฯขอพรวันสงกรานต์ “ป๋าเปรม”ให้โอวาท “ให้ทำดี รักษาความดีไว้ ปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด”ขณะที่ เลขาฯป.ป.ช.เผยกำลังสอบ”ยิ่งลักษณ์”ปมกู้เงินวางระบบบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน หลังพ้นกำหนด ส่อเอื้อเอกชน
เมื่อวันที่ 19 เมษายน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมด้วย คณะกรรมการ ป.ป.ช.รวม 9 ราย ประกอบด้วย นายณรงค์ รัฐอมฤต ,นายวิทยา อาคมพิทักษ์ , นายปรีชา เลิศกมลมาศ,พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง ,น.ส.สุภา ปิยะจิตติ , นางสุวณา สุวรรณจูฑะ ,นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร , พล.อ.บุณวัจน์ เครือหงส์ และนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.พร้อมผู้บริหาร สำนักงาน ป.ป.ช.เข้ารับพรและโอวาทจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ ณ บ้านพักรับรองสี่เสาเทเวศร์ ถนนศรีอยุธยา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
โดย พล.ต.อ.วัชรพล เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน ได้รับโอกาสเข้ากราบขอพรจาก พล.อ.เปรม เนื่องในวันสงกรานต์ ซึ่งท่านได้ให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมระบุว่า “ถือเป็นเกียรติยศที่ได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้ ขอให้ทำดี และรักษาความดีไว้ ปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด”
วันเดียวกัน นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ปปช. แถลงถึงกรณีกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) กับพวก ลงมติเห็นชอบ พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำ วงเงิน 3.5 แสนล้านบาทโดยมิชอบ โดยเห็นว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไปนั้น ว่า กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา ร่วมกันลงมติและเห็นชอบในการออกพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 อันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 169
นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 50/2559 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 ได้พิจารณากรณีดังกล่าว โดยอาศัยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยที่ 5-7/2555 ลงวันที่ 22 ก.พ.2555 ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัย ว่า การตราพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 เป็นกรณีเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ และป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรคหนึ่ง และการตราพระราชกำหนดดังกล่าว เป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรคสอง
ศาลรัฐธรรมนูญ มีติเป็นเอกฉันท์ เห็นว่า การตราพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง
“คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ไม่ปรากฏว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี กับพวก ได้ร่วมกันตราและเห็นชอบพระราชกำหนดดังกล่าวโดยไม่สุจริต หรือใช้ดุลพินิจบิดเบือนหลักการของรัฐธรรมนูญ เรื่องกล่าวหาดังกล่าวไม่ปรากฏข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี กับพวกผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหาข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป” นายวรวิทย์ กล่าว
กระนั้นก็ตามใน ส่วนประเด็นเรื่องกล่าวหาการกู้เงินเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ประเด็นการดำเนินโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศ ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 57 วรรคสอง มาตรา 67 วรรคสอง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 103/7 และพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และประเด็นการกำหนดรายละเอียดขอบเขตของงาน (TOR) ในโครงการดังกล่าว มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนบางรายคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี