ศาลฎีกาคดีเลือกตั้ง สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี "บรรจบ นามวิเศษ" ผู้สมัคร ส.ว.หนองกี่ บุรีรัมย์ หลัง กกต.พบพฤติการณ์ฮัลโหลให้ผู้สมัคร ส.ว.กลุ่มเดียวกันช่วยลงคะแนน จะจ่ายเงินค่าสมัคร ส.ว.คืนให้
วันนี้ (22 พ.ค.62) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง องค์คณะผู้พิพากษาแผนกคดีเลือกตั้ง ได้อ่านคำสั่ง คดีหมายเลขดำ ลต.(ส.ว.) 2/2562 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งวินิจฉัยและมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งของ "นายบรรจบ นามวิเศษ" อายุ 60 ปี อาชีพรับราชการ ผู้คัดค้าน ซึ่งเป็นผู้สมัครรับคัดเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว. )อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์
ทั้งนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ไต่สวนและตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า "นายบรรจบ" ผู้คัดค้าน เป็นผู้สมัครรับเลือกเป็น ส.ว. อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ กลุ่มการศึกษาและสาธารณสุข ต่อมาผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด พบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือพรรคการเมือง หรือการกระทำใดๆ ที่เป็นเหตุให้การเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม
โดยพบว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.61 เวลาประมาณ 10.00 น. "นายบรรจบ" ผู้คัดค้าน ใช้โทรศัพท์ติดต่อกับผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ว. หญิงคนหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์กลุ่มเดียวกัน และพูดคุยในลักษณะชักชวนให้ไปลงคะแนนเสียงให้ โดยจะ คืนค่าสมัครส.ว.ให้ โดยผู้สมัครหญิงคนนั้นได้เปิดคลิปเสียงสนทนาดังกล่าวให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด และได้รายงานต่อกกต. กลาง
กกต.ไต่สวนแล้ว เห็นว่าการกระทำของ "นายบรรจบ" ผู้คัดค้าน เป็นการสัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิ์เลือกลงคะแนนให้แก่ผู้คัดค้าน เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2561 มาตรา 77 (1 ) ทำให้การเลือกตั้ง ส.ว.ไม่เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม จึงมีคำสั่งให้ระงับสิทธิสมัครเลือกตั้ง ส.ว.ของ "นายบรรจบ" ผู้คัดค้านไว้เป็นการชั่วคราว เป็นเวลา 1 ปีตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 224 (4) และ มาตรา 225
ส่วนการกระทำของ "นายบรรจบ" ผู้คัดค้าน เป็นการทำให้การเลือก ส.ว. ไม่ได้เป็นไปด้วยสุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่นั้น "ศาลฎีกา" เห็นว่า ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.ฯ มาตรา 61 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ประกอบรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 226 ววรคสาม บัญญัติว่า ก่อนการประกาศผลถ้ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้ง กระทำให้การเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี
โดยข้อเท็จจริง ได้ความจากการไต่สวนว่า ก่อนมีการเลือก ส.ว.ระดับจังหวัด "นายบรรจบ" ผู้คัดค้าน โทรศัพท์ไปหาบุคคลคนหนึ่งแล้วพูดว่า "ให้ไปลงคะแนนให้ผมระดับจังหวัด เดี๋ยวผมจะให้ค่าสมัครคืน..." ซึ่งข้อความดังกล่าวมีความหมายว่า ในการเลือก ส.ว.ระดับจังหวัดหากบุคคลนั้นเลือก "นายบรรจบ" ผู้คัดค้าน ก็จะให้ผลประโยชน์ตอบแทน โดยจะจ่ายเงินจำนวนเท่ากับค่าสมัครคืนให้ อันเป็นการจูงใจให้เลือก "นายบรรจบ" ผู้คัดค้าน และเป็นการเอาเปรียบผู้สมัครรายอื่นทำให้เจตนารมณ์ของการเลือก ส.ว. ที่ต้องการคนดี และบุคคลซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์อาชีพหรือทำงานด้านต่างๆ ที่หลากหลายของสังคมเข้าไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนในวุฒิสภานั้นต้องเสียไป
ดังนั้นการกระทำของ "นายบรรจบ" ผู้คัดค้าน จึงเป็นการสัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้ให้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิ์เลือกลงคะแนนให้แก่ตน อันมีผลทำให้การเลือก ส.ว.ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม "นายบรรจบ" ผู้คัดค้าน จึงต้องถูกเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 226 วรรคสาม และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.ฯ มาตรา 61 วรรคสอง
จึงพิพากษา ให้เพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งของ "นายบรรจบ นามวิเศษ" ผู้สมัคร ส.ว.เป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา (22 พ.ค.62)เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้คงมีเพียงผู้แทน กกต.ผู้ร้อง เดินทางมารับทราบคำสั่งศาล ส่วนนายบรรจบ ผู้คัดค้านไม่ได้เดินทางมาศาลเพิ่อฟังคำสั่งแต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี