21 พ.ค. 2562 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เขียนบทความ “โทรคมนาคนโลกจะเปลี่ยนไป” เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว กล่าวถึงสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน กรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐ ออกคำสั่งห้ามผู้ประอบการเอกชนสหรัฐทำธุรกิจกับ “หัวเว่ย (Huawei)” บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน สะท้อนภาพการชิงกันขึ้นเป็นผู้นำโลกในอนาคตของชาติมหาอำนาจทั้ง 2 ดังนี้
“สหรัฐเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจอินเตอร์เนต และการผันโทรศัพท์มือถือไปเป็นคอมพิวเตอร์ประจำตัวที่ทุกคนขาดไม่ได้ ที่ผ่านมา เอกชนในยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีต่างเข้ามาเกาะโครงสร้างหลักที่สหรัฐสร้างไว้ ซึ่งเอกชนสหรัฐก็ไม่ว่าอะไร เพราะสามารถเก็บรายได้จากการนี้ แต่เมื่อจีนพัฒนาธุรกิจนี้ อำนาจทางธุรกิจมีแนวโน้มจะเปลี่ยนไปมาก เพราะจีนมีฐานลูกค้าใหญ่มาก มีการพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองต่อยอดจากของสหรัฐ และคนจีนรับนิสัยธุรกิจผ่านสมารท์โฟนอย่างรวดเร็ว”
“การแข่งขันที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าธุรกิจในอนาคต จะเป็นในเรื่อง 5จี 6จี 7จี ฯลฯ ซึ่งที่ผ่านมาจีนพัฒนาล้ำหน้ากว่าสหรัฐ เพราะจีนปล่อยคลื่นความถี่สูงให้เอกชนใช้แต่เนิ่นๆ ส่วนในสหรัฐนั้น กระทรวงกลาโหมยังกอดคลื่นความถี่สูงเอาไว้ไม่ปล่อย เอกชนสหรัฐย่อมทราบดีว่าหัวเว่ยจะสามารถก้าวแซงสหรัฐได้ แต่ที่ผ่านมา ไม่มีประธานาธิบดีสหรัฐที่จับมือกับเอกชนเพื่อประโยชน์เฉพาะของเอกชน เท่ากับทรัมป์”
“อันที่จริง มาตรการบีบหัวเว่ย ถึงแม้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจเอกชนสหรัฐ แต่ผู้บริโภคในสหรัฐย่อมจะพลาดโอกาสที่จะใช้ของดีราคาถูกไปด้วย จึงเป็นการเฉือนเนื้อชาวบ้านไปให้ธุรกิจโทรคมนาคมสหรัฐโดยอัตโนมัติ ล่าสุด คำสั่งฉุกเฉินที่ทรัมป์ประกาศห้ามธุรกิจระหว่างบริษัทอเมริกันกับหัวเว่ย ได้ลามไปจนบริษัทกูเกิ้ลต้องยุติไม่ให้ผู้ใช้มือถือหัวเว่ยใช้บริการบางอย่าง ถึงแม้ไม่กระทบผู้ที่มีมือถืออยู่แล้ว แต่กลุ่มนี้ก็จะใช้ได้เฉพาะแอ๊พแบบพื้นฐานเท่านั้น ส่วนแอ๊พที่มีการพัฒนาเพิ่มเติม ต่อไปลูกค้าหัวเว่ยจะไม่มีสิทธิใช้”
“ถามว่า หัวเว่ยจะแก้สถานการณ์อย่างไร..ในอนาคต คาดว่าหัวเว่ยจะต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับจีน เพื่อใช้แทนที่ของสหรัฐ และจะต้องลามไปให้ครอบคลุมทุกเรื่อง ซึ่งจะทำให้โลกของโทรคมนาคมแบ่งเป็นสองข้าง สหรัฐ กับจีน ประเทศอื่นๆ ก็ควรจะต้องเหยียบเรือสองแคม คือใช้โลกทั้งสองข้าง ซึ่งจะเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ เพราะสหรัฐจะไม่สามารถสอดแนมการใช้งานในโลกข้างของจีนได้เหมือนเดิม”
“ในอดีต สหรัฐร่วมมือกับอิสราเอลทำโปรแกรมสอดแนมอินเทอร์เนตทั่วโลก เคยมีกรณีเพื่อนของผมคนหนึ่ง มีการส่งอีเมล์ถึงคนนามสกุล บินลาเดน ซึ่งเป็นนายธนาคาร ปรากฏว่าสำนักข่าวกรองสหรัฐส่งข้อมูลมายังไทย เพื่อขอให้สืบให้แน่ใจว่าไม่เกี่ยวกับการก่อการร้าย ถ้ามีโลกของจีน สหรัฐจะขาดกำลังที่จะสอดแนมการเงินสำหรับก่อการร้ายไปอย่างหนัก และแม้แต่การควบคุมแซงชั่น ก็จะหลุดมือออกไปได้”
“แต่ปัญหาสำหรับหัวเว่ย คือโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ต้องใช้เวลา ทั้งในการจัดตั้ง และในการชักชวนคนหนุ่มสาวที่พัฒนาแอ๊พให้สหรัฐ ให้มาเขียนโปรแกรมใหม่ให้หัวเว่ย อย่างไรก็ดี จีนมีจุดต่อรองตรงที่ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตแร่ธาตุหายาก (rare earth) ถึง 90% ของโลก และสหรัฐนำเข้าแรร์เอิร์ธจากจีนถึง 80% ของการนำเข้าทั้งหมด ซึ่งการเปลี่ยนแหล่งซื้อจะต้องใช้เวลาเช่นกัน เนื่องจากแรร์เอิร์ธเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช่สำหรับชิ้นส่วนโทรคมนาคม จึงต้องติดตามว่าจะมีการเอาประเด็นนี้มาต่อรองหรือไม่”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี