ถก‘ด้ามขวาน-อีสานบน’
พปชร.เคลียร์ใจ
จบชื่นมื่นเลิกทวง‘รมต.’
‘อุตตม’รับหาเก้าอี้เล็กให้
‘ชาดา’ส่งน้องนั่งรมช.กษ.
ดำรงค์ขู่แห้วอยู่ฝ่ายค้าน
พรเพชรเบรกซักฟอกสว.
พปชร.เรียกเป่ากระหม่อม “เอกราช-13 สส.ใต้” เคลียร์ใจ โควตารัฐมนตรีสุดท้ายคุยจบราบรื่น ไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ “อุตตม” ยินดีพัฒนาพื้นที่ ส่งปัญหาถึงมือรบ.พร้อมหาเก้าอี้เล็กให้นั่ง ด้าน “วิษณุ” คาดทูลเกล้าฯโผครม.สิ้นมิถุนายนนี้ ยินดีแจงปมที่มาสว.หากฝ่ายค้านยื่นซักฟอก ขณะ “เสี่ยหนู” หนุน “บิ๊กตู่” นั่งหัวหน้า พปชร. “ชาดา” ยอมรับให้น้องสาว
นั่งรมช.เกษตรฯ’ดำรงค์’ขู่ถ้าแห้วเก้าอี้ ขอเป็นฝ่ายค้าน
เมื่อเวลา 10.15น.วันที่ 19มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเพื่อเตรียมการสำหรับการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 และการประชุมที่เกี่ยวข้องของนายกรัฐมนตรี ที่โดยไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพเพราะเป็นการประชุมภายใน ทั้งนี้ ก่อนการประชุม ผู้สื่อข่าวถามว่าได้นำรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขึ้นทูลเกล้าฯเรียบร้อยแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ ยิ้มหวาน พร้อมตอบเพียงสั้นๆว่า เมื่อวานพูดไปแล้วไง
‘วิษณุ’คาดสิ้นมิย.นำโผทูลเกล้าฯ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ ว่า นายกฯได้รับรายชื่อรัฐมนตรีจากทุกพรรคแล้วและนายกฯได้แจ้งไปยังพรรคต่างๆว่า ตอนนี้ถือว่าปิดบัญชีแล้ว แต่ละพรรคจะมีเรื่องอะไรขอให้ไปคุยกันเอง ซึ่งรายชื่อรัฐมนตรีนายกฯจะเป็นผู้ดูเองกับทีมเล็กๆของท่าน เป็นการดูความเหมาะสมว่า มีปัญหาเรื่องอะไรหรือไม่ จากนั้นจึงส่งรายชื่อไปให้เลขาธิการครม.ตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งทราบว่าตอนนี้ได้ทยอยส่งไปบ้างแล้ว สำหรับรายชื่อคนที่ไม่มีปัญหา ซึ่งเลขาครม.จะใช้เวลา 3-4วัน ตรวจสอบเอง โดยถามไปที่หน่วยงานต่างๆ หากเลขาฯครม.เห็นว่ามีปัญหาจะรายงานให้นายกฯทราบ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีการยับยั้งบางราย ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหาก็จะส่งแบบสอบถามให้กับรัฐมนตรีเพื่อให้ตอบเป็นข้อๆ น่าจะใช้เวลาถึงสิ้นเดือนมิถุนายน จากนั้นนายกฯจึงสามารถนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯได้
บิ๊กตู่กำลังชั่งใจนั่งหัวหน้าพปชร.
นายวิษณุ ยังให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่ากำลังปรึกษาฝ่ายกฎหมายถึงความเหมาะสมในการนั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า นายกฯมีฝ่ายกฎหมายหลายทีม ทั้งทีมของคสช ทีมของรัฐบาลที่อาจเป็นตนและทีมที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของท่าน คือ นายดิสทัต โหตระกิตย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ถามว่าท่านได้ปรึกษาตนหรือไม่ ตนเคยบอกแล้วว่า ไม่ถึงขนาดเป็นที่ปรึกษา แต่ได้ถามลอยๆว่า การเป็นหัวหน้าพรรคมันมีผลกระทบอย่างไรในทางกฎหมาย มีอำนาจหน้าที่อะไร จะต้องทำอะไร จะเกิดอะไรขึ้น ได้มีการเล่าให้ฟังเท่านั้นเอง ส่วนท่านจะคิดตัดสินใจอย่างไรก็สุดแล้วแต่ท่าน คงไปรวบรวมข้อมูลจากหลายฝ่าย ซึ่งตนก็ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไร ท่านก็คงไปชั่งน้ำหนักดู
ทำหน้าที่นายกฯตามบทเฉพาะกาล
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ออกมาระบุว่ารัฐบาลปัจจุบันหมดวาระลงแล้ว แต่ยังมีการประชุม ครม.ว่า ขอย้ำและเตือนว่า ครม.มีทั้งอำนาจและหน้าที่ อำนาจคือการที่จะบริหารราชการแผ่นดินต่อไปจนถึงที่สุด คำว่าถึงที่สุดนั้นหมายถึงวันที่ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จึงเป็นวันพ้นจากตำแหน่งตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งครม.และคสช.จะสิ้นสุดลงในวันนั้น ก่อนหน้านั้น ครม.แม้จะเหลือเพียง 17-18 คน ก็ยังเป็นครม.เต็มอัตราทุกประการ ไม่ใช่ครม.รักษาการหรือครม.ชั่วคราว กรณีรัฐบาลรักษาการณ์นั้นจะใช่ต่อเมื่อรัฐบาลมีการยุบสภา เมื่อรัฐสภาสิ้นสุด รัฐบาลต้องสิ้นสุดด้วย เพราะสภาเป็นคนตั้งรัฐบาล เมื่อยุบสภา สส.กลับบ้านไปหาเสียงได้ แต่รัฐบาลกลับบ้านไม่ได้ เพราะประเทศต้องมีรัฐบาล จะว่างเว้นไม่ได้แม้แต่วันเดียว ดังนั้น รัฐบาลหลังยุบสภาจึงเป็นรัฐบาลรักษาการ แต่กรณีครม.ชุดนี้เป็นครม.เต็ม ไม่ได้มีข้อจำกัดบทบาทอำนาจใดๆไว้ในรัฐธรรมนูญ
งานต้องทำไม่ใช่รับเงินแล้วเฉย
‘ครม.มีเรื่องที่ต้องทำ ถ้าครม.นั่งกินเงินเดือนเต็ม แล้วไม่ปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้ราชการงานเมืองเป็นดินพอกหางหมู ไม่สามารถคลี่คลายปัญหาได้ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องประชุมอาเซียน แต่ยังมีการประชุมจี20 ที่นายกฯจะต้องไปอีก ทั้งที่จริงๆไม่ต้องไป แต่เพราะเราเป็นประธานอาเซียน ซึ่งก่อนจะเอาผลการประชุมอาเซียนไป เราก็ต้องบอกผลประชุมอาเซียนให้ครม.รู้ มันก็ต้องนั่งประชุมทุกวันอังคาร” นายวิษณุกล่าว
พร้อมชี้แจงฝ่ายค้านปมที่มาสว.
นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมเสนอญัตติด่วนตรวจสอบการเปิดเผยรายชื่อกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (สว.)และที่มาสว.ว่า เรื่องนี้จะมีการยื่นหรือไม่ตนไม่ทราบ ถ้ายื่นมาก็ต้องไปชี้แจง ซึ่งคสช.ยังไม่เคยมอบหมายให้ตนไปชี้แจงและคสช.เองก็คงไม่รู้ว่า จะมีการยื่นแบบนี้ ถ้าถึงเวลาก็คงจะมอบหมายตน ซึ่งตนก็พร้อมไปชี้แจง เมื่อถามว่า อาจารย์มีข้อแนะนำในการเตรียมความพร้อมทางด้านข้อกฎหมายในเรื่องนี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ต้องแนะนำหรอก ทุกอย่างมันตรงไปตรงมา สุจริตคือเกราะบังศาสตร์พ้อง ปัญญาประดุจดั่งอาวุธ กุมสติต่างโล่ป้อง อาจแกล้วกลางสนาม ดังนั้นไม่มีปัญหา
พรเพชรชี้สส.ซักฟอกสว.ไม่ได้
ด้าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอให้ที่ประชุมสภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบกระบวนการได้มาซึ่งสว.ว่า ขั้นตอนดังกล่าวเป็นการดำเนินการของสส.ที่จะกล่าวหาสว.ต่อสภาฯ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็สามารถกล่าวหาได้ แต่เชื่อว่าจะไม่ทำให้การทำงานของส.ว.ต้องสะดุดลง เพราะจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ จะรับญัตติดังกล่าวไว้พิจารณาในประเด็นใดบ้าง เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับเรื่องการโหวตเลือกนายกฯให้ต้องเป็นโมฆะด้วย เพราะขั้นตอนการโหวตเลือกนายกฯผ่านพ้นเสร็จสิ้นไปแล้ว ขณะที่เรื่องตรวจสอบคุณสมบัติ สว.นั้น หากบุคคลใดต้องการจะตรวจสอบคุณสมบัติของสว.คงต้องใช้ช่องทางอื่นๆ ที่ไม่ใช่การอภิปรายในสภาฯ ซึ่งจะใช้ช่องทางไหนนั้น มี แต่ตนไม่บอก หากสว.ต้องการตรวจสอบกันเอง สามารถใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญมาตรา82 โดยลงชื่อและยื่นเรื่องต่อประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้
‘ชวน’ยังไม่เห็นบรรจุเป็นญัตติ
ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการยื่นญัตติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบการสรรหาส.ว.ว่า ตนยังไม่เห็นญัตติดังกล่าว ทั้งนี้ ญัตตินั้นต้องผ่านกระบวนการของเจ้าหน้าที่มาก่อน โดยมีรองประธานฯ ทั้ง 2 คนแบ่งงานกันดู ขณะที่เรื่องเพื่อทราบนั้นไม่จำเป็นต้องขออนุมัติจากใคร สามารถบรรจุในระเบียบวาระได้เลย
เผยฝ่ายค้านยื่นให้ชี้แจง4ประเด็น
ทั้งนี้ ช่วงเช้าในซีก 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วยพรรค พท. พรรคอนาคตใหม่(อนค.)พรรคประชาชาติ (ปช.) พรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศม.) พรรคเพื่อชาติ (พช.)พรรคพลังปวงชนไทย และพรรคเสรีรวมไทย(สร.) ร่วมแถลงถึงการยื่นญัตติด่วนเพื่อขอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษา ตรวจสอบการได้มาซึ่ง สว.โดยนายสุทิน คลังแสง สส.มหาสารคาม พท.กล่าวว่าประเด็นที่เราอยากให้ตรวจสอบคือ 1.การคัดเลือก สว.มีคณะกรรมการสรรหาหรือไม่ แม้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ จะออกมาเปิดเผยรายชื่อแต่เป็นการเปิดเผยรายชื่อย่างไม่เป็นทางการ 2.คณะกรรมการดังกล่าวมีระเบียบและวิธีสรรหาอย่างไร เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยถูกเปิดเผย 3.มีสมาชิกสว.หลายท่านที่เป็นเครือญาติและพวกพ้องของผู้มีอำนาจ เป็นการได้มาโดยชอบตามรัฐธรรมนูญหรือไม่และขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ และ 4.งบประมาณ 1300ล้านบาท ได้ถูกนำไปใช้ตามระเบียบวิธีการใช้งบประมาณหรือไม่
พปชร.เรียกกล่อม’สายใต้-อีสาน’
ที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคและนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคได้เรียกนายเอกราช ช่างเหลา สส.บัญชีรายชื่อ แกนนำกลุ่มภาคอีสานตอนบนและนายนิพันธ์ ศิริธร สส.ตรัง พปชร.กลุ่มด้ามขวานไทย ซึ่งประกอบไปได้ส.ส.ภาคใต้ 13คน รวมถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ เข้าพบที่พรรค เพื่อพุดคุยเคลียร์ใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงการพิจารณาตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆให้ผู้ที่ไม่ได้รับการพิจารณาในตำแหน่งรัฐมนตรี ได้เข้าไปทำงาน โดยใช้เวลากว่า 1ชั่วโมง
รับปากดูแลภาคใต้-ไม่ขอนั่งรมต.
จากนั้น นายนิพันธ์เปิดเผยว่า ถือเป็นครั้งแรกที่พวกตนได้พูดคุยกับผู้บริหารพรรคเพื่อทำความเข้าใจ ทั้งในเรื่องขอการทำงานร่วมกับรัฐบาลต่อไปและการเตรียมพร้อมการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น โดยพรรคจะให้สส.ในพื้นที่ได้มีส่วนในการพิจารณาตัวบุคคลด้วย รวมไปถึงสะท้อนปัญหาต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยดี โดยหัวหน้าพรรคระบุว่า หากกลุ่มสส.ภาคใต้ มีเรื่องสำคัญที่จะพัฒนาภาคใต้ก็ให้เสนอมาทางพรรค เพื่อส่งต่อไปถึงรัฐบาล ตรงนี้ทำให้เราเกิดความมั่นใจในระดับหนึ่งว่าการขับเคลื่อนงานจะเป็นผลดีกับประชาชนในภาคใต้ โดยพรรคไม่ได้ละเลย ซึ่งเรายืนยันว่า จะไม่มีตัวแทนเป็นรัฐมนตรีหรือตำแหน่งใด แต่พรรครับปากว่า จะดูแลพื้นที่ภาคใต้โดยมี“คณะกรรมการขับเคลื่อนภาคใต้”เป็นผู้ประสานงานในพื้นที่โดยเฉพาะให้สส.ทั้ง 13คน ได้สะท้อนปัญหาโดยตรง เมื่อก่อนอาจจะมีช่องว่างระหว่างสส.กับผู้บริหารของพรรค แต่วันนี้ได้พูดคุยขจัดช่องว่างจนหมดไป
อุตตมจะหาเก้าอี้ที่เหมาะสมให้
ด้านนายเอกราชกล่าวว่าการพูดคุยเป็นไปด้วยดี โดยหัวหน้าพรรค รับปากว่าจะช่วยดูแลสิ่งที่เป็นปัญหาซึ่งตนในฐานะผู้ประสานงานของกลุ่มจะนำเสนอปัญหาไปถึงหัวหน้าพรรคเพื่อส่งต่อไปถึงผู้มีอำนาจพิจารณา รวมถึงการพิจารณาเข้าทำงานในตำแหน่งอื่นๆต่อไป ทุกอย่างจากนี้เราจะขับเคลื่อนการทำงานให้อยู่ในระบบของพรรคต่อไป
เสี่ยหนูหนุนบิ๊กตู่หัวหน้าพปชร.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งรายชื่อรัฐมนตรี ในสัดส่วนพรรคภท.ว่า ได้ส่งรายชื่ออย่างเป็นทางการไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ เรียบร้อยแล้ว จากนั้นยังไม่ได้คุยกับนายกฯอีกเลย แต่ไม่ได้ตีกลับมาแน่นอน ส่วนการลาออกจากความเป็นสส.ของคนที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี แม้ไม่ได้มีกฎหมายบังคับว่าต้องลาออก แต่ในส่วนของพรรคภท.คนที่ไปเป็นรัฐมนตรีจะต้องลาออกจากสส.ยกเว้นหัวหน้าและเลขาธิการพรรค เพราะต้องกำกับการทำงานในสภา ชื่อที่ปรากฎเป็นข่าวอาจจะถูกบ้างผิดบ้าง แต่พูดไม่ได้ เสียมารยาท ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายกฯที่จะกลั่นกรอง
เมื่อถามถึงกรณีพรรค พปชร.จะเปลี่ยนหัวหน้าพรรคเป็น พล.อ.ประยุทธ์ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่จะได้ผู้ใหญ่เข้ามา จะได้ทำงานด้วยกันเต็มที่ สะดวกและตัดสินใจได้รวดเร็ว เพราะการทำงานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลมีเรื่องต้องตัดสินใจมากมาย หากนายกฯอยู่ข้างนอกการสื่อสารช้าไม่ทันการ
‘ชาดา’ยกเก้าอี้รมช.ให้น้องสาว
ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวยอมรับกระแสข่าวกรณีมีการเปลี่ยนชื่อในตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์และทางพรรคได้เสนอชื่อ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ น้องสาว ที่ตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ไปนั่งในตำแหน่งดังกล่าวแทน ว่า ส่วนตัวไม่รู้สึกอะไรและยังมีความสุขดีในการทำหน้าที่ สส.ที่จะดูแลพี่น้องประชาชน ตนเคารพการตัดสินใจของผู้ใหญ่ในพรรค และความเห็นของคนอื่นๆ เมื่อถามว่า สาเหตุที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี เพราะถูกมองเป็นผู้มีอิทธิพลใช่หรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า อยากถามว่า เจ้าพ่อคืออะไร ถ้าหากเป็นบุคคลในลักษณะดังกล่าวจริง ตำรวจคงไม่กล้าเข้าบ้านตรวจค้นทุกปีตลอดช่วง4-5ปีที่ผ่านมา แต่ถ้าบอกว่า ตนเป็นผู้มีอิทธิพล ก็ขอยอมรับ แต่เป็นผู้มีอิทธิพลที่สร้างบ้าน สร้างเมือง ช่วยเหลือผู้อื่นและไม่ทำร้ายใคร ตนเป็นคนเฮฮาเข้ากับคนได้ทุกกลุ่ม อยากถามว่า ถ้าตนไม่ดีจริง ทำไมคนอุทัยธานียังเลือกตนและหลาน จนได้คะแนนเสียงมา 90,000กว่าเสียง
ดำรงค์ตั้งแง่แห้ว-มีทางออก3ช่อง
นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจจะไปเป็นฝ่ายค้านอิสระหรือไม่ว่า ต้องรอความชัดเจน หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ครม.หากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ได้ดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ตนก็เดินทางมาถึงทางตัน ต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ให้ตัดสินใจ 3ทาง คือ1.อยู่ร่วมรัฐบาลกับพรรค พปชร.ต่อไป2.เป็นฝ่ายค้านอิสระที่จะลงมติเฉพาะบางนโยบายที่เราเห็นด้วย หรือบางครั้งไปช่วยรัฐบาลได้ 3.เป็นฝ่ายค้านร่วมกับ7พรรคที่มีพรรคพรรคเพื่อไทย(พท.)เป็นแกนนำ
เมินเก้าอี้กมธ.-ขอเป็นฝ่ายค้าน
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมายังไม่เคยมีการติดต่อมาจากพรรคที่จัดตั้งรัฐบาล ตนไม่ได้ขัดแย้งกับคนในพรรค ชทพ.และเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของพรรคชทพ.ที่จะได้ดูแลกระทรวงดังกล่าว แต่เป็นความผิดของผู้จัดทำรายชื่อครม.อีกทั้งตามมารยาทแล้ว ตนไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงการทำงานของพรรคชทพ.ได้และไม่ควรเอาพรรคของตนไปทำงานซ้อนกัน ขณะเดียวกันถ้าพรรคชทพ.ได้ดูแล ทส.เขาคงไม่ดึงพรรคตนไปเป็นคณะทำงานของเขา หากจะให้ทำงานในฐานะกรรมาธิการในรัฐสภาคิดว่า กรรมาธิการไม่สามารถทำงานได้เท่ากับฝ่ายบริหาร หากคนจัดโผครม.ไม่ไว้วางใจเรา เราก็ต้องถอย ไม่เป็นไรหรอก เขาขาดเสียงสส.เราแค่ 2เสียง คงไม่สะเทือนหรอก
ยังไม่เคาะนั่งรมต.ต้องออกสส.
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พปชร.กล่าวถึงการพิจารณาหลักเกณฑ์ผู้ที่ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีจะต้องลาออกจากสส.ของพรรค ว่า ต้องดูหลายด้าน เพราะถ้าเสียงปริ่มน้ำมากๆ ก็ต้องดูปัจจัยหลายด้านประกอบกัน อยู่ระหว่างการหารือ หากมีการแต่งตั้งครม.แล้วต้องดูว่า บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นสส.หรือไม่ รวมถึงการจัดสรรบุคคลไปนั่งในตำแหน่งอื่นๆ เรามีคณะทำงานดูแลเรื่องนี้ ซึ่งคาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุป
เมื่อถามว่ามีแกนนำพรรค 2-3คนพูดตรงกันว่าถ้าไปนั่งเป็นรัฐมนตรี ต้องลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่าเรายังไม่มีข้อสรุปถึงขนาดนั้น อาจเป็นความคิดเห็นของบางพรรคที่ทำแบบนั้น ส่วนตัวมองว่าต้องดูการบริหารจัดการและดูหมายเหมาะสม เพราะเราต้องวางโครงสร้างการบริหาร เดินไปด้วยกันได้หมดเมื่อถามว่ากรณีเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำต้องนำมาเป็นเงื่อนไขพิจารณาด้วยหรือไม่ว่า เป็นรัฐมนตรีต้องลาออกจาก สส.นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ต้องมองว่าการขยับ หรือ ปรับเปลี่ยนต้องมีผลต่อการทำงานในสภาด้วย ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป จนกว่าคณะทำงานจะกำหนดหลักเกณฑ์มาหลักการในการพิจารณาก็ต้องมี ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงสถานการณ์และการบริหารงานแต่ละด้านด้วย
‘ช่อ’เสียใจ-รูปถ่ายรับปริญญา
ในส่วนของน.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ เปิดใจครั้งแรก หลังมีกระแสวิจารณ์พฤติกรรมในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า สถานการณ์การเมือง ขณะที่ตนเข้าศึกษาคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่1 ปี2549 เป็นช่วงที่การเมืองมีความร้อนแรงและตนมีความสนใจการเมืองอยู่แล้ว ซึ่งการถ่ายรูปในช่วงรับปริญญา มีหลายภาพ แต่ภาพที่เป็นประเด็นขึ้นมา ยอมรับว่าไม่เหมาะสม ทำให้หลายคนไม่สบายใจ โดยเฉพาะโซเชียลที่ทะเลาะกัน ถกเถียงกัน พร้อมยอมรับว่าเสียใจ และไม่สบายใจ เพราะกระทบไปถึงพ่อ ครอบครัว และเพื่อน
ลั่นถูกฟ้อง ม.112ว่าไปตามกม.
ส่วนกรณีที่ถูกยื่นฟ้องความผิดตามมาตรา112 และสอบจริยธรรมร้ายแรงนั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และพร้อมเข้าชี้แจง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 หรือไม่ และยังไม่ได้พูดคุยกับฝ่ายกฎหมายของพรรค เพราะต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน จุดยืนของพรรคไม่ต้องการให้นำประเด็นเรื่องสถาบันมาโจมตีทางการเมือง พรรคต้องการทำการเมืองแบบใหม่ และมุ่งหวังว่าสิ่งที่พรรคชี้แจงกับประชาชนมาโดยตลอด จะทำให้สังคมเกิดความเข้าใจ พร้อมเชื่อมั่นว่าผู้สนับสนุนของพรรคจะเข้าใจในประเด็นนี้ เพราะที่ผ่านมา พรรคก็ถูกโจมตีในลักษณะนี้มาโดยตลอด ทั้งนี้พรรคไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษมีเพียงแต่ไม่ให้ สส.และสมาชิกพรรคโพสต์ภาพ หรือข้อความโจมตีใคร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี