มติศาลรัฐธรรมนูญ7:2
ยกคำร้องกกต.
ปมคำนวณสส.ปาร์ตี้ลิสต์
มติศาลรัฐธรรมนูญ7:2
ยกคำร้องกกต.
ปมคำนวณสส.ปาร์ตี้ลิสต์
ศาลรธน.มีมติ 7 ต่อ 2 ไม่รับคำร้องกกต.คำนวณปาร์ตี้ลิสต์ ชี้เหตุยังไม่เกิด-มีอำนาจทำได้ “กกต.”ประเดิมแจกใบส้ม ตัดสิทธิ์ “สุรพล” ว่าที่สส.เชียงใหม่ เขต 8พรรคเพื่อไทย ปมซื้อเสียง โทษหนักส่งศาลฎีกาเคาะใบดำ-ใบแดง สั่งกาบัตรใหม่ผู้สมัครชุดเดิม เจ้าตัวงงใส่ซองทำบุญยังผิด ลูกพรรค “อ.น.ค.” นัดให้กำลังใจ“ธนาธร” 25 เมษายน ที่สุวรรณภูมิ หลังเจอ“ใบส้ม” ขาดคุณสมบัติ ลงสส.ส่อซวยซ้ำ คดีอาญาฐานสนับสนุน
ผู้ขาดคุณสมบัติลงสมัคร ส.ส.
เมื่อวันที่ 24เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งวันที่ 23เมษายนที่ผ่านมา ที่ประชุกม กกต.มีมติสั่งเพิกถอนสิทธิสมัคร นายสุรพล เกียรติไชยากร ว่าที่ สส.เขต8เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ไว้เป็นการชั่วคราว (1ปี) หลังจากที่ประชุม กกต.พิจารณาสำนวนสืบสวนที่คณะกรรมการสืบสวนสำนักงาน กกต.เชียงใหม่ ได้เข้ามารายงานแล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของ นายสุรพล เข้าข่ายผิด พรป.เลือกตั้งสส.มาตรา73(2) ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้เงิน หรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิวัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์หรือสถาบันอื่นใด
กกต.แจก’ใบส้ม’ว่าที่สส.พท.
ทั้งนี้ มติดังกล่าวมีผลให้กกต.ต้องสั่งเลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งที่8เชียงใหม่ เนื่องจากวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา นายสุรพลเป็นผู้ได้รับคะแนนเลือกตั้งมาเป็นลำดับที่1 ด้วยคะแนน52,165คะแนน เมื่อ กกต.สั่งระงับสิทธิสมัคร นายสุรพลและสั่งเลือกตั้งใหม่ จำนวนคะแนนดังกล่าวกกต.จะไม่นำมารวมนับเป็นคะแนนที่จะคำนวณเพื่อจัดสรร สส.บัญชีรายชื่อให้กับพรรคการเมืองและต้องดำเนินการเอาผิด นายสุรพล ตามมาตรา138โดยร้องต่อศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (ใบดำ) หรือสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ต่อไป
เจ้าตัวงงใส่ซองทำบุญผิดกม.
นายสุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัคร สส.เชียงใหม่ พรรค พท.ให้สัมภาษณ์หลังทราบว่า กกต.มีมติแจกใบส้มว่า ก่อนหน้านี้มีกลุ่มคนที่ใช้ชื่อว่า กลุ่มคนจอมทองและผู้รักประชาธิปไตยจอมทอง ได้ไปยื่นร้องต่อ กกต.เชียงใหม่ ขอให้ตรวจสอบกรณีการทอดผ้าป่าในพื้นที่ที่อาจเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ ซึ่งตนเองก็ได้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดต่อ กกต.แล้ว พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทอดผ้าป่าดังกล่าว แต่มีการถวายปัจจัยให้กับพระรูปหนึ่ง 2พันบาท ซึ่งไม่เข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ เพราะพระรูปดังกล่าวไม่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งและเป็นการถวายในนามส่วนตัว โดยพระรูปดังกล่าวได้เป็นพยานเข้าชี้แจงต่อ กกต.เช่นกัน
คาดไม่ถึง กกต.จะมีมติเช่นนี้ ทั้งที่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงไปแล้วและแปลกใจที่ กกต.ตั้งเป้าพิจารณาข้อร้องเรียนเฉพาะพรรคการเมืองบางพรรค แต่เมื่อมีมติออกมาเช่นนี้ก็ต้องยอมรับกติกาที่ออกมา
ศาลรธน.ไม่รับคำร้อง’กกต.’
สำหรับจากกรณี กกต.ได้ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณเพื่อจัดสรรจำนวนสส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่แต่ละพรรคการเมืองจะพึงมีได้นั้น ล่าสุด วันที่ 24เมษายน ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7ต่อ2 ว่า กรณีดังกล่าวเป็นหน้าที่และอำนาจของ กกต.ตามมาตรา 91 แห่งพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.และข้อเท็จจริงตามคำร้องยังไม่ปรากฎว่า กกต.ได้ใช้หน้าที่และอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายบัญญัติ กรณีนี้จึงยังถือไม่ได้ว่า มีปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของ กกต.คำร้องนี้จึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา210 ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณา
‘ธนาธร’จ่อผิดอาญาฐานสนับสนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า นอกจากคำร้องกรณีให้เพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง สส.ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนค.กรณีการถือครองหุ้นสื่อแล้ว ยังพบว่า นายธนาธร อาจถูกตรวจสอบกรณีลงนามเอกสารรับรองส่งผู้สมัคร สส.พรรค อนค.ที่ขาดคุณสมบัติในการสมัครรับเลือกตั้งบางคน เช่น นายภูเบศวร์ เห็นหลอด อดีตผู้สมัคร สส.เขต2 จ.สกลนคร พรรคอนค.ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง มีคำสั่งถอนชื่อออกจากผู้สมัคร สส.เนื่องจาก นายภูเบศวร์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดมาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส ซึ่งมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ จึงถือว่ามีลักษณะต้องห้ามสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา98และกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.มาตรา42 โดยศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง นายภูเบศวร์ เมื่อวันที่ 19มีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มาตรา49 วรรค2 ของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดว่าการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งให้พรรคมีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามผู้สมัคร สส.ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ จึงถือว่าหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค จะต้องมีความรับผิดชอบในการส่งผู้สมัครที่คุณสมบัติไม่ครบด้วย ซึ่งตามกระบวนการ กกต.จะดำเนินคดีกับตัวผู้สมัครก่อน ตามมาตรา151 ของ พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.ที่ระบุว่า ผู้สมัครใดรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติมีสิทธิ์รับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ ต้องระวางโทษจำคุกสูงสุด 10ปี ปรับสูงสุด 2แสนบาทและเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 20ปี จากนั้นมีกระบวนการเอาผิดทางอาญากับหัวหน้าพรรคฐานเป็นผู้สนับสนุน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา84และมาตรา86
นัดรวมพลให้กำลังใจ25เม.ย.
น.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษก พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เปิดเผยว่า พรรคได้รับเอกสารจาก กกต. กรณี นายธนาธร มีลักษณะต้องห้ามลงสมัครสส.กรณีถือหุ้นสื่อบริษัทวี-ลัค มีเดียแล้ว ส่วน นายธนาธร จะเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯวันที่ 25เมษายน ไฟลท์ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 18.55น.คาดว่าจะมีคนไปรอให้กำลังใจมากพอควร
นายคารม พลพรกลาง ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนค.กล่าวว่า วันที่ 25เมษายน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตนและกลุ่มนักกฎหมายอนาคตใหม่เพื่อสังคมไทยเท่าเทียมกัน (นอสท.) จะรวมตัวไปให้กำลังใจ นายธนาธร ที่เดินทางกลับมาประเทศไทย เพื่อชี้แจงต่อกกต.หลังถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา98(3) ซึ่ง นายธนาธรมีพยานและหลักฐานชัดเจนต่อกรณีการถือหุ้นสื่อ
‘บิ๊กตู่’ปัดคสช.ไม่เกี่ยวคดี’ธนาธร’
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณี กกต.แจ้งข้อกล่าวหา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ถือหุ้นสื่อส่อแววว่าจะถูกให้ใบส้มจนถูกวิพากษณ์วิจารณ์ว่า มาจากใบสั่งของ คสช.ว่า ตนบอกเป็นครั้งที่100แล้วว่า คสช.ไม่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องกฎหมายเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญและทุกอย่างขึ้นกับดุลยพินิจของ กกต.ซึ่งหลายอย่างก็เข้าสู่กระบวนการศาล ดังนั้น คสช.จึงไม่มีอำนาจเกี่ยวข้องและตนไม่สามารถสั่งอะไรใครได้
หวังจัดตั้งรัฐบาลได้ตามโรดแมป
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงความกังวลต่อแนวโน้มจะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ว่า ตนยังคาดหวังและมุ่งหวังให้มีการจัดตั้งรัฐบาลได้ เพื่อประโยชน์ของประเทศ ซึ่งหากจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็จะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคตมีผลพวงไปถึงเรื่องเศรษฐกิจด้วย เมื่อถามว่า ในฐานะหัวหน้า คสช.ยังมั่นใจหรือไม่ว่า สถานการณ์วันนี้การจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีในสภาฯยังจะเดินไปได้ตามรัฐธรรมนูญที่วางไว้ในก๊อกแรก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ‘ผมก็ต้องเชื่อมั่นอย่างนั้นเพราะเราได้กำหนดโรดแมปไว้แล้วก็ต้องเดินหน้าไปตามนั้น จะเห็นได้ว่าผมไม่ได้บิดพลิ้วจากโรดแมปต่างๆที่มีมาเว้นแต่ในช่วงแรกที่มีปัญหาในเรื่องของกฎหมายไม่เรียบร้อย นอกจากนั้นยังเป็นไปตามโรดแมปทุกประการ
‘บิ๊กป้อม’เชื่อไม่มีเหตุทำวุ่นวาย
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า จะนำไปสู่ความวุ่นวาย เพราะกกต.ทำตามกฎหมาย เป็นเรื่องของกกต.ต้องว่าไปตามกฎหมาย เราไม่ได้ไปยุ่งอะไร ประชาชนเขาก็รู้ดีและมั่นใจว่า ประเด็นนี้จะไม่นำไปสู่ความวุ่นวาย ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้พล.อ.ประวิตร ถูกพาดพิงประเด็นต่างๆ หลายเรื่องนี้ มีความกังวลใจหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า“ก็มันไม่ใช่เรื่องจริง แล้วจะไปทำอะไร”
เมื่อถามถึงกรณีพล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยจะยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)ตรวจสอบทรัพย์สินหลังเว็บไซต์ต่างประเทศเผยแพร่ว่า พล.อ.ประวิตรเป็นเศรษฐีของเอเชีย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “สอบได้เลย เพราะมันก็มีเท่าที่อยู่ใน ปปช.เราแจ้ง ปปช.ไปหมดแล้ว เมื่อถามย้ำว่าไม่มีทรัพย์สินอื่นในต่างประเทศใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ร้องว่า’โธ่เอ๊ย’มันจะมีไปได้อย่างไร ข้อมูลเฟค พร้อมเดินจากวงผู้สื่อข่าวทันที
‘ปชป.’ประชุมใหญ่ประจำปี2562
วันเดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี2562 โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคปชป.เป็นประธาน การประชุมใช้เวลาเพียง 1ชั่วโมงจากนั้นได้แถลงว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามระเบียบวาระการประชุม ได้แก่ รายงานกิจกรรมทางการเมืองของพรรค ซึ่งพรรคปชป.มีสมาชิก 128,377คน และรายงานงบดุลประจำปี2561โดยหลังจากที่ประชุมลงมติเห็นชอบแล้ว พรรคจะนำผลประชุมดังกล่าวรายงาน กกต.ต่อไป แต่ที่ประชุมไม่ได้พูดคุยถึงทิศทางทางการเมือง หรือการตัดสินใจจะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ สำหรับการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค ครั้งต่อไปจะมีขึ้นวันที่ 15พฤษภาคม เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้ที่จะลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป.จะมีเพียง 3 คน คือ นายกรณ์ จาติกวณิช นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และ นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์
พร้อมส่งชิงสส.เขต8เชียงใหม่
ด้านนายจุติ ไกรฤกษ์ รักษาการเลขาธิการพรรคปชป.กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต8จ.เชียงใหม่ หลังกกต.มีมติให้ใบส้มนายสุรพลว่าพรรคพร้อมเดินหน้าหาเสียงเต็มที่ แม้ผู้สมัครของพรรคจะเป็นคนหน้าใหม่และได้คะแนนเพียงหลักพันเท่านั้น ส่วนประเด็นการเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่นั้น ในที่ประชุมไม่มีผู้ติดใจในเรื่องขั้นตอนการเลือก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี