ศรีสุวรรณให้ข้อมูล‘กกต.’
มัด‘ธนาธร’
จี้เช็คมือถือ-ใบโอนหุ้นสื่อ
เอาผิดยกเข่ง/ถึงขั้นยุบพรรค
มติผู้ตรวจฯเลือกตั้งไม่โมฆะ
ส่งศาลรธน.ชี้ขาดปาร์ตี้ลิสต์
ผู้ตรวจการฯมติเอกฉันท์ ส่งศาลรธน.วินิจฉัยปมคำนวณ สส.ปาร์ตี้ลิสต์ การันตีเลือกตั้งไม่โมฆะ ไม่นับบัตรนิวซีแลนด์เป็นอำนาจ“กกต.” ด้าน “ศรีสุวรรณ” ให้ข้อมูลมัด “ธนาธร” ปมโอนหุ้นสื่อ แนะเช็คใช้มือถือ 8 มกราคมอยู่ที่ไหน จี้โชว์สเตทเมนท์ซื้อขายหุ้น พบผิดยื่นศาลห้ามชิงสส. 20 ปี หรือถึงขั้นยุบพรรค โฆษก“อ.น.ค.” ยืนยัน 30 เมษายน เข้าชี้แจง“กกต.”ปมหุ้นพรรคเพื่อไทยเอาบ้าง ร้องกกต.เชือด’พปชร.’ถือหุ้นสื่อ
เมื่อวันที่ 26เมษายน ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงภายหลังการประชุมผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่า ผู้ตรวจการฯได้พิจารณาคำร้องของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.)และนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ผู้สมัครสส.เขต3 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ขอให้วินิจฉัยเกี่ยวกับปัญหาในการเลือกตั้งหลายประเด็น
โดยที่ประชุมผู้ตรวจการฯมีมติเอกฉันท์ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.มาตรา128 ซึ่งกำหนดเกี่ยวกับวิธีคำนวณสส.บัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 91 โดยเห็นในรัฐธรรมนูญมาตรา91 กำหนดวิธีการคำนวนไว้ 5อนุมาตรา แต่เมื่อมาบัญญัติเป็นพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.กลับขยายเป็น 8อนุมาตรา โดยอนุ4 อนุ6และอนุ7 ขยายข้อความนอกเหนือมาตรา91 ที่ระบุส.ส.พึงมีเบื้องต้น ทำให้การคำนวณสส.ไม่เป็นไปตามเจตจำนงของรัฐธรรมนูญมาตรา91 จึงให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งจะพยายามยกร่างคำวินิจฉัยให้เสร็จและส่งให้ได้ภายในวันที่ 26เมษษยนนี้ หรืออย่างช้าภายในวันที่ 29เมษายน
แจ้งผลเลือกตั้งเบื้องต้นไม่ผิด
ขณะที่ประเด็นขอให้วินิจฉัยว่า รัฐธรรมนูญมาตรา91วรรคสาม มีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา91(4)และมาตรา91(4) มีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา83(2) ซึ่งทั้ง 3 บทบัญญัติเกี่ยวข้องกับการจัดสรรสส.บัญชีรายชื่อนั้น ผู้ตรวจการฯมีมติให้ยุติคำร้อง เนื่องจากผู้ตรวจกาฯไม่มีอำนาจพิจารณากรณีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญขัดกันเอง ส่วนกรณีร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะจากประเด็นจำนวนรายงานผลนับคะแนนไม่ตรงกัน มีปัญหาคลาดเคลื่อนบัตรเขย่ง จำนวนผู้มาใช้สิทธิและจำนวนบัตรแตกต่างกันอยู่ 9ใบ ผู้ตรวจการฯเห็นว่า เป็นการแถลงข่าวจำนวนอย่างไมเป็นทางการ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลในเบื้องต้น จึงไม่ใช่การกระทำที่ไม่สุจริต
แบ่งเขตยึดจำนวนปชช.ไม่โมฆะ
ส่วนประเด็นการไม่นำบัตรเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์มานับรวม กกต.ได้มีการวินิจฉัยตามข้อกฎหมาย ซึ่งเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ไม่เข้าข่ายเป็นความผิด ส่วนที่ร้องว่าไม่มีการแจ้งผลคะแนนให้ประชาชนได้รับทราบ ข้อเท็จจริงที่ปรากฎในทางปฏิบัติกกต.แจ้งว่า มีการติดประกาศที่หน้าหน่วยเลือกตั้งอยู่แล้ว ประชาชนสามารถไปตรวจสอบได้ สำหรับประเด็นที่ร้องว่า นำบุคคลที่ไม่มีสัญชาติมารวมในการคิดคำนวณแบ่งเขตเลือกตั้งนั้น ตามมาตรา86 ของรัฐธรรมนูญกำหนดว่า การประกาศเขตเลือกตั้งให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งหมดทั่วประเทศมาคำนวณ อาจมีทั้งที่เป็นคนไทยและผู้มีสัญชาติไทย เพื่อให้รู้ว่าพื้นที่มีขนาดแค่ไหน ควรมีสส.กี่คน การดำเนินการส่วนนี้ของกกต.ถือว่า เป็นไปตามกฎหมาย จึงมีมติเอกฉันท์ว่า การดำเนินการดังกล่าวยังไม่เข้าข่ายการเลือกตั้งไม่สุจริต จึงยุติเรื่อง ไม่ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะตามที่ยื่นคำร้อง
‘ศรีสุวรรณ’ตอกฝาโลง’ธนาธร’
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อ กกต.กรณีได้ยื่นคำร้องว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ถือครองหุ้นในกิจการสื่อสิ่งพิมพ์ของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด อาจเข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ตามมาตรา98แห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา12และตามพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.
แนะเช็คใช้มือถือ8มค.รู้อยู่ไหน
ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติม จากที่ นายธนาธร ยืนยันว่า เดินทางจาก จ.บุรีรัมย์ กลับกรุงเทพฯ ในช่วงบ่ายวันที่ 8มกราคม ว่า กกต.สามารถขอความอนุเคราะห์ไปยังบริษัทผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อตรวจสอบผ่านการใช้โทรศัพท์ของ นายธนาธร ทั้งหมดว่า มีการโทรเข้าออกในพื้นที่ใด เวลาใดบ้างในวันที่ 8มกราคม ซึ่งจะเป็นพยานหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว นายธนาธร อยู่ที่จุดใดของประเทศไทย
จี้โชว์สเตทเม้นท์ซื้อขายหุ้นสื่อ
นายศรีสุวรรณ ยังตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงไม่เปิดเผยชื่อพยานผู้ลงนามในตราสารการโอนหุ้นของนายธนาธร ทั้งยังไม่มีการเปิดเผยสเตทเม้นท์ของธนาคารในการซื้อขายหุ้นของ นายธนาธรและภรรยา ข้อมูลการนำเช็คเข้าบัญชีเกิดขึ้นเมื่อไร การที่จะนำเอาเช็คตั้งแต่ 2ล้านบาทขึ้นไปเข้าธนาคาร ธนาคารจะต้องรายงานไปยังสำนักงานคณะกรรมการการฟอกเงิน (ปปง.) ให้รับทราบในวันถัดไปด้วย
ผิดห้ามชิงสส.20ปี-ยุบพรรค
‘หากท้ายที่สุด กกต.มีมติวินิจฉัยเป็นไปตามคำร้องของผม ขอให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไปด้วย ฐานแจ้งความ หรือเป็นพยานอันเป็นเท็จ ในส่วนของ นายธนาธร ต้องส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง เพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งของ นายธนาธรและเอาผิดทางอาญา โทษจำคุก 1-10ปี พร้อมถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 20ปีและอาจโทษหนักขัดพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.ตามมาตร132 ก็จะส่งศาลรัฐธรรมนูญส่งให้ยุบพรรคได้หรือไม่’ นายศรีสุวรรณ กล่าว
‘พท.’ร้องว่าที่สส.พปชร.ถือหุ้นสื่อ
ต่อมา นายณรงค์ รุ่งธนวงศ์ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและสถิติ กองอำนวยการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย (พท.) เข้ายื่นหนังสือขอให้ กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติ นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ผู้สมัคร สส.กทม.เขตเลือกตั้งที่15 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งเป็นผู้ได้คะแนนเลือกตั้งอันดับ1 หลังตรวจแผ่นพับหาเสียงที่ระบุเป็นผู้บริหารบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง ซึ่งสืบจากข้อมูลกรมธุรกิจการค้าและพาณิชย์ พบว่า นายชาญวิทย์ หรือผู้ถูกร้อง เป็นเจ้าของและผู้ถือหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนประกอบกิจการหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชน โดยพบว่าถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว 250ล้านหุ้นและเป็นผู้มีอำนาจในการลงนามของบริษัทดังกล่าวด้วย
การกระทำดังกล่าวจึงอาจขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา98(3)และพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.มาตรา42(3) ที่ห้ามไม่ให้บุคคลที่เป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใดๆ ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.จึงขอให้ กกต.ใช้อำนาจตรวจสอบและวินิจฉัย หากพบว่าบุคคลดังกล่าวมีลักษณะต้องห้าม ก็ขอให้ยกเลิกการเลือกตั้งในเขตดังกล่าวและสั่งให้ดําเนินการเลือกตั้งใหม่ รวมทั้งให้ดำเนินคดีตาม พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.มาตรา151ด้วย ทั้งนี้ ขอให้กกต.เร่งตรวจสอบและวินิจฉัยกรณีนี้หากพบว่ากระทำความผิดจริง นายชาญวิทย์ จะมีความผิดรับรองคุณสมบัติตนเองเป็นเท็จ ซึ่งมีความผิดทางอาญาด้วย
อย่ายึดสูตรปาร์ตี้ลิสต์กรธ.ผิดกม.
จากนั้น นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย(พท.) พร้อมด้วย นายเอกชัย หงส์กังวาน และกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นำโดย นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดง เดินทางมาทำกิจกรรมยื่นใบแดงใบสั่งให้ กกต.กรณีเลือกตั้งผ่านไปกว่า 1เดือนแล้วยังไม่ยอมประกาศรับรองผลเลือกตั้ง รวมทั้งยังมีปัญหายุ่งเหยิงเรื่องการคำนวนสส.บัญชีรายชื่อ พร้อมระบุว่า วิธีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อที่คณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เสนอไม่ต้องถูกต้องตามกฎหมาย
โดย นพ.ทศพร กล่าวพร้อมนำชาร์ตตัวอย่างการคำนวนสส.บัญชีรายชื่อที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของกรธ.มานำเสนอว่า กกต.มีการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 25เมษายน ระบุว่า วิธีคำนวนสส.บัญชีรายชื่อของ กรธ.มีการเผยแพร่มา 2ปีแล้วและมีแนวโน้มว่า กกต.จะยึดแนวคำนวณดังกล่าว ทั้งที่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 91 (4) และพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.มาตรา128(5) ตนทำจดหมายเปิดผนึกเรื่องนี้ถึงกกต.เพราะเมื่อวิธีการคำนวณดังกล่าวผิด กกต.ควรเลิกดื้อรั้นเสียที
‘ธนาธร’แจงกกต.หุ้นสื่อ30เม.ย.
น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เปิดเผยว่า วันที่ 30เมษายน เวลา 13.00น.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนค.จะไปให้ถ้อยคำ กกต.กรณีถือครองหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด เข้าข่ายเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสส.อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายธนาธร มีความตั้งใจจะไปให้ถ้อยคำโดยเร็วที่สุด คือวันที่ 29เมษายน แต่ประสานกกต.แล้วได้รับแจ้งว่า กกต.ไม่ว่างในวันดังกล่าว จึงนัดหมายเป็นวันที่ 30เมษายน
ขอบคุณรับอบอุ่น-มั่นใจบริสุทธิ์
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนค.ทวิตรูปภาพและข้อความผ่านทวิตเตอร์ “Thanathorn Juangroongruangkit” ระบุว่า ขอบคุณสำหรับ #WelcomeTJtoThailand เป็นการต้อนรับที่อบอุ่นมากๆในการเดินทางกลับประเทศไทยครั้งนี้ ขวัญกำลังใจเต็มเปี่ยม ขอให้ทุกท่านอย่าได้กังวลใดๆ เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจของตนเอง ทั้งนี้ ต้องขอให้กำลังใจกับกกต.การทำงานอย่างบริสุทธิ์นั้น จะเป็นหนทางที่พาประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้
‘สุรพล’จี้กกต.ทบทวนแจกใบส้ม
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรร พท.พร้อมด้วยนายสุรพล เกียรติไชยากร ว่าที่สส.เชียงใหม่ เขต8 พรรค พท.ร่วมแถลงข่าวกรณี กกต.แจกใบส้มให้ นายสุรพล โดย นายสุรพล กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่า การที่ตนถวายปัจจัยให้ครูบาสาม วัดดอยพระเจ้า อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เป็นการถวายปัจจัยส่วนตัว เพราะครูบาท่านได้ทำเทียนให้ตนบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลและท่านไม่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ทั้งนี้ สิ่งที่ กกต.แจ้งว่า ตนผิดมาตรา73 (2) นั้น ขอให้ กกต.ทบทวนอีกครั้งหนึ่ง
เทพไทชง3องคมนตรีนั่งนายกฯ
นายเทพไท เสนพงศ์ ว่าที่สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ว่า สถานการณ์การเมืองมีความคืบหน้าน้อยมาก ขอให้จับตามองวันที่ 9พฤษภาคม หาก กกต.ไม่สามารถรับรองส.ส.ได้ครบ95%ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จะมีปัญหาการนับหนึ่งของการตั้งรัฐบาลที่ต้องหยุดชะงักทันที ส่วนที่กระแสสังคมถามถึงข้อเสนอรัฐบาลปรองดองแห่งชาติว่า มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นมาก น้อยเพียงใด ส่วนตัวเห็นว่า มีโอกาสเกิดขึ้นและเพิ่มมากขึ้นตามลำดับสถานการณ์การเมืองไทย
‘ไพบูลย์-ดร.อำพน-กิตติพงษ์’
‘ที่ผ่านมาผมเสนอรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกฯไปแล้ว 4ชื่อ ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ มีทั้งยอมรับและคัดค้านและมีประชาชนถามว่า เหตุใดไม่เสนอชื่อองคมนตรีที่มีความเหมาะสมอีกท่านคือ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ซึ่งวันที่ดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม เข้มแข็งจริงจังปราบทุจริตและบุคคลที่มีความเหมาะสมอีกคนคือ ดร.อำพน กิตติอำพล เพราะผ่านงานสำคัญมาหลายบทบาท โดยเฉพาะการเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และอีกท่านที่สังคมเริ่มกล่าวถึงคือ นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ทั้ง3รายชื่อใหม่นี้ หลังจากที่ผมเคยเสนอแนวทางรัฐบาลปรองดองแห่งชาติไปแล้ว 4ชื่อ ก็มีอีก 3ชื่อใหม่นี้ก็ถือว่ามีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกฯคนกลางได้และขอให้สังคมร่วมพิจารณาด้วย ’ นายเทพไท กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี