มติกสม.ไม่ส่งเรื่อง"อังคณา นีละไพจิตร"กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้พ้นจากตำแหน่ง ตาม"กลุ่มการเมืองภาคประชาชน"ร้องให้ส่งป.ป.ช.
14 มิ.ย.62 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มีเอกสารเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธุ์ ว่า ตามที่มีผู้เรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ยุติการสอบสวนทางวินัยต่อ นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ อันเนื่องมาจากการอภิปรายของ นายตวง อันทะไชย สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในที่ประชุม สนช. และคำร้องเรียนของ นายสุรวัชร สังขฤกษ์ แห่งกลุ่มการเมืองภาคประชาชน นั้น ขอเรียนว่า
1) เรื่องนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันพุธที่ 17 เม.ย.62 ในขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (ผู้สำเร็จการศึกษาชั้นปริญญาเอกทางกฎหมายจากประเทศฝรั่งเศสและเป็นอดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีนั้น นางอังคณาไปร่วมปรากฏตัวในระหว่างการสอบสวน
2) ต่อมาเมื่อวันที่ 18 เม.ย.62 นายสุรวัชร สังขฤกษ์ แห่งกลุ่มการเมืองภาคประชาชน มีหนังสือถึงประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) สอบสวนหาความจริงให้เกิดแก่สังคม หากพบว่านางอังคณามีความผิด ก็ขอเสนอให้นางอังคณา พ้นจากการเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
3) กสม.ด้านบริหารได้ประชุมเมื่อวันอังคารที่ 30 เม.ย.62 เพื่อพิจารณาว่า จะส่งเรื่องนี้ไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีหน้าที่และอำนาจดำเนินการต่อไปหรือไม่ โดยขอให้นางอังคณาชี้แจงข้อเท็จจริงก่อน นางอังคณาได้ชี้แจงด้วยวาจาในวันเดียวกัน และมีหนังสือลงวันที่ 13 พ.ค.62 ชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้งหนึ่ง
4) ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายไทย การปฏิบัติหน้าที่ของ กสม.ต้องเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ และปราศจากอคติทั้งปวงในการใช้ดุลพินิจ ต้องเป็นกลางทางการเมือง ทั้งต้องเป็นไปตามมาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลักโดยต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม เป็นอิสระ เป็นกลาง และปราศจากอคติ
ส่วนการพิจารณาดำเนินการให้มีการตรวจสอบเพื่อให้กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติผู้หนึ่งผู้ใดพ้นจากตำแหน่งนั้น ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายไทยมิได้บัญญัติให้เป็นหน้าที่และอำนาจของ กสม.แต่บัญญัติให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.หากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนแล้วเห็นว่าคดีมีมูล คณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็มีอำนาจฟ้องต่อศาลฎีกาเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป
5) จากนั้นที่ประชุม กสม.ด้านบริหารเมื่อวันอังคารที่ 21 พ.ค.62 ได้พิจารณาปัญหาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่า กสม.จะส่งเรื่องนี้ไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นองค์กรที่มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาต่อไปหรือไม่ ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเสียงข้างมากไม่ส่งเรื่องตามคำร้องเรียนของ นายสุรวัชร สังขฤกษ์ ไปให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาดำเนินการ
การดำเนินการของ กสม.เกี่ยวกับข้อร้องเรียนนางอังคณาดังกล่าว มิใช่การดำเนินการสอบสวนทางวินัยต่อนางอังคณาตามที่มีการกล่าวอ้างแต่ประการใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี