ครม.ประกาศหยุด3มิ.ย.

วันเฉลิมฯราชินี

พร้อมจัดถวายพระพร

ร.10พระราชทานเลี้ยงขอบคุณ

ทุกฝ่ายร่วมจัดงานพระราชพิธีฯ

ครม.มีมติเห็นชอบกำหนดให้วันที่ 3 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันหยุดราชการประจำปี เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” รัฐบาลเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติตามปกติ ขณะที่ “ในหลวง ร.10” พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดเลี้ยงขอบคุณข้าราชการ เอกชน จิตอาสา ประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่ร่วมจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 สำเร็จงดงามสมพระเกียรติ

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้วันที่ 3 มิถุนายนของทุกปี ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เป็นวันหยุดราชการประจำปีตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ เริ่มตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ มติครม.ดังกล่าวสืบเนื่องจาก ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 และโดยที่วันที่ 3 มิถุนายน เป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จึงเห็นสมควรกำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันหยุดราชการประจำปี

พ.อ.หญิงทักษดากล่าวต่อว่า และเนื่องในวันที่ 3 มิถุนายน เป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี รัฐบาลเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติตามปกติ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดกิจกรรมที่ชัดเจน ซึ่งจะมีพิธีทำบุญ ตักบาตร นอกจากนี้ รัฐบาลจัดให้มีการบันทึกเทปถวายพระพร อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีจะได้กำหนดรายละเอียดการจัดกิจกรรมอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าจะเป็นในสัปดาห์หน้า

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงหลังประชุม ครม.ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชกระแสขอบใจประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่ร่วมกันจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเสร็จสิ้นอย่างงดงามสมพระเกียรติ และทรงมีกระแสรับสั่งให้จัดเลี้ยงขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ภาครัฐ ภาคเอกชนประชาชน จิตอาสาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังวางแผนการจัดเลี้ยงอยู่ โดยกำหนดการจัดงานจะจัดขึ้นก่อนวันที่ 24 มิถุนายน ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สำหรับการจัดเลี้ยงครั้งนี้ด้วย

นายกฯกล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันขอให้สื่อมวลชนเข้าใจตรงกันกับคำว่าพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย คำอ่านและสรรพนามต่างๆ ขึ้นต้น ลงท้าย รวมไปถึงการใช้บทเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้วในพิธีทางการ โดยสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวังทำหนังสือชี้แจงไปยังหน่วยงานราชการต่างๆ เรียบร้อยแล้ว.

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนประชุม ครม. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์การแสดงทางวัฒนธรรมในงานมหรสพสมโภช เนื่องในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ระหว่างวันที่ 22-28 พฤษภาคม ที่สนามหลวง และสถานที่จัดงานส่วนภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัด โดยนายกรัฐมนตรีชมการสาธิตการแสดงรำโคม โขน หุ่นหลวง และการแสดงกลองยาว พร้อมกล่าวว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทย และช่วยทำให้บ้านเมืองสงบ

ทั้งนี้ การจัดมหรสพสมโภชเนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช .2562 โดยบูรณาการกันจากทุกหน่วยงาน เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย สำหรับเวทีแสดงในมหรสพสมโภช แบ่งเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย เวทีกลางที่สนามหลวง ตั้งแต่เวลา 18.30-21.30 น. ตลอด 7 วัน มีการแสดงที่น่าสนใจ อาทิ โขน ชุด “พระบารมีมิ่งฟ้ารามาวตาร”นาฏศิลป์ร่วมสมัยรวมใจภักดิ์ และตลอด 7 วัน จะจัดแสดงแสง สี เสียง ม่านน้ำ ไฟประดับ ชุด “แสงแห่งพระมหากรุณาธิคุณปกหล้า” โดยประดับไฟแอลอีดีสารพัดสีนับหมื่นดวง ในรูปแบบของสวนดอกไม้และต้นไม้ ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียด สายด่วนวัฒนธรรม โทร.1765 และ www.m-culture.go.th

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา ประจำปี 2562 ระหว่างวันที่ 12-18 พฤษภาคม 2562 โดยมีกิจกรรมสำคัญ อาทิ การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเวียนเทียนในจังหวัดต่าง ๆ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด พร้อมทั้งจะเชิญทูตานุทูต 12ประเทศร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเวียนเทียน ร่วมสืบทอดพระพุทธศาสนา พร้อมจัดวิสาขบูชาอาเซียน 13จังหวัด ที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน