‘วราวุธ’แฉถูก2ข้างจีบตั้งรัฐบาล ‘พท.’ใจป้ำบอกจะเอาอะไร‘ไม่มีปัญหา’
19 พ.ค.62 นายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบาย พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้ ว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้จัดสรรโควตาให้กับพรรคการเมืองต่างๆแล้วนั้น เชื่อว่าคงเป็นความเข้าใจกันในส่วนของพรรค พปชร.เอง แต่ในส่วนของพรรค ชทพ. ยังไม่ได้มีการพูดคุย ลงรายละเอียด และเท่าที่ตน ได้พูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นทราบว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยใดๆทั้งนั้น มีแต่เพียงพูดคุยกันไว้หลวมๆถึงแนวทางการทำงาน แต่ในรายละเอียดยังไม่ได้มีใครได้รับการติดต่อจากพรรค พปชร.ว่าเป็นอย่างไร ยังไม่มีสายต่อมา และในเวลานี้ก็ยังไม่มีการนัดแนะพูดคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลกันแต่อย่างใด ตนก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากใคร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ระบุเป็นการพูดคุยหลวมๆนั้น คือ คุยกับแกนนำพรรคใดบ้าง แกนนำพรรค พปชร.ด้วยหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า มีการติดต่อมาทั้ง2ข้าง แต่ยังไม่มีการพูดคุยกันอย่างเป็นกิจจะลักษณะว่าตกลงกันอย่างนั้นอย่างนี้ ยังไม่มีการพูดคุยกัน แค่เป็นการชักชวนเบื้องต้นจากทั้ง 2 ข้าง และตนเชื่อว่าทางพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ก็โดนทั้ง 2 ข้างเทียบเชิญแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในวันเสาร์ที่ 25 พ.ค.นี้ จะมีการเลือกประธานสภา เราก็ยังไม่รู้เลยว่าแต่ละข้างจะเสนอใคร ทั้งนี้พรรค ชทพ.จะต้องมีการประชุมพรรคเหมือนกัน เพื่อหารือว่าพรรคจะไปในทิศทางใด ซึ่งกำลังหารือกับหัวหน้าพรรค ก็ยังดูกันอยู่ว่าจะอย่างไร อาจจะเป็นวันที่ 23 พ.ค.ที่จะประชุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อถูกเทียบเชิญทั้ง 2 ข้าง แต่ละข้างยื่นข้อเสนออะไรให้กับพรรคบ้าง นายวราวุธ กล่าวว่า ทางพรรคเพื่อไทยเสนอว่าจะเอาอะไรก็บอก ไม่มีปัญหา ในส่วนพรรคพลังประชารัฐก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้กันอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่ได้มีการคอนเฟิร์มใดๆกันทั้งสิ้น
เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคมีแนวทางอย่างไรในการตัดสินใจว่าเลือกข้างใด นายวราวุธ กล่าวว่า อยากดูว่านโยบายที่พรรค ชทพ.ให้ไว้กับประชาชนทั้ง 7 ด้าน อาทิ เรื่องการเกษตร การศึกษา การสาธารณสุข และสังคม ที่เราได้หาเสียงเลือกตั้งนั้นมีส่วนไหนจะสามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้ในรัฐบาล นำไปผนวกกับนโยบายรัฐบาลได้หรือไม่ หากสามารถทำตามนั้นได้เราก็ยินดี
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรค พปชร.เสนอโควตารัฐมนตรี 2 เก้าอี้ให้พรรค ชทพ. นายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ถ้าเทียบกับจำนวน ส.ส. ที่เรามีอยู่ 10 ที่นั่งนั้น ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะตอนนี้เสียงปริ่มกันอยู่ประมาณ 250 และอัตราส่วนอยู่ที่ประมาณ 7:1 หากปัดเศษกันแล้วให้เกียรติกันแล้ว ก็ไม่น่าแปลกใจ แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการคอนเฟิร์มมาจากพรรค พปชร. แต่อย่างใดว่าพรรค ชทพ.ได้ 2 ที่นั่งอย่างที่มีกระแส
ผู้สื่อข่าวถามถึง ความเป็นไปได้เรื่องขั้วที่ 3 นายวราวุธ กล่าวว่า คิดว่าไม่มี คงมี 2 ขั้วเท่านั้น เพราะขั้วที่ 3 จะอยู่เองก็อยู่ไม่ได้ ขั้วที่ 1 และขั้วที่ 2 จะอยู่เองก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นจะเกิดขั้วที่ 3 ย่อมเป็นไปไม่ได้ จึงไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองปรากฏการณ์ที่โลกโซเชียลหนุนให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า เชื่อมั่นว่ามีคนกลุ่มใหญ่ที่ต้องการเห็นนายธนาธรเป็นนายกรัฐมนตรี มิฉะนั้นแล้วพรรคอนาคตใหม่คงจะไม่ได้คะแนนท่วมท้นมากขนาดนี้ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่พิสูจน์ได้จริง แต่เมื่อเป็นกระแสของโลกโซเชียลออกมาอย่างนั้นตนเองยังต้องฟังหูไว้หูเพราะบนโลกออนไลน์ไม่เหมือนคะแนนแห่งความเป็นจริง และการสร้างกระแสบนโลกออนไลน์นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก
“ขอฝากประชาชนว่าอย่าเพิ่งรีบร้อนเร่งตัดสินใจใดๆไปกับกระแสข่าวต่างๆที่เกิดขึ้น เพราะช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของประเทศในขณะนี้ มักมีข่าวลวงข่าวปล่อยเกิดขึ้นมากมาย ขอให้แต่ละคนวิเคราะห์ข่าวโดยใช้สติ อย่านำความสะใจมาเป็นที่ตั้ง ค่อยๆอ่านแล้วคิดถึงความเป็นไปได้ ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจว่าอะไรเป็นอะไร บางคนบอกว่าพรรคการเมืองนั้นจะได้กระทรวงนี้ พรรคการเมืองนี้จะได้กระทรวงนั้น ทั้งที่จะสรุปสุดท้ายได้จริงก็เมื่อมีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) เท่านั้น นอกนั้นเป็นข่าวลือข่าวปล่อยทั้งนั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้” นายวราวุธ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี