การันตี‘บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก’
ทำงานเพื่อชาติ
อุตตมปัดพรรคร่วมตั้งแง่
จัดโผครม.ต้องรออีกระยะ
‘ณัฏฐพล’ยันมี20พรรค
ปิดทางตั้งขั้วการเมืองที่3
‘บิ๊กตู่’นัดสื่อเปิดใจ17พค.
“บิ๊กตู่” นัดเปิดใจกับสื่อ 17 พฤษภาคม ก่อนมีรัฐบาลใหม่ ด้าน “อุตตม” ยันไม่มีใครตั้งเงื่อนไขห้าม “บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก” ร่วมครม.ใหม่ ชี้ 5 ปี ทำงานหนักเพื่อประเทศ แนะอย่าเชื่อข่าวลือ ในขณะที่ “ณัฏฐพล” การันตีซ้ำ พปชร.จัดตั้งรัฐบาลผสม 20 พรรคได้แน่นอน ปิดทางขั้วการเมืองที่ 3
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่าสำหรับความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ซึ่งอยู่ในระหว่างที่จะมีรัฐบาลชุดใหม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้เวลาเร่งสะสางงานที่คั่งค้าง
และคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ โดยในวันที่ 15 พ.ค.นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการตามปกติที่เขตพื้นที่คลองเตย โดยจะมี ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะถือโอกาสนี้ขอบคุณข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่ได้ร่วมกันทำงานมาตลอดเวลา 5 ปี
ขณะเดียวกัน ในวันศุกร์ที่ 17 พ.ค.พล.อ.ประยุทธ์จะเชิญสื่อมวลชนร่วมรับประทานอาหารครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะมีรัฐบาลชุดใหม่พร้อมเปิดใจในการที่ได้ทำงานร่วมกันมาด้วย
รมต.แจ้งไม่ไปต่อรัฐบาลหน้า
นอกจากนี้ ในส่วนของรัฐมนตรีที่ไม่ได้ลาออกไปเพื่อเป็นรับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา( ส.ว.)ซึ่งมีบางส่วนได้แจ้งนายกฯว่าไม่ขอรับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลหน้า และตำแหน่งใดๆ เนื่องจากต้องการพัก อาทิ นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ รักษาการ รมว.พาณิชย์ โดย น.ส.ชุติมา ได้เก็บของที่ห้องทำงานกลับไปส่วนแล้ว
อุตตม ยันไม่มีใครตั้งเงื่อนไข
นายอุตตม สาวนายนหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่ามีการตั้งเงื่อนไขต่อรองจัดตั้งรัฐบาลจากพรรคการเมืองและนักการเมืองว่าไม่ควรมีชื่อของบิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมและบิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดารมว.มหาดไทยในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงขณะนี้มีการพูดคุยกันเรื่องการมาร่วมกันเดินหน้าประเทศยังไม่มีการพูดเรื่องตำแหน่งทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น เพราะจะต้องรอความพร้อมของทุกพรรคที่จะมาหารือกันอย่างเป็นทางการเท่าที่ได้มีโอกาสได้พบปะกับนักการเมืองไม่มีใครตั้งเงื่อนไขเช่นนี้และในขณะที่เคยร่วมงานกับทั้งพล.อ.ประวิตรและพล.อ.อนุพงษ์ทั้งสองท่านมีความตั้งใจและผลงานในการทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้กับประเทศอย่างแท้จริง
“ต้องยอมรับว่าที่ประเทศสงบเรียบร้อยมา5ปี ที่ผ่านมาทั้งสองท่านมีบทบาทช่วยงานพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.อย่างมากในการทำงานเพื่อประเทศโดยเฉพาะในงานด้านความมั่นคงและอื่นๆอาทิการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและสิทธิ์ที่ทำกินของประชาชนการพัฒนาสร้างอาชีพในชุมชนนอกจากนั้นยังมีบทบาทในการเจรจาและแก้ปัญหาประมงไทยจนสหภาพยุโรปปลดเงื่อนไขต่างๆที่จะห้ามนำสินค้าประมงไทยเข้าไปขายในตลาดยุโรปนับว่าได้ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับประเทศเป็นอย่างมาก” นายอุตตมกล่าว
นายอุตตมกล่าวอีกว่าส่วนการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลนั้นยังมีเวลาและขณะนี้ต้องให้เกียรติกับทุกๆพรรคเพราะบางพรรคอยู่ระหว่างการดำเนินการภายในอย่างพรรคประชาธิปัตย์กำลังจะเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จึงควรรอให้กระบวนการของแต่ละพรรคเสร็จสิ้นเสียก่อนทั้งนี้กระแสข่าวการจัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นเป็นเพียงคาดคะเนของสื่อมวลชนอาจทำให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิดตนในฐานะหัวหน้าพรรคจึงอยากให้ทุกท่านติดตามการแถลงข่าวจากพรรคอย่างเป็นทางการจะดีกว่า
ณัฏฐพลลุยตั้ง รบ.20พรรค
วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพปชร. เดินทางมารับหนังสือรับรอง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อโดยให้สัมภาษณ์ มั่นใจว่าพปชร.จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะมีเสียงตอบรับจากหลายพรรคเป็นอย่างดี แต่ยังต้องรอการยืนยันจากประชาธิปัตย์(ปชป.)ก่อนเพราะอยู่ในช่วงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ซึ่งจะเห็นความชัดเจนหลังวันที่ 15 พฤษภาคม
“ยอมรับว่ามีตัวเลขพรรคร่วมรัฐบาลประมาณ 20 พรรค แต่มั่นใจว่าไม่มีผลกับการทำงานและการลงมติในสภา เพราะส.ส.ทุกคนที่มาร่วมรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะรวมตัวกันเพื่อสร้างศักยภาพ แม้จะมีเสียงปริ่มน้ำก็ไม่กังวล เท่าที่พูดคุยเจรจากัน ไม่มีปัญหาอย่างที่สื่อได้วิจารณ์กัน”นายณัฏฐพล ย้ำ ส่วนกระแสข่าวว่าบางพรรค ไม่พอใจการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีนั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นเพียงการประเมินของสื่อมวลชน เท่านั้น
เมื่อถามว่าพรรคอนาคตใหม่ส่งสัญญาณหนุนขั้วการเมืองที่ 3 และจะโหวดให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯนายณัฏฐพล กล่าวว่า เป็นแนวคิดของ อนค ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความเป็นไปได้ ซึ่งต้องรอดูวันเลือกประธานสภา รองประธานสภา ซึ่งก็จะเห็นภาพ และแนวทางในการเลือกนายกฯว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
พรรคเล็กนัดถกข้อตกลงงานสภา
สำหรับผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่อาคารรัฐสภาใหม่ แยกเกียกกาย ซึ่งเป็นการรายงานตัววันที่ 4 ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)ชุดที่ 25 หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประกาศรับรองรายชื่อส.ส.เขตอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้มีส.ส.ทยอยมารายงานตัว ตั้งแต่ช่วงเช้า โดย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการรวมกลุ่มพรรคเล็ก เพื่อเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ว่า ขณะนี้พรรคเล็กรวมกลุ่มกันได้11พรรค บวก1คือพรรคประชาชนปฏิรูปของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ยอมรับว่าได้รับการทาบทามมาจาก 3กลุ่มให้ไปร่วมงานด้วย ได้แก่ 1.กลุ่มพรรคเพื่อไทย 2.กลุ่มพรรคพลังประชารัฐ 3.กลุ่มพรรคภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์ แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะไปร่วมรัฐบาลกับฝ่ายใด ต้องรอหารือกันในกลุ่มอีกครั้งในสัปดาห์หน้า เตรียมจะทำข้อบังคับการทำงานร่วมกัน ยืนยันว่าการตัดสินใจจะยึดถือนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชนมากที่สุด โดยจะไม่ต่อรองตำแหน่งใดๆ
วอน อนค.-พท.หยุดร้องปมคำนวณ
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่อ้างไม่เป็นธรรมที่พรรคเล็กได้คะแนนต่ำกว่า71,000คะแนนแต่ได้ส.ส.นั้นหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่าพรรคอนาคตใหม่และพรรคเพื่อไทย ก้าวข้ามเรื่องการร้องเรียนการคำนวณส.ส.ที่ให้สิทธิพรรคเล็กได้ เพราะผ่านขั้นตอนร้อง กกต.และศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว เข้าโหมดจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ร้องเรียนไป ก็ไม่มีอะไร ไม่พอใจ ก็ไปร้องศาลอะไรไม่ได้แล้ว ร้องได้แต่ศาลไคฟงให้เปาบุ้นจิ้นมาตัดสินขณะนี้ควรพุ่งเป้าไปที่การฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลให้ประเทศชาติเดินหน้า และขอให้ยุติการเรียกร้อง แบ่งเค้กการรับตำแหน่งของ ส.ส.ในแต่ละกระทรวง แต่ต้องคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก โดยยึดหลักถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
‘ดำรงค์’พ้อไม่มีทาบร่วมเข้ารัฐบาล
ด้านนายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย กล่าวภายหลังเข้ารายงานตัวการเป็นส.ส.ถึงจุดยืนในการร่วมรัฐบาลว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครทาบทามมาคาดว่าน่าจะตกสำรวจแล้วหรือไม่ แต่ก็มีชื่อไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)แล้ว ส่วนเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาลนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายไหน หรือ เป็นรัฐมนตรีเพราะพรรคเรา เป็นพรรคเล็กมีแค่2เสียง ขอให้ทำงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำงานเพื่อบ้านเมือง ไม่ใช่รัฐบาลหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง ถ้าไม่ใช่ตามนี้ ก็ขอเป็นฝ่ายค้านอิสระ และยืนยันจะไม่จับมือกับพรรคเล็กอื่นๆเพื่อต่อรองตำแหน่ง ทุกคนมีอิสระและตนไม่ใช่ล็อบบี้ยิสต์
ชี้เกิน95%พร้อมทูลเกล้าฯเปิดประชุม
ขณะที่นางนงนุช เศรษฐบุตร รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่าสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดให้สมาชิกภาผู้แทนราษฎรเข้ารายงานตัวได้ถึงวันที่ 17พ.ค.นี้แต่หากมีส.ส.มารายงานตัวครบ ร้อยละ 95ก่อนวันดังกล่าว จะนำบัญชีรายชื่อ ส.ส.ขึ้นทูลเกล้าฯถวายเพื่อรอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯรัฐพิธี เปิดประชุมรัฐสภาต่อไปซึ่งเป็นไปตามกรอบรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ภายใน15วันหลังการประกาศรับรองส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ยุพรรครวมหัวยื่นฟ้องกกต.
นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ระบุถึงกรณีที่ กกต.รับรอง ส.ส.ให้พรรคการเมืองที่มีคะแนนรวมต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ส.ส. 1 คนว่า ในความเห็นส่วนตัวมองว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการคิดคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค 7 คน และพรรคควรใช้สิทธิตามกฎหมายที่จะฟ้อง กกต.ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หรือฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ดี ตนไม่เห็นด้วยกับ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง ให้มีคำสั่งให้การคิดคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นโมฆะทั้งหมด อีกทั้งไม่เห็นด้วยที่ส.ว.ชุดใหม่จะร่วมโหวตนายกฯที่กำลังจะเกิดขั้น เนื่องจาก ส.ว.ได้รับการแต่งตั้งโดย คสช.
นอกจากนี้ ยังระบุถึงการเตรียมการที่จะชี้แจงต่อ กกต.หาก กกต.เชิญเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับคำร้องของ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรื่อง การถือครองหุ้นสื่อของ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 11คนว่าได้ขอคัดสำเนาคำร้องเพื่อเตรียมแก้ข้อกล่าวหา พร้อม ถามกลับนายศรีสุวรรณ ทำไมไม่ตรวจสอบสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)บ้างเช่นนายตวง อันทะไชย นายคำนูณ สิทธิสมาน หรือนายสมชาย แสวงการ
หนุน ปชป.-ภท.ผนึกตั้งรัฐบาล
นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลเชิงยุทธศาสตร์ ของพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่ที่จะเชิญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ หรือ นายอนุทิน ชาญวีรกุล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทย มาเป็นนายกรัฐมนตรีและขอให้รวมเสียงกันเพื่อให้เกิน375เสียง ปิดสวิตช์ สว.ว่า เห็นด้วยกับแนวคิดนี้มาก เราต้องร่วมมือกันเพื่อสู้กับเผด็จการ ต้านสืบทอดอำนาจ แม้ฝ่ายสืบทอดอำนาจจะวางแผนไว้อย่างดี เตรียมแผนหนึ่ง สอง สามรองรับไว้ทุกสถานการณ์ แม้พวกเขาจะไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ยังมีอำนาจไม่ว่ายุทธศาสตร์ชาติ 20ปี อย่างน้อยหากฝ่ายประชาธิปไตยก็รวมตัวกันได้ เลือกนายกฯของเราได้ ก็จะสกัดการสืบทอดอำนาจ ทำได้ไม่เต็มที่
“ผมขอให้ทุกคน ทุกฝ่าย วางอดีต วางปัญหา ความขัดแย้งที่ผ่านมาไว้ก่อน ถึงเวลาแล้วที่เราจะสามารถร่วมมือกัน ทำเพื่อประเทศชาติ ร่วมกันปิดสวิตช์ สว. เพื่อรวมใจกันให้มีเสียงเกิน 375 เสียง ไม่ว่า คุณอภิสิทธิ์ หรือ คุณ อนุทิน ใครจะได้เป็น นายกฯก็คงดีกว่า ปล่อยให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.เป็นนายกฯต่อไปอย่างแน่นอน” นายรยุศด์ กล่าว
‘ธนาธร’อุบหนุนพรรคขั้วที่ 3
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อคน.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจัดอบรมส.ส.ของพรรคว่าเป็นการอบรมส.ส.ครั้งที่ 3 จะจัดขึ้นในวันที่ 11-12 พ.ค.โดยเนื้อหาการอบรมเพื่อติวเข้ม การพิจารณาตัวบทกฎหมาย ขอบเขต อำนาจหน้าที่ของส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นส.ส.สมัยแรก ได้เข้าทำงานในสภาฯ จะเป็น ส.ส.ที่มีคุณภาพ ส่วนกระแสข่าวมีการเปลี่ยนขั้วจัดตั้งรัฐบาลขั้วที่ 3โดยพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่ เปลี่ยนทิศทางมาผลักดัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แคนดิเดทนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดทนายกฯพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเป็นนายกฯนั้น อยู่ขั้นตอนการพูดคุย ต้องเคารพกลุ่มคนหรือพรรคการเมืองต่างๆที่พูดคุยด้วย เกรงจะเกิดความไม่เชื่อใจซึ่งกันและกัน ถ้ามีความชัดเจน พรรคพร้อมจะแถลงทันที
ปลุกสส.378เสียงปิดสวิตช์ ส.ว.
เมื่อถามย้ำว่า พรรคอนาคตใหม่ยังยืนยันจะจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่าพรรคการเมืองที่ไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์นั้น มีเสียงมากพอที่จะปิดสวิตช์ส.ว.ได้ โดย 378 เสียง ที่ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ มีมากกว่ากลุ่มพรรคที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์และส.ว.250 คน โดยเมื่อ 378 เสียงรวมกันได้แล้ว ก็ตกลงกันได้ว่าใครจะเป็นฝ่ายค้าน หรือ ฝ่ายรัฐบาล แล้วมายกมือเลือกนายกฯที่มาจาก 378 เสียงนี้ เท่ากับสามารถปิดสวิตช์ ส.ว.ได้และสุดท้ายนายกฯ ก็จะมาจากเสียงของประชาชน ส่วนคืบหน้าการปิดสวิตช์ ส.ว.นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาพูดคุย ไม่ทราบว่าจะทำได้หรือไม่ แต่จะพยายามอย่างเต็มที่
4ผู้ชิง หน.ปชป.โชว์วิสัยทัศน์
ที่พรรคประชาธิปัตย์ เวลา10.00น.ผู้เสนอตัวลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รักษาการรองหัวหน้าพรรคฯ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม.และ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคอดีต รมว.ยุติธรรม ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ต่อสมาชิกพรรคพื้นที่ภาคกลางและอดีตส.ส.กทม.บางส่วน ซึ่งผู้สมัครเข้าชิงหัวหน้าพรรคทั้งสี่คนยืนยันว่าการจะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรค
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษา ปชป.เปิดเผยภายหลังร่วมรับฟัง 4 ผู้เสนอตัวลงชิงตำแหน่งหัวหน้าปชป.แสดงวิสัยทัศน์ว่า เท่าที่ฟังทั้ง 4 คน ทุกคนมีศักยภาพเป็นหัวหน้าพรรคฯคนต่อไปได้
“แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ อย่าให้เกิดความแตกแยกขึ้น เพราะในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้ง เพิ่งจะมีในช่วงหลัง อาจเป็นเพราะโลกเปลี่ยนหรือคนที่เข้ามาใหม่อาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ เพราะก่อนหน้านี้เมื่อเลือกหัวหน้าพรรคจบ ทุกอย่างก็จะจบ แต่ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงปัจจัยภายนอกพรรคเข้ามาครอบงำและชี้นำ”นายชวน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี