“จตุพร”โต้ข่าวแตกคอ"สงคราม-ยงยุทธ"ยันตัดสินใจย้ายรังเสื้อแดงออกจากอิมพิเรียลเอง ไม่มีใครออกปากขับไล่ ยอมรับสภาพนปช.เหมือนทหารผ่านศึกอยู่อย่างยากลำบาก ต้องยอมกลืนเลือด ถ้าไม่ปรับองค์กรให้เล็กลงคงไปไม่รอด เผยคิดหนักปิดพีซทีวีหรือไม่ แต่จะเลือกหนทางบาดเจ็บน้อยที่สุด
30 เม.ย. 62 เพจเฟชบุ๊ก Peace News ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ช่องสปริงนิวส์ทีวี มีนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และ น.ส.อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ถึงกรณีการประกาศย้ายที่ทำการ นปช.ออกจากอาคารอิมพีเรียล ลาดพร้าว อย่างกระทันหันในช่วงที่มีข่าวแตกแยกกับพรรคเพื่อชาติ รวมถึงทิศทางของสถานีโทรทัศน์พีซทีวีจะมีอนาคตเป็นสื่อสารของฝ่ายประชาธิปไตยอย่างไร
นายจตุพร ชี้แจงการย้ายที่ทำการซึ่งถูกมองถึงเกิดจากแตกแยกกับนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ (เจ้าของอาคารอิมพีเรียล ลาดพร้าว) และนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา หรือไม่ว่า หลังเลือกตั้งตนประกาศจุดยืนชัดเจน จากนั้นนายสงครามร่วมแถลงลงสัตยาบันกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย แล้วตนได้แถลงยุติบทบาทผู้ช่วยหาเสียงให้พรรคเพื่อชาติ เพื่อกลับมาทำหน้าที่ประธาน นปช.ตามเดิม
“ช่วงแรกผมทำหน้าที่รวบรวมเสียงเลือกตั้งให้ฝ่ายประชาธิปไตย เมื่อภาระกิจเสร็จสิ้นผมจึงถือว่าจบกัน แล้วมาปฎิบัติหน้าที่ประชาชนคนหนึ่ง ต้องการทำงานภาคประชาชนมากกว่า ไม่มีอะไรอย่างอื่น”
ส่วนการประกาศยุติบทบาทกับพรรคเพื่อชาติเมื่อช่วงไปร่วมลงสัตยาบันนั้น นายจตุพรกล่าวว่า จุดยืนตนคือสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย เมื่อนายสงครามไปลงนามกับฝ่ายประชาธิปไตยแล้ว ภาระกิจจึงเสร็จสิ้น ตัวเองต้องถอยออกมา พร้อมกับการหาเสียงเป็นที่ยุติแล้ว
นายจตุพร เปรียบเปรยการย้ายตึกที่ทำการของ นปช.ว่า พวกตนเปรียบเป็นทหารผ่านศึก กรำศึกในสนามรบมานาน จนทำให้มีสัมภาระแบกยิ่งหนักขึ้น ประกอบกับคนมองจากความน่าเห็นใจกลายเป็นความน่ารำคาญไป
“ผมไม่มีปัญหาใดๆ คุณสงครามไม่เคยพูดว่า ให้พวกผมออกจากห้างอิมพีเรียล แต่ผมควรรู้ตัว แล้วไปหารังใหม่ที่เล็กลง สามารถเดินต่อไปได้ แม้ยากลำบากกว่าเดิมก็ตาม”
นายจตุพร กล่าวว่า ไม่ได้น้อยใจสังคม แม้ต่อสู้ได้คดีพ่วงมามากมาย แต่ความคิดสังคมแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ถ้าไม่คิดขยับขยายแล้ว เท่ากับรอวันจนหมดหนทาง เมื่อขณะนี้เราอยู่ด้วยความยากลำบาก ก็ควรไปอยู่ในจุดที่เล็กลง และประชาชนไปพบได้บ้าง แม้อึดอัด แต่ก็ต้องคิดอ่านในยามยากลำบากจริงๆ
ถามถึงฐานการเมืองพรรคเพื่อชาติคือ นปช.เก่าเมื่อย้ายออกจากตึก เกิดจากพรรคต้องการไปเป็นนั่งร้านให้ “นายพล” บางคนหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อคุณสงครามลงนามกับฝ่ายประชาธิปไตยแล้ว ตนยังเชื่อจะเปลี่ยนแปลงไปทางอื่นไม่ได้
“ส่วนใครคิดจะเปลี่ยนแปลงจุดยืน บุคคลนั้นต้องรับผิดชอบตัวเอง ผมเชื่อว่ารับผิดชอบไม่ไหว ผมไม่มีอะไรสลับซับซ้อน ปัญหาส่วนตัวผมกับคุณสงครามไม่มีอะไรกัน เพียงแต่ว่า ผมรู้ตัวเองและตัดสินใจด้วยตัวเอง”
นายจตุพร กล่าวว่า ที่ผ่านมาการต่อสู้มีความยากลำบาก ต้องกลืนเลือด ภาระขององค์กรหนักขึ้น ถ้าไม่มีการปรับตัว ไม่มียอมรับความจริง เราก็เดินไปยากลำบาก วันนี้เรายอมรับและคิดทุกแง่มุมจะอยู่หรือไป ถ้าไปเรามีโอกาสรอดอยู่บ้าง แม้ไม่แข็งแรงเท่าเดิม แต่ถ้าอยู่อาจปรับตัวไม่ได้ คงจะจบ
ส่วนจะปิดทีวีในเครือข่ายหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า อยู่ในช่วงที่ต้องคิดกันอย่างหนัก เพราะมีภาระอีกหลายเรื่อง มีหลายชีวิตที่ร่วมทัพเดินกันมา จึงอยู่ในช่วงที่คิดอ่านกัน เพราะเป็นจุดหักเหที่สำคัญที่สุด
ถามย้ำว่า ยังไม่มีคำตอบสุดท้ายว่า จะปิดทีวีหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้โอกาสเดินไปข้างหน้าก็ยาก ถอยก็ถอยไม่ได้ง่ายๆ องคาพยพมีหลายเรื่องที่ต้องคิด จึงอยู่ท่ามกลางอีหลักอีเหลื่อเต็มที
“ผมจะเลือกหนทางให้ดีที่สุด เพื่อที่จะบาดเจ็บกันให้น้อยที่สุด เพราะเราหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บไม่ได้”นายจตุพร กล่าวทิ้งท้ายการตัดสินใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี