“ปิยบุตร” ชี้ศาล รธน.สั่ง “ธนาธร” หยุดทำหน้าที่ไม่ได้ เทียบเคียงคดี “ดอน” ยันปมเงินกู้110 ล้านทำได้ไม่ผิดกฎหมาย มั่นใจไม่ผิดจนโดนยุบพรรค ขอสงวนสิทธิลากส.ส.พปชร. ปมถือหุ้นสื่อ แจงรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลยังเดินหน้าด้วยดี
22 พ.ค. 62 ที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงกรณีกกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย กรณีหุ้นสื่อของ นายธนาธร จึงรุ่งเรือง กิจหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ว่า กกต.ใช้เวลา 53 วันในการพิจารณาเรื่องแล้วส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ เทียบเคียงกับ กรณีของ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ใช้เวลา 417 วัน กระบวนการทั้งหมดต่างกันอย่างสิ้นเชิง เรื่องคล้ายกันแต่ทำไม่ใช้เวลาต่างกันอย่างสิ้นเชิง มาตรฐานการทำงานของ กกต.พรรคอนาคตใหม่ขอตั้งคำถามว่า ใช้มาตรฐานเดียวกันหรือไม่ และการทำงานของกกต.ขัดต่อข้อกฎหมายหรือไม่ เช่น การที่คณะกรรมการช่วยตรวจสอบครั้งแรกไม่เปิดโอกาสให้นายธนาธร และผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง เมื่อเข้ากระบวนการไต่สวนในบันทึกข้อกล่าวหาใช้ข้อความเพียง 6 บรรทัดเท่านั้น
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า หากกกต.พิจารณาอย่างรอบด้านและเปิดโอกาสให้นายธนาธรชี้แจง ไม่พิจารณาความผู้ร้องเพียงอย่างเดียว เป็นไปได้ว่า อาจจะไม่ต้องตั้งข้อกล่าวหาก็ได้ นี่คือความผิดปกติในกระบวนการทั้งหมดของ กกต. และมีความน่าสงสัยว่า กกต. ตรวจสอบตอนเป็นผู้สมัครหรือเป็นส.ส.แล้ว หากตรวจสอบตอนเป็นผู้สมัครส.ส. กฎหมายระบุว่า ตรวจสอบได้ก่อนการเลือกตั้ง คือวันที่ 23 มี.ค. แต่ กกต. ยันยืนยันจะตรวจสอบต่อ และรับรอง นายธนาธร เป็นส.ส.วันที่ 8 พ.ค. จากนั้นวันที่ 16 พ.ค.จึงไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ หากตรวจสอบในสถานะที่นายธนาธรเป็นส.ส. ตามที่รัฐธรรมนูญให้นับสถานะย้อนไปถึงวันเลือกตั้งคือวันที่ 24 มี.ค.กกต.ไม่ยอมรับว่า ตัวเองไม่มีอำนาจตรวจสอบตรงนี้ จึงมั่วไปหมด สุดท้ายเรื่องที่ส่งศาลรัฐธรรมนูญนั้น ร้องในผู้สมัครหรือส.ส.
นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า ขอย้ำการโอนหุ้นมีผล 8 ม.ค. 2562 วันที่สมัคร ส.ส. นายธนาธร ไม่ได้ถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดียแล้ว ถ้าท่านอ่านกฎหมายวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ จะมีวิธีและกระบวนการพิจารณาของศาล ที่มีข้อกังวลกันว่า หากศาลรับคำร้องแล้ว จะสั่งให้นายธนาธร หยุดทำหน้าที่ส.ส.หรือไม่ หากเทียบกับคดีนายดอน ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกัน ไม่มีทางที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายธนาธร หยุดทำหน้าที่ได้อย่างแน่นอน เพราะต้องเปิดโอกาสให้คู่กรณีชี้แจงใน 15 วัน และหากจะให้หยุดทำหน้าที่ ต้องมีมูลเหตุทำให้เกิดความเสียหายในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ การเป็นส.ส.ต้องปฏิญาณตนก่อนที่จะปฏิบัติหน้าที่ ขณะนี้นายธนาธรจึงยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็น ส.ส. ดังนั้นไม่มีทางที่ศาลจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ แม้จะมีปาฏิหาริย์กฎหมายสั่งให้หยุด
“เราก็ยืนยันว่า ไม่กระทบกับการเสนอนายธนาธร เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคอนาคตใหม่มั่นใจว่า หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง เราพร้อมสู้คดี และอย่างน้อยคงใช้เวลา 2-3 เดือน และหากคดีนี้วินิจฉัยว่าผิด พรรคก็ขอสงวนสิทธิในการร้องเรียน ส.ส.ทุกคนของพรรคพลังประชารัฐในกรณีเดียวกันด้วย” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวถึงกรณีเงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่จากนายธนาธรว่า เราต้องการทำพรรคอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ เรามีความพยายามให้สามารถตรวจสอบเงินของพรรคได้ ในเวลานั้นที่เราเปิดรับบริจาค กกต.ได้แจ้งว่า มีประกาศ คสช. ห้ามรับบริจาค ห้ามขายของ แล้วจะเอางบที่ไหน เรามีกิจกรรมและเป็นพรรคใหม่ ต้องมีค่าใช้จ่าย ทั้งการเดินสายรับสมัครสมาชิก การส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง กฎหมายให้กรรมการบริหารพรรคบริจาคได้คนละไม่เกิน 10 ล้านบาท แต่ไม่มีใครมีเงินขนาดนั้น
ดังนั้นเราจึงศึกษากฎหมายทั้งหมด ทั้งยังพบว่า พรรคการเมืองในต่างประเทศเป็นหนี้ธนาคารเต็มไปหมด ดังนั้นพรรคการเมืองกับการกู้เงินจึงเป็นเรื่องปกติ ประเทศไทยมีกฎหมายควบคุมรายได้ของพรรคอยู่ แต่เงินกู้ไม่มีระบุไว้ พรรคการเมืองถือเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายเอกชน ซึ่งไม่มีกฎหมายเขียนไว้ว่าห้ามพรรคการเมืองกู้เงิน เมื่อไม่เขียนจึงสามารถทำได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ห้าม ทั้งนี้จากการตรวจสอบพรรคการเมืองหลายๆพรรคในไทยก็กู้เงิน เช่น พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งมีเอกสารยืนยัน ประธานกกต.ลงรับทราบ เรื่องนี้จึงมีข้อเท็จจริงว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย
นายปิยบุตร กล่าวว่า ลองเปิดกฎหมายดู และเปิดบัญชีของแต่ละพรรคให้ดี และเรื่องนี้ไม่ใช่เหตุในการที่จะยุบพรรคได้ขอให้เข้าใจตรงกันอย่าไปตื่นตูม พรรคอนาคตใหม่กู้จากนายธนาธร โดยมีเพดานสูงสุดให้กู้ได้ที่ 250 ล้านบาท แต่เรากู้มาจริง 110 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระคืนที่ 3 ปี ดอกเบี้ย 3.75 นี่คือเงินกู้ต้องหามาคืนแน่นอนไม่ได้ให้ฟรี กรณีนี้ไม่ใช่นายธนาธร ครอบงำพรรค แต่มีสถานะภาพที่ให้กู้เงินได้ หากนายธนาธร อยากครอบงำพรรคจริงๆคงไม่ทำสัญญาเงินกู้ อย่าจับจ้องการใช้เงินของพรรคเราเพียงอย่างเดียว ขอให้ไปตรวจสอบพรรคอื่นๆด้วยว่า มีการใช้เงินหรือที่มาของเงินกันอย่างไร
“ตกลงประเทศนี้ชอบความโปร่งใสหรือไม่ ใครพยายามทำให้โปร่งใสก็จะซวยโดนตรวจสอบละเอียด ประเทศนี้พยายามบีบให้พรรคการเมืองใช้เงินนอกระบบหรือไม่ ผมอยากให้กลับมาสู่ในหลักที่ถูกต้อง พยายามสร้างมาตรฐานการเมืองใหม่ เวลาตรวจสอบหรือร้องเรียนอะไร อยากให้มีมาตรฐาน มีความรับผิดชอบกันหน่อย” นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า ไม่มีอะไรที่ทำให้เราหมดความพยายามหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.ได้ ยิ่งเราโดนแบบนี้แสดงว่า เราใกล้ที่จะทำสำเร็จ และพรรคอนาคตใหม่ยังเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลต่อไป ส่วนความคืบหน้านั้น ขณะนี้เป็นไปในทางที่ดี เราตั้งใจจะประสานพรรคต่างๆมาจัดตั้งรัฐบาลขึ้น และมีกรอบการทำงานที่ชัดเจน มีเวลาชัดเจน ไม่ใช่มาเพื่อเก้าอี้ ร่วมมือกันแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อระบบรัฐสภาที่เป็นประชาธิปไตย ส่งคสช.กลับบ้าน อีก 1-2 วันน่าจะรู้ตัวเลขและจะเห็นว่า สำเร็จหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี