เริ่มคุยพรรคร่วมตั้งรบ.
‘บิ๊กตู่’เดินเกม
อุบไต๋นั่งควบเก้าอี้‘กห.’
ลั่นดูแลภาพรวมเองทั้งหมด
สนธิรัตน์แจงโผมีทั้งถูก-ผิด
‘ชวน’ส่งสส.ถือหุ้นสื่อให้ศาล
“บิ๊กตู่” เผยเริ่มคุยกับพรรคร่วม ตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ ยัน “พปชร.” ไม่มีปัญหาซัดสื่อเขียนจนเละเทะ ยอมรับตั้งแล้ว ไม่พอใจทุกคน อุบนั่งควบ “กลาโหม” กระแสข่าวก็คือกระแส แต่จะดูภาพรวมทั้งหมด แย้มครม.มาจากนักการเมืองเป็นส่วนใหญ่ ปิดห้องถกลับ “บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก” คาดเคาะชื่อ รมต. ด้าน “สนธิรัตน์” ชี้โผสื่อ มีทั้งถูก-ผิด “ธรรมนัส” ไม่รับเก้าอี้ ขอทำหน้าที่ สส. ขณะที่“ชวน”ส่ง 41 สส.ถือหุ้นสื่อ ให้ศาลวินิจฉัย
เมื่อวันที่ 12มิถุนายน ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานพิธีเปิดงาน”สร้างรู้ สื่อสาร การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำฤดูฝนปี2562”ให้สัมภาษณ์ถึงโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีข่าวจะนั่งควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม ว่า ยังไม่ทราบ ข่าวมาจากไหน กระแสข่าวก็คือกระแส เมื่อถามว่า จะนัดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องคุยกันอยู่แล้ว วันนี้เริ่มคุยได้แล้ว ส่วนจะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ก็เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด แต่จะดำเนินการให้เร็วที่สุด
บิ๊กตู่ชี้ตั้งแล้วพอใจทุกคนไม่ได้
เมื่อถามว่า ในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เกิดความเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร สื่อก็เขียนกันไปกันมาจนเละเทะไปหมด อย่าทำให้ทุกอย่างเกิดความไม่เชื่อมั่นกันตั้งแต่วันนี้ คือไม่มีอะไร ที่ตั้งออกมาแล้วพอใจทุกคนเป็นไปไม่ได้ ทุกวันนี้ทุกอย่างมันเข้ามาด้วยกระบวนการประชาธิปไตยเต็มร้อย มีการเลือกตั้งก็ไปดูกันมาว่า มีที่มากันอย่างไร รวมถึงวิธีการปฏิบัติ ทางการเมืองเป็นอย่างไร ตนก็ต้องปรับตัวเองตรงนี้เหมือนกัน ไม่ใช่ใช้วิธีที่ตนตัดสินใจเพียงคนเดียว มันไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว แต่ตนจะมีอำนาจในการตัดสินใจอีกครั้ง เมื่อตนเป็นนายกฯดังนั้นไม่ต้องกังวล
ครม.ส่วนใหญ่มาจากนักการเมือง
เมื่อถามว่า ได้ทาบทามให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ร่วมงานในรัฐบาลใหม่แล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามกลับทันทีว่า ทำไม รังเกียจอะไรท่านหรือ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ เมื่อถามว่า ครม.ชุดใหม่จะมีรายชื่อคนนอกจำนวนกี่คน นายกฯ ถึงกับร้องโอ้โห ก่อนกล่าวว่า นักการเมืองเขามาด้วย ตนจะเอาคนนอกคนในได้อย่างไร มันก็มาจากพรรคการเมืองหมด รัฐมนตรีก็ต้องมาจากนักการเมืองเป็นส่วนใหญ่มั้ง
อุบนั่งควบ’กห.’ดูภาพรวมทั้งหมด
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะมีการปรับโฉมใหม่เพื่อให้เกิดความมั่นใจมากขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ไม่ใช่รัฐบาลปรับโฉมใหม่ เพราะมันมาด้วยกลไกประชาธิปไตย มาจากการเลือกตั้ง ถ้าเราไม่ฟังเขาเลย ไม่ร่วมมือกันเลย จะไปได้หรือไม่ ‘ผมดูเอง แต่ผมไม่ได้พูดว่า จะดูกลาโหม แต่ผมจะดูในภาพรวมเอง’
ปิดห้องถกลับ’บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นเป็นประธานพิธีเปิดงาน พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าห้องรับรองที่สโมสรทหารทัพบก โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย รออยู่ข้างในห้องก่อนแล้ว จากนั้นได้ปิดห้องพูดคุยเป็นการส่วนตัวประมาณ 20นาที ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายเดินทางกลับ โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พล.อ.ประวิตร ถึงกระแสข่าวจะเหลือนั่งรองนายกฯเพียงตำแหน่งเดียว และพล.อ.ประยุทธ์จะนั่งนายกฯควบ รมว.กลาโหม ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ยิ้มแล้วกล่าวเพียงสั้นๆว่า “ไม่รู้ๆ” จากนั้นเดินขึ้นรถกลับทันที
‘บิ๊กแดง’เข้าพบนายกฯที่ทำเนียบ
ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.55 น.พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เดินทางเข้าทำเนียบฯ เมื่อมาถึงได้ขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที หลังจากนั้นไม่กี่นาที พล.อ.ประยุทธ์ ก็เดินทางเข้าทำเนียบฯเช่นกัน คาดว่าจะมาร่วมหารือกันถึงภารกิจ คสช. เนื่องจากหากนายกฯนำ ครม.เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนอย่างเป็นทางการแล้ว ภารกิจหน้าที่ของ คสช.ก็จะสิ้นสุดลง ทั้งนี้ การหารือใช้เวลาประมาณ 20นาที ก่อนที่ พล.อ.อภิรัชต์ จะเดินทางออกจากทำเนียบฯ ทางประตู4
‘สนธิรัตน์’ชี้โผครม.มีทั้งถูก-ผิด
ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค , นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคและนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค เดินทางเข้าพรรคเพื่อหารือถึงความคืบหน้าจัดตั้งรัฐบาล โดยช่วงบ่ายจะประชุมเพื่อจัดทำนโยบายของรัฐบาล
โดย นายสนธิรัตน์ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามที่หัวหน้าพรรคพูดไว้ว่า ทุกอย่างจะจบในเร็วๆนี้ ส่วนรายชื่อบุคคลที่จะไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ตามที่มีกระแสข่าวปรากฎตามสื่อต่างๆนั้น ก็มีถูกบ้าง ไม่ถูกบ้าง
พปชร.คลอดนโยบายรบ.3ด้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนโยบายของพรรคพปชร.สรุปมาจากนโยบาย7-7-7 พันธกิจ3ด้าน ได้แก่ 1.สวัสดิการประชารัฐ ขจัดความเหลื่อมล้ำ เช่น บัตรประชารัฐ ขยายโครงการบ้านล้านหลัง 2.สังคมประชารัฐ สงบสุข เข้มแข็ง แบ่งปัน เช่น โครงการBangkok5.0 สังคมประชารัฐสีขาวและ3.เศรษฐกิจประชารัฐ สร้างความสามารถและโอกาสที่เท่าเทียม เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต การส่งเสริมการท่องเที่ยว เมืองรองและชุมชน เสริมความเข้มแข็งให้กับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในภาคเอกชน เร่งรัดขับเคลื่อนการลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เป็นต้น
‘ธรรมนัส’ไม่รับเก้าอี้-ขอเป็นสส.
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคพปชร.กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลว่า ในส่วนพรรคพปชร.จบแล้ว เป็นไปตามข้อตกลงเดิม เพราะพล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้จัดการ ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าพรรคพปชร.เสียเก้าอี้ รมว.คมนาคมและกระทรวงพาณิชย์ ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่อยากให้เรียกว่าเสียเก้าอี้ แต่เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ในพรรคตกลงกันแล้ว ยืนยันว่า พปชร.ไม่มีปัญหาภายใน การคัดเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งต้องพิจารณาคนที่มีความสามารถและตรงกับตำแหน่ง ต้องคำนึงถึงการทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม ตนจะไม่ขอรับตำแหน่ง เนื่องจากต้องการทำงานเป็นสส.ดูแลประชาชนในพื้นที่ 17จังหวัดภาคเหนือ ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีที่เป็นโควต้าที่ตนรับผิดชอบนั้น จะเลือกบุคคลที่มีนามสกุลเหมือนตนเข้าดำรงตำแหน่ง
นัดหารือพรรคเล็กแบ่งเค้ก13มิย.
สำหรับการประสาน10พรรคเล็กเพื่อร่วมรัฐบาลนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันที่ 13มิถุนายน ตนจะนัดหารือกับหัวหน้า 12พรรคการเมืองขนาดเล็ก โดยมีหลายประเด็นที่จะพิจารณา ซึ่งรวมถึงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ ที่คาดว่าจะมีข้อตกลงร่วมกันได้และมีข้อยุติในวันดังกล่าว
ปชป.จี้รวมทุกพรรคทำนโยบาย
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ เข้ารับพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ว่า ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ภาวะผู้นำเร่งด่วนใน 2เรื่อง คือ 1.ให้พรรคการเมืองต่างๆคัดสรรคนดีมีความสามารถเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีตามโควตาที่ตกลงกันไว้โดยเร็ว 2.ต้องเร่งระดมจัดทำนโยบายของรัฐบาล เพราะมีส่วนสำคัญในการบริหารประเทศให้สำเร็จได้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องนำเอานโยบายที่โดดเด่นของพรรคร่วมรัฐบาลที่ใช้รณรงค์หาเสียงมาผสมผสานเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความสำคัญกับข้อเสนอของพรรคเพื่อบรรจุลงในนโยบายด้วย คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควรกำหนดระยะเวลาดำเนินให้แล้วเสร็จเมื่อไหร่ เพื่อลดความความกดดันทางสังคมและกลุ่มมวลชนที่เคลื่อนไหวให้แก้ไขด้วย
‘ชวน’ส่ง41สส.ถือหุ้นสื่อให้ศาล
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนได้ลงนามในหนังสือที่ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ตามคำร้องที่ สส.พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เข้าชื่อให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของส.ส.จำนวน 41คน ที่พบว่าเข้าข่ายขาดคุณสมบัติการถือครองหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน ตามมาตรา82 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 โดยรายชื่อที่ยื่นถึงตน 30คน เมื่อวันที่ 4มิถุนายน ได้ลงนามส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญเมื่อช่วงเช้าวันที่ 12มิถุนายน ขณะที่อีกคำร้อง 11คน จะส่งตามไปในช่วงเย็นของวันที่ 12มิถุนายนล่าสุดยังอยู่ระหว่างตรวจสอบความถูกต้องของลายมือชื่อสส.
‘พปชร.’ไม่หวั่นพร้อมถูกสอบ
นายวิเชียร ชวลิต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร.กล่าวถึงกรณีมีสส.พรรคพปชร.จำนวน 27คน ถูกยื่นให้ตรวจสอบด้วยว่า พรรคพปชร.ได้เตรียมข้อมูลไว้ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เป็นอำนาจการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก่อนหน้านี้พปชร.ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครทุกคนอย่างละเอียดแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้ถือเป็นบทบัญญัติใหม่ตามรัฐธรรมนูญที่ไม่เคยมีบรรทัดฐานมาก่อน
‘วิษณุ’แจงที่มาสว.รวม3ประเภท
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีรายชื่อบุคคลสำรองสำหรับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ว่า สว.มีทั้งหมด 250คน แบ่งเป็น 3ประเภท ได้แก่ 1. สว.โดยตำแหน่ง 6 คน ซึ่งจะไม่มีรายชื่อสำรอง 2.ประเภทที่ให้มาสมัครแล้วเลือกกันเอง เมื่อเลือกกันเองแล้วก็เสนอรายชื่อให้คสช.เลือกอีกครั้งหนึ่งเหลือ 50คนและยังมีบัญชีสำรองของประเภทนี้อีก 50คน ซึ่งก็ได้ประกาศไปแล้วเมื่อหนึ่งเดือนก่อนและ3.สว.ประเภทสรรหา ซึ่งไม่มีการเปิดรับสมัครและไม่ใช่เลือกกันเอง โดยขั้นตอนคือมีการตั้งคณะกรรมการสรรหาขึ้น 1ชุด เมื่อสรรหามาได้และผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการ ก็จะเลือกให้เหลือไม่เกิน 400รายชื่อ ก่อนจะส่งไปให้คสช.เลือกเป็นตัวจริง194คนและสำรองอีก 50คน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการโปรดเกล้าฯประธานวุฒิสภา และนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว เราจึงจัดการส่งรายชื่อสำรองไป จึงหมายความว่าหลังจากเมื่อวันที่ 11มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นต้นไป หากมีตำแหน่งว่างในกลุ่มสว.194คน ก็จะสามารถเลื่อนรายชื่อกลุ่มสำรองนี้ขึ้นไปได้ ทั้งนี้ สำรองของสว.2บัญชี จะไม่เอามาสลับหรือไขว้กันและเวลาเลื่อนรายชื่อก็จะเลื่อนไปตามลำดับ ไม่มีการข้าม เว้นแต่เมื่อเลื่อนไปถึงรายชื่อของใครแล้วบุคคลนั้นปฏิเสธการรับตำแหน่ง เราก็จะข้ามไป แล้วเอารายชื่อของลำดับต่อไปขึ้นมาแทน
‘ดอน’เป็น สว.ต้องลาออกบัวแก้ว
เมื่อถามว่า ในบัญชีสำรองส.ว. มีรายชื่อ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) อยู่ ทำให้อาจถูกมองเรื่องความเป็นกลาง เพราะ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังอยู่ในตำแหน่ง นายวิษณุกล่าวว่า ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเขายังไม่เป็นอะไร หากระหว่างยังไม่มี ครม.ชุดใหม่ แล้วมีตำแหน่ง สว.ในส่วน 194 คนว่างลง นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ซึ่งมีรายชื่อลำดับหนึ่งอยู่ในบัญชีสำรอง จะต้องดำเนินการอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ต้องเลื่อนรายชื่อของนายดอนขึ้นไปก่อน แต่หากนายดอนยังอยู่ในครม.นายดอนก็ต้องลาออก อย่างไรก็ตาม นายดอนสามารถสละสิทธิ์ได้ แต่สิทธิ์นั้นจะไม่กลับมาอีกแล้ว
เมื่อถามต่อว่า ใช้หลักเกณฑ์ใดในการเรียงลำดับรายชื่อบุคคลในบัญชีสำรอง นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ตนเข้าใจว่าไม่มีหลักเกณฑ์ บางคนอาจมีความเหมาะสม แต่เขายังไม่พร้อม เช่น นายดอนที่ยังต้องปฏิบัติหน้าที่ในการประชุมอาเซียน ดังนั้นจะมีหลักเกณฑ์ในแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุผลที่ต่างกัน และรัฐธรรมนูญไม่ได้บอกว่าต้องประกาศรายชื่อภายใน 3 วัน เพียงแต่บอกว่าต้องให้คสช.พิจารณาให้เสร็จภายใน 3วัน ซึ่งคสช.ก็พิจารณาเสร็จแล้วจริงๆภายในเวลาที่กำหนด
ตร.ตั้งทีมงานเก็บข้อมูลเชือด’ช่อ’
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท.ในฐานะโฆษก บก.ปอท.เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) สั่งการให้ ศปอส.ตร. , บก.ปอท. และตำรวจสันติบาล เร่งตรวจสอบการแชร์ภาพในอดีตของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมและช่องทางอื่นๆซึ่งทาง บก.ปอท.มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นหลัก
เบื้องต้นผบก.ปอท.สั่งให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบประวัติย้อนหลังและคาดว่าเมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้นจะรายงานผลต่อพล.ต.ท.ปิยะ ทราบโดยเร็ว ยืนยันว่าการทำงานของเราจะพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ โปร่งใสเป็นธรรมและตรวจสอบได้ ตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดแจ้งความดำเนินคดีบุคคลการเมืองใดตามความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา112ซึ่งมีอายุความ 20ปี ส่วนกรณี น.ส.พรรณิการ์ ตั้งค่าเฟซบุ๊ก เป็นส่วนตัวนั้น คงไม่กระทบต่อการทำงานเพราะได้เก็บข้อมูลไว้บางส่วนแล้ว
“วิลาส”ขอเป็นฝ่ายตรวจสอบอิสระ
วันเดียวกัน นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.ปกล่าวถึงการความเคลื่อนไหวในการจัดตั้งรัฐบาลว่าตนอยากจะฝากไปถึงทุกพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ โดยเฉพาะปชป. ว่า การคัดบุคคลเข้าไปเป็นรัฐมนตรีนั้น จะต้องเน้นในการป้องกันปราบปรามการทุจริต เพราะตนเคยเป็นประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร และเคยตรวจสอบการทุจริตมาก่อน ก็พอจะทราบประวัติย้อนหลังการทุจริต ของนักการเมืองที่ติดโผรายชื่อรัฐมนตรี และมีบางรายที่ ป.ป.ช.ได้มีมติตั้งอนุกรรมการฯ ไต่สวนในขณะนี้ ดังนั้น ตนอยากจะให้มีการตรวจสอบประวัติย้อนหลังการทุจริต ก่อนที่จะมีการแต่งตั้งรัฐมนตรี ว่าทาง ป.ป.ช. ได้ตั้งข้อกล่าวหาใครไว้บ้าง เพราะการที่ ป.ป.ช. ตั้งอนุกรรมการไต่สวนฯ ในขณะนี้ แสดงว่า เรื่องของการทุจริตนั้น ก็ต้องมีมูล ดังนั้น เราเห็นนักการเมืองชอบพูดกันว่า มาตรฐานความรับผิดชอบของนักการเมือง มีสูงกว่าบุคคลธรรมดา ซึ่งกรณีนี้จะถือเป็นการพิสูจน์ว่า เป็นไปตามที่พูดหรือไม่ เป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน
เปิดรับข้อมูลตรวจสอบทุจริต
นายวิลาศ กล่าวอีกว่า อีกอย่างหนึ่งที่ตนขอตั้งขอสังเกตก็คือ ปัญหาการทุจริตนั้น เป็นปัญหาสำคัญของประเทศมาก แต่ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เกือบทุกพรรคมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามการทุจริตน้อยมาก เพราะฉะนั้น ตนขอบอกว่า ตนจะขอเป็นนักตรวจสอบอิสระ ไม่อยู่ในคณะกรรมการการตรวจสอบใดๆ ทั้งสิ้น แล้วจะตรวจสอบทุกพรรค ทุกคน เพราะฉะนั้น ใครที่มีข้อมูลการทุจริต สามารถส่งมาที่ตนได้เลย เพราะตนไม่มั่นใจว่าที่แทบทุกพรรคไม่มีนโยบายเกี่ยวกับการปราบปรามการทุจริต ซึ่งเป็นไปได้ว่าพรรคการเมืองส่วนใหญ่ มีพวกทุจริตเข้าไปปะปน มากบ้างน้อยบ้าง เพราะฉะนั้น จึงไม่กล้ามีนโยบายในเรื่องดังกล่าว แล้วในช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีทีวีหลายช่อง ประสานให้ตนออกรายการ ให้ไปดีเบตเรื่องการปราบปรามทุจริต ตนก็ยินดีไป แต่ในท้ายที่สุดแล้ว กลับไม่มีตัวแทนพรรคการเมืองใดออกไปดีเบตกับตนในเรื่องนี้ ดังนั้น ตนจึงอยากฝากย้ำด้วยว่า ให้เลือกคนที่บริสุทธิ์ ไม่มีคดีทุจริต เข้าไปเป็นรัฐมนตรี อย่าให้ตนไปตรวจสอบคนในพรรคตัวเองเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี