‘ประยุทธ์’พอใจ
ไทยคงระดับ‘TIER2’
แก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์
เดินหน้าปราบทุกรูปแบบ
สหรัฐ คงระดับไทยปราบค้ามนุษย์ที่ Tier 2 เหมือนปีที่แล้ว ด้านโฆษกบัวแก้วระบุลุงแซมเห็นความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาทั้งภายในประเทศ และประสานความร่วมมือกับต่างประเทศ ส่วนรองโฆษกรัฐบาลเผย “นายกฯ”พอใจ กำชับเร่งยกระดับมาตรฐานต่อเนื่อง ด้าน “ประวิตร” เดินหน้าทำงานหวังสถานการณ์จะดีขึ้นกว่าเดิม
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ
เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 09.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงวอชิงตัน) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเผยแพร่รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2562 (TIP Report 2019) โดยในปีนี้ไทยได้รับการจัดระดับให้อยู่ ใน Tier 2 ซึ่งเป็นการคงอันดับเดิมจากปี 2561 ซึ่งการคงระดับนี้สะท้อนว่าสหรัฐฯ ตระหนักถึงความมุ่งมั่นพยายามของไทย และความคืบหน้าที่รัฐบาลไทยและภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมกันสร้างขึ้นป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบ
“ปีที่ผ่านมาไทยมีพัฒนาการสำคัญทั้งด้านการบังคับใช้กฎหมายและการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด การคุ้มครองดูแลผู้เสียหาย และการป้องกันการตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ นอกจากนี้ ไทยยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในประเทศ ทั้งภาคประชาสังคมและภาคเอกชน ตลอดจนภาคส่วนในต่างประเทศ ทั้งองค์การระหว่างประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่น ๆ ที่สนใจ ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ เพื่อให้การดำเนินการของไทยเกิดผลสำเร็จในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นและอย่างต่อเนื่องต่อไป” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
น.ส.บุษฎี กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติของไทย โดยรัฐบาลไทยมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนากรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเพิ่มพูนประสิทธิภาพการทำงานของทุกส่วนราชการที่รับผิดชอบ และจะแก้ไขสิ่งที่ยังบกพร่อง โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อขจัดการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบและปกป้องคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามหลักสิทธิมนุษยชนและหลักมนุษยธรรมที่ไทยยึดถือมาโดยตลอด
ขณะที่ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พอใจสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2562 ของไทย ที่อยู่ในระดับ Tier 2 เช่นเดียวกับปีที่แล้ว จากการรายงานของกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา
“โดย นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า การคงระดับของไทยให้อยู่ใน Tier 2 สะท้อนว่า สหรัฐฯ ตระหนักถึงความมุ่งมั่นพยายามของไทยซึ่งมีความคืบหน้าหลายอย่างที่รัฐบาลและภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมมือกันเพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบ พร้อมทั้ง ยืนยันว่ารัฐบาลใหม่จะยังเดินหน้าเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ”
พล.ท.วีรชน กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกฝ่ายทั้งข้าราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน ที่ให้ความสำคัญกับปัญหาค้ามนุษย์ อย่างไรก็ตาม เราจะต้องทำงานหนักต่อไป ทั้งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI ) สนง.อัยการสูงสุด ฯลฯ เพราะบางพื้นที่ยังพบปัญหาอยู่ รวมทั้ง ยินดีรับฟังข้อเสนอแนะของสหรัฐฯ และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อขจัดการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไป
รองโฆษกฯ กล่าวด้วยว่า ในรายงานของสหรัฐฯ ระบุว่า รัฐบาลมีความพยายามในการระบุผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ และผู้เสียหายมากขึ้น มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดค้ามนุษย์ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐด้วยโทษที่สูงกว่าคนทั่วไป ส่วนกฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ยังกำหนดโทษอย่างรุนแรง สำหรับการค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณี บังคับใช้แรงงาน หรือบริการ โดยเฉพาะกับผู้เสียหายเป็นเด็ก
ประเด็นดังกล่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าว ทางการไทยได้พยายามแก้ไขปัญหานี้ ขณะนี้ถือว่าดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์อยู่ ยังไม่หมด จึงต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหากันต่อไป หากพบใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการนี้ ก็ต้องลงโทษอย่างเด็ดขาดตามกฎหมาย โดยได้กำชับไปยังทุกหน่วยงานให้เร่งรัดดำเนินการ
“ผมไม่กังวลว่า คสช.จะหมดวาระแล้ว ยังมีงานที่คั่งค้างอยู่ เพราะรัฐบาลใหม่ก็สามารถเข้ามาสานต่อได้ รวมทั้ง การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์”พล.อ.ประวิตรกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี