“โฆษก ปชป.”สวนกลับผลสำรวจจาก“นิด้าโพล” ย้ำชัด“ประชาธิปัตย์”ยึดหลักสุจริต รอบคอบ คิดนโยบายมุ่งแก้ปัญหายั่งยืน-ระยะยาว แนะให้สำรวจพรรคอื่นด้วย
2 มิ.ย.62 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีผลสำรวจของนิด้าโพลในหัวข้อ “บทเรียนและบทบาทพรรคประชาธิปัตย์” (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : นิด้าโพลเปิด 10 สาเหตุฉุด‘ปชป.’แพ้เลือกตั้ง พรรค‘แตกแยก’ทำเคาะจุดยืนช้า) ว่า 1.พรรคประชาธิปัตย์พร้อมรับฟังความเห็นของผลโพลที่ได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชน 1,261 ตัวอย่าง จากนิด้าโพล
2.แต่ก็มีความจริงที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ยึดถือและปฏิบัติตลอดมาคือ “การดำเนินการเมืองโดยยึดหลักความซื่อสัตย์ สุจริต ต่อประชาชนและประเทศชาติ”ระยะเวลาที่ผ่านมาได้ชี้ให้เห็นแล้วว่าเมื่อดำเนินการทางการเมืองโดยตั้งต้นจากหลักการดังกล่าวนโยบายที่นำไปปฏิบัติก็ย่อมเกิดความยั่งยืนต่อประเทศ ผลการสำรวจของนิด้าโพล มีประชาชนจำนวนมากที่มีความรู้สึกว่าเขาไม่ได้มีส่วนตอบผลการสำรวจดังกล่าวเพื่อสะท้อนมุมมองอีกด้านตามความจริง
3.ที่ผลโพลระบุว่า มีร้อยละ 32.83 ที่บอกว่าไม่ชอบวิธีการดำเนินงานทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ประเด็นนี้ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่มีความเห็นต่างในทางการเมือง และเชื่อว่าอีกร้อยละ 67.17 มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันที่มีประชาชนชื่นชอบวิธีการดำเนินการทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความละเอียดรอบคอบในการคิด ยึดหลักการกฎหมายของบ้านเมือง คิดนโยบายที่มุ่งหวังให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว ไม่คิดอะไรแบบฉาบฉวย มีนโยบายที่คิดอย่างเป็นระบบ มีประชาชนจำนวนมากที่คิดเสมอว่านโยบายหลายเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาคิดเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งๆที่หลายนโยบายประชาชนที่ได้รับประโยชน์ไม่สามารถลงคะแนนเสียงเลือกพรรคประชาธิปัตย์ได้เลย เช่น โครงการนมโรงเรียน โครงการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา และอีกหลายโครงการที่ส่งผลให้เกิดความยั่งยืนมาจนถึงขณะนี้
4.ผลโพลระบุว่า มีร้อยละ 6.98 พรรคไม่มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน นโยบายของพรรคไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน และพรรคไม่มีผลงานที่ชัดเจน
ประเด็นนี้ก็จะเห็นได้ว่าร้อยละ 93.02 ยังมีความเห็นต่าง และมีเสียงจากประชาชนเป็นจำนวนมากที่เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจนที่สุดเช่นหลักความซื่อสัตย์ สุจริตต่อประชาชนและประเทศ นโยบายของพรรคจะเห็นได้ชัดว่าทุกครั้งจะมีความชัดเจนและมีการตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างเป็นระบบ และผ่านกระบวนการที่ละเอียดรอบคอบรับฟังประชาชน อยู่บนหลักความเป็นจริง แม้แต่เรื่องงบประมาณแผ่นดินก็นำมาประกอบในการคิดเพื่อให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าที่สุด ล่าสุดนักวิชาการหลายท่านยืนยันตรงกันว่านโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ เป็นนโยบายที่ชัดเจน และเป็นระบบมากที่สุด
ส่วนกรณีผลงานของพรรคความจริงแล้วพรรคดำเนินการทางการเมือง 73 ปี ผลงานที่ผ่านมาถือว่าเป็นพรรคการเมืองเดียวในประเทศไทยที่มีผลงานเป็นจำนวนมากและชัดเจนที่สุด ต่อจากนี้ก็จะมีการสื่อสารบอกกล่าวให้เพิ่มการรับรู้มากขึ้น มีผลการสำรวจของนักวิชาการระบุไว้เช่นกันว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีผลงานมากที่สุด
5.ผลโพลระบุถึงว่า มีความแตกแยกมากเกินกว่าที่จะตัดสินใจทางการเมืองได้อย่างรวดเร็ว เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติในพรรค การเห็นต่างไม่ถือว่าเป็นการแตกแยก ด้วยความเป็นประชาธิปไตยที่มีภายในพรรค ความเห็นต่างก็จะเป็นเหตุและผลที่ตกผลึกนำไปสู่สิ่งที่ดี การตัดสินใจเรื่องสำคัญที่มีผลต่อบ้านเมือง จะช้าหรือรวดเร็วแล้วแต่กรณี แต่ถ้าสิ่งนั้นนำพาไปสู่สิ่งที่ถูกต้อง ไม่เกิดความเสียหายกับประเทศ นั่นคือคำว่าสถาบันทางการเมืองที่แท้จริง อุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่สิ่งที่จะกล่าวอ้างแต่สมาชิกทุกคนนำพามาปฏิบัติเพื่อสิ่งที่ดีต่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง
“ขอเรียกร้องไปยังนิด้าโพล ว่ามีประเด็นที่น่าสนใจของพรรคการเมืองหลายพรรคที่ควรทำการศึกษา ว่าจุดยืนทางการเมืองที่คิดถึงประโยชน์ของพวกพ้อง คิดนโยบายมาเพื่อทุจริต พรรคการเมืองที่เลือกปฏิบัติกับประชาชน ใช้เสียงข้างมากในทางที่ผิด ทำลายระบบตุลาการ จุดยืนของพรรคการเมืองที่ซื้อตัวนักการเมืองมาเพื่อให้มาอยู่พรรคของตนเพื่อให้มีอำนาจ คิดว่าหัวข้อต่างๆเหล่านี้จะทำให้ประชาชนได้เห็นมุมมองที่แตกต่าง และจะเห็นชัดขึ้นถึงคำว่าสถาบันทางการเมืองอย่างแท้จริง” นายราเมศ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี