19 มิ.ย.62 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พร้อม นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม และสมาชิกพรรค ยื่นป.ป.ช. เพื่อนำความและพยานหลักฐานไปร้องเรียนกล่าวโทษคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต. และเลขาธิการ กกต.ต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อเอาผิดตามกฎหมาย
โดยนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า หลังจากที่สมาคมฯได้รับการร้องเรียนจากพรรคไทรักธรรม ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการที่ กกต. ประกาศผลการเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ (ครั้งที่ 2) เมื่อวันที่ 28 พ.ค.62 ที่ผ่านมา ทำให้ สส. หนึ่งเดียวของพรรคไทรักธรรมหลุดจากตำแหน่งไปอย่างมีพิรุธ โดยที่พรรคไทรักธรรมได้ไปยื่นคำร้องคัดค้านต่อ กกต.แล้วถึง 7 รอบแต่ก็ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดนั้น
ล่าสุด เลขาธิการ กกต.ได้ตอบหนังสือมายังพรรคไทรักธรรมยอมรับ ว่า เหตุดังกล่าวเป็นเพราะคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งบางแห่งไม่ได้นำผลคะแนนที่ออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้งและนอกราชอาณาจักร มารวมผลคะแนนด้วย ซึ่งการยอมรับดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อผลการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง สส. ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 28 มี.ค.62
และผลการเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อเมื่อวันที่ 8 พ.ค.2562 ที่ระบุว่าเป็นผลคะแนนมาจาก 349 เขตเลือกตั้ง ซึ่งขัดต่อ พ.ร.ป.การเลือกตั้ง สส. 2561 ในหมวดที่ว่าด้วย “การนับคะแนนและการรวมคะแนน” โดย ม.123 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า “เมื่อรวบรวมผลการนับคะแนนทุกหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น รวมทั้งคะแนนที่ได้จากการออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งและคะแนนที่ได้จากการลงคะแนนเลือกตั้ง นอกราชอาณาจักรแล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจําเขตเลือกตั้งประกาศผลการนับคะแนน ผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
และคะแนนที่ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด แล้วรายงานผลการนับคะแนนต่อ ผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําจังหวัดและคณะกรรมการโดยเร็ว” ดังนั้น การนำผลคะแนนก่อนวันเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้งและนอกราชอาณาจักร มารวมผลคะแนนใหม่แล้วประกาศในวันที่ 28 พ.ค.62 ที่ผ่านมาจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
การกระทำดังกล่าว เมื่อนับรวมคะแนนของทุกพรรคการเมืองที่มีการเลือกตั้งซ่อมในเขต 8 จ.เชียงใหม่ ให้ครบ 100% จำนวน 350 เขต มีข้อพิรุธขึ้นมาทันทีว่า ทำไมมีบางพรรคการเมืองมีจำนวนคะแนนเพิ่มขึ้นถึงอย่างผิดสังเกตอย่างไร้เหตุผลถึง 9,894 คะแนน ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการคิดคำนวณคะแนน สส.ระบบบัญชีรายชื่อขึ้นมาทันที ทำให้ สส.พรรคไทรักธรรม หลุดจากตำแหน่งไปและมี สส.บัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเสียบแทนอย่างน่าสงสัย และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนทั่วประเทศ
ดังนั้น ข้ออ้างของเลขาธิการ กกต. ย่อมเป็นการยอมรับในผลของการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตาม ม.123 พ.ร.ป.การเลือกตั้ง สส. 2561 อันหมายถึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งหมายความรวมถึงคณะกรรมการ กกต. ทั้ง 7 คนที่ต้องรับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าวต้องเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ด้วย และให้เสนอศาลเพื่อสั่งให้การประกาศผลการเลือกตั้งวันที่ 28 พ.ค.62 เป็น “โมฆะ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี