ขอทุ่มเททำงานเพื่อชาติ
บิ๊กตู่ให้คำมั่น
นั่งนายกรัฐมนตรีสมัย2
เดินหน้าพัฒนาประเทศ
รับฟังความเห็นทุกฝ่าย
พรรคร่วมแนะให้ใจเย็น
“พล.อ.ประยุทธ์”รับพระบรมราชโองการเป็นนายกรัฐมนตรีสมัย 2 แล้ว ยืนยันขอทุ่มเททำงานเพื่อชาติ พัฒนาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน พร้อมรับฟังความเห็นทุกฝ่าย โดยยึดประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ ด้านพรรคร่วมแสดงความยินดี สะกิดท่านผู้นำต้องใจเย็นๆ ในขณะที่ปชป.ยันจุดยืนนโยบายแก้จนสร้างคนสร้างชาติ ลอกสติ๊กเกอร์“มาร์ค”ติดที่ทำการพรรคทิ้ง
เมื่อวันที่ 11มิถุนายน มีพิธีรับพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยเวลา 13.35 น.นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้เชิญพระบรมราชโองการมายังห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีหัวหน้าพรรคและตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมพิธีด้วย จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำพิธีรับพระบรมราชโองการ โดยมีนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา ร่วมในพิธีดังกล่าว
เมื่อเสร็จพิธี นายกรัฐมนตรี เดินมายังห้องสีม่วง ในตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณว่า
“ในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นเกียรติยศและเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุดแก่ชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้ ผมและครอบครัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักปฏิบัติงานสนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการ ผมขอยืนยันว่าจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ จะเพียรพยายามมุ่งมั่นทำงาน พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทุกสาขาอาชีพ ทุกช่วงวัย ในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศในทุกด้าน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ สร้างความเข้มแข็ง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ด้วยการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเงินการคลัง และเอกชนมีส่วนร่วม ตลอดจนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ เปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโลกยุคดิจิทัลและเทคโนโลยี สร้างสรรค์สังคมให้มีความรัก ความสามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์ เกื้อกูลกันในทุกโอกาสเพื่อความกินดี อยู่ดี และความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน พร้อมจะปกป้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิแห่งสถาบันชาติ ศาสนา ตลอดจนจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย”
นำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง
“ผมขอขอบคุณสส.และสว.ที่ทำหน้าที่อย่างเต็มความรู้ความสามารถ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ ขอขอบคุณพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่สนับสนุนและให้โอกาสผมได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่งเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างที่ทุกท่านได้ตั้งใจไว้ ผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทย ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานทุกภาคส่วน ที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดินตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะเป็นพลังที่คอยเกื้อหนุน และร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาล เพื่อนำพาประเทศไทยของเราให้มีความสงบร่มเย็น มั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนตลอดไป ขอบคุณครับ”พล.อ.ประยุทธ์
พรรคร่วมขอทำงานใจเย็น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงหนึ่งระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดคุยกล่าวทักทายกับตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยสนับสนุนให้ตนเป็นนายกฯ สมัยที่ 2 จากนี้จะทำงานอย่างเต็มที่ ขอให้ทุกคนช่วยกัน และตนยินดีที่จะทำงานร่วมกับทุกคน โดยหนึ่งในตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล ได้กล่าวให้กำลังใจนายกฯพร้อมขอให้ใช้ความใจเย็นในการทำงานหลังจากนี้ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ตอบกลับว่า “รู้อยู่แล้ว ตัวเองใจเย็นอยู่แล้ว” ทั้งนี้ บรรยากาศการพูดคุย เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีการคุยนอกรอบ และไม่มีการพูดเรื่องโควตารัฐมนตรีแต่อย่างใด
เตรียมคุยร่วมจัดตั้งรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรยงานว่า ก่อนหน้านี้หลังประชุมครม.พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อมีพระบรมราชโอการแล้ว เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว จากนั้นตนถึงจะคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลได้ตามกฎหมายซึ่งที่ผ่านมาก็จะเห็นเพียงจากสื่อที่มีการเขียนและวิเคราะห์ออกมาจำนวนมากแต่หลังจากนี้ตนก็จะหาทางพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลถึงความเหมาะสมและหาจุดที่ลงตัวให้ได้โดยจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่าทั้งนี้นโยบายของทุกพรรคที่เสนอมาล้วนเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสิ้นแต่ในเมื่อเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและส.ส.พรรคต่างๆที่มาร่วมเป็นรัฐบาลก็ต้องเป็นรัฐบาลของคนไทยทั้งประเทศที่ต้องนำนโยบายของทุกพรรคมาปรับเพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณต่างๆที่มีอยู่ในปัจจุบันด้วยเพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุดดังนั้นคิดว่าทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อยโดยเร็วนอกจากนี้ย้ำว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่จนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่ง
ครม.ปัจจุบันยังไม่หมดอายุ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 11 มิถุนายนนี้ ยังไม่ใช่การประชุมนัดสุดท้าย เพราะจะมีการประชุมสุดยอดอาซียน ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน นี้ ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ มีเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงเสาหลักต้องไปเจรจา และต้องนำเข้าให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและนำเสนอ
จนกว่าคณะรัฐมนตรี ชุดใหม่ จะมีพิธีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ รัฐบาลชุดนี้จึงจะหมดอายุลง แต่หากพอรู้ว่าจะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณวันไหน แม้จะยังไม่ถวายสัตย์ปฏิญาณ คณะรัฐมนตรีชุดนี้ก็คงจะหยุดการประชุม แต่ขณะนี้ยังไม่รู้ ดังนั้น คณะรัฐมนตรีชุดนี้จะต้องดำเนินการในส่วนที่เป็นปัญหาของประเทศที่คั่งค้างกันอยู่” นายวิษณุ กล่าว
ประชุมอาเซียนได้ต่อเนื่อง
เมื่อถามว่า การประชุมสุดยอดอาเซียนยังคงเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำหน้าที่เจ้าภาพใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จะทำหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีเก่า หรือ นายกรัฐมนตรีใหม่ ไม่ได้แตกต่างอะไร แต่นายกรัฐมนตรีใหม่ยังไม่มีการถวายสัตย์ปฏิญาณ และแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ก็ทำหน้าที่ไม่ได้ และแม้จะถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว ก็ไปทำอะไรที่เป็นการบริหารราชการแผ่นดินไม่ได้
“การเข้าร่วมประชุมระหว่างประเทศ อาจจะมีส่วนที่เป็นการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งอาจผูกมัดประเทศไทย แต่นายกรัฐมนตรีคนเดิมสามารถทำหน้าที่ จนถึงวันที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ถวายสัตย์ปฏิญาณ” นายวิษณุ กล่าว
ลอกสติเกอร์”มาร์ค”ทิ้งแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ชุดใหม่ ได้เริ่มทยอยปรับปรุงห้องทำงาน ในอาคารควง อภัยวงศ์ ซึ่งเดิมเป็นสถานที่ทำงานของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคโดยมีการปรับปรุงห้องแถลง รวมถึงห้องทำงานของสื่อมวลชน ล่าสุดได้มีการลอกสติ๊กเกอร์ภาพนายอภิสิทธิ์ในอิริยาบถต่าง ๆ ซึ่งติดไว้บริเวณกระจกด้านหน้าอาคารออก
สำหรับสติ๊กเกอร์ภาพนายอภิสิทธิ์กับประชาชนในอิริยาบถต่าง ๆ นั้น พรรคได้ติดตั้งไว้ทั้งที่อาคารควง อภัยวงศ์ และบริเวณด้านหน้าอาคาร 100 ปี หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช มาตั้งแต่ปี 2556 ในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์ทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน และมีการรวบรวมความคิดของฝ่ายต่าง ๆ ผ่านสถาบันออกแบบอนาคประเทศไทย โดยมูลนิธิ ควง อภัยวงศ์ และได้นำแนวทางที่ได้มาสรุปเป็นนโยบายของพรรคจัดทำเป็นพิมพ์เขียวประเทศไทย
“กษิต”ลาออกจาก’ปชป.’
วันเดียวกัน นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ เดินทางยื่นหนังสือลาออกสมาชิก ปชป. เนื่องจากมองว่า ปชป.ถูกขับเคลื่อนในทิศทางที่เห็นต่างกับตนเอง ขณะเดียวกันได้เขียนหนังสือถึง4 หน้ายื่นแนวไปด้วย ถึงสาเหตุ ทำไป ปชป.ถึงแพ้เลือกตั้ง,การปฎิรูปพรรค และแนวทางการเมือง
ทั้งนี้นายกษิต ยังได้ ขอบคุณนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ให้โอกาสเข้ามาสู่เวทีการเมืองและชักชวนให้เข้ามาทำงานกับ ปชป. จนได้ตำแหน่งทางการเมืองส่วนที่ก่อนหน้านี้สมาชิกพรรคทยอยลาออก ก็ได้เชิญทุกคนที่มีแนวคิดเดียวกันมาร่วมกลุ่มพลังที่ 3 ทางการเมืองที่มีธรรมาภิบาลกำกับ โดยมีการพูดคุยกับกลุ่ม เอ็นจีโอ และนักวิชาการ
ส่วนการตั้งพรรคการเมือง ยอมรับเป็นได้ แต่มองว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการเริ่มต้นวันนี้คือการหาแนวร่วมกลุ่มคนที่มีแนวคิดเดียวกัน โดยขณะนี้ยังไม่มีการชักชวนนายอภิสิทธิ์ ให้มาร่วม แต่ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกับนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย อดีตกลุ่มนิวเดม โดยขณะนี้ส่วนตัวก็มีรายชื่อไว้หมดแล้ว
พรรคประชาธิปัตย์ 11 มิ.ย.-จุรินทร์ระบุหลังโปรดเกล้าฯนายกฯ พรรคร่วมรัฐบาลจะเริ่มร่างนโยบาย ย้ำต้องมีนโยบายที่หาเสียงไว้ แก้จน สร้างชาติ สร้างคน ประกันรายได้
“จุรินทร์”บอกเสียดาย
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษย์ หัวหน้าปชป.เผยว่า ตนไม่ประสงค์จะเห็นใครออกจากพรรค แต่เคารพในความเห็นของแต่ละคน ขณะเดียวกันก็ยังมีผู้ปรารถนาจะมาทำงานร่วมกับพรรคในอนาคตอีกหลายคน โดยจะทยอยเรียนให้ทราบต่อไป
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงการจัดทำนโยบายร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ว่า คงต้องหารือกัน โดยในส่วนของ ปชป.ยังยืนยันนโยบายแก้จน สร้างคนสร้างชาติ รวมถึงนโยบายประกันรายได้พืชผลการเกษตร
“ที่ผมพูด ไม่ได้ประสงค์จะกดดัน เพียงแต่เรื่องดังกล่าวรับเป็นเงื่อนไขไปแล้ว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่พรรคมองเห็นว่าปัญหาใหญ่ของเศรษฐกิจประเทศ ไม่ใช่เศรษฐกิจไม่เจริญเติบโต แต่ยังไม่ลงไปสู่รากหญ้า เพราะราคาพืชผลการเกษตรและเศรษฐกิจฐานรากยังมีปัญหาอยู่ จึงเป็นที่มาและหัวใจสำคัญที่พรรคเข้าไปมีส่วนร่วมในการคลี่คลายปัญหานี้ ดังนั้น นโยบายแก้จน สร้างคนสร้างชาติ และการประกันรายได้เกษตรกรจะเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งผมมั่นใจว่ารัฐบาลพร้อมรับเป็นนโยบายร่วมของรัฐบาล”นายจุรินทร์ ระบุและว่ายังไม่ได้พิจารณาตำแหน่งรัฐมนตรีในโควตาของปชป.
พรรคเล็กแล้วแต่นายกฯเคาะ
นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวทักทาย และขอบคุณหัวหน้าพรรค และตัวแทนหัวหน้าพรรคทุกคนที่มาในวันนี้ พร้อมระบุว่ายินดีต้อนรับใครอยากมาเที่ยวทำเนียบฯก็มาได้เลย โดยไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ ตนยังยืนยันเหมือนที่ 10 พรรคเล็กร่วมกันแถลงวานนี้ (10 มิ.ย.62) ว่าขึ้นอยู่กับนายกฯ ในการพิจารณาตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย 10 พรรคเล็กไม่มีการต่อรองใดๆ เพราะหากมีการต่อรองการเมืองก็จะเป็นแบบเก่า อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คงเป็นเรื่องของแต่ละพรรคที่จะพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ส่วน 10พรรคเล็ก คงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในของนายกฯ ส่วนการแถลงนโยบายรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคได้ส่งนโยบายไปหมดแล้ว
“ผมมีเรื่องตลกเล่าให้ฟัง 10 พรรคเล็กนั่งคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน บอกว่าเดี๋ยวเรารวมเป็นพรรค 62 แล้วกัน คือ ภูมิใจไทย 52 คน บวกกับพรรคเล็ก 10 คน เสียดายที่เจอกันช้าไปหน่อย ซึ่งเป็นการพูดคุยกันสนุกๆ” นพ.ระวี กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี