สยบข่าว‘บิ๊กโจ๊ก’รีเทิร์น
มติก.ตร.ถอดชื่อพ้นอนุฯ
ตั้ง‘พ.ต.อ.ดร.มานะ’แทน
ที่ประชุมก.ตร.มีมติถอดชื่อ “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” ออกจากคณะอนุกรรมการก.ตร.แล้วแต่งตั้ง พ.ต.อ.ดร.มานะ เผาะช่วย รองผบก.น.8 รุ่น 36 มาทำหน้าที่แทน ขณะเจ้าตัวลั่นขอทำหน้าที่ ข้าราชการใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้ดีที่สุด อย่างเต็มความสามารถ
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ในฐานะประธานอนุกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานก.ตร. เพื่อชี้แจงคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นอนุกรรมการ ฯ
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ดำรงตำแหน่งอนุกรรมการมาหลายปีแล้ว และก็ไม่ได้มีความเสียหายอะไรจึงได้คงชื่อไว้ ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวเกิดจากมีการพิจารณาเปลี่ยนแปลงอนุกรรมการคนเดียว คือ พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ที่ออกไป จึงได้แต่งตั้ง พล.ต.อ.อำนวย นิ่มมะโน เข้ามาแทน ส่วนชื่อพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก็เป็นเพียงชื่อที่คาไว้ พอรายชื่อทั้งหมดเสนอขึ้นไปถึง ผบ.ตร.และเสนอเข้า ก.ตร.ที่มี พล.อ. ประวิตร เป็นประธาน ก็ได้รับการเห็นชอบ โดยกฎหมายระบุว่า เมื่อ ก.ตร.มีมติเอกฉันท์ถ้าไม่มีใครทวงติง ประธานฯ ต้องลงนาม ดังนั้น ประธานฯไม่ได้มีอำนาจอะไรเลย ท่านไม่ผิด และก็ไม่เกี่ยวด้วย
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า วาระการเปลี่ยนอนุกรรมการฯ ดำเนินการทั้งหมด 5 ชุด จาก 7 ชุด โดยส่วนใหญ่ ที่ลาออกจะไปเป็นวุฒิสมาชิก เมื่อลาออกก็ต้องสังคายนา
จากนั้น พล.ต.อ.วิระชัย ได้นำเอกสารแต่งตั้งอนุกรรมการกฎหมายเมื่อปี 2561 มาแสดงให้ผู้สื่อข่าวดูว่ายังมีชื่อของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ อยู่ด้วย พร้อมระบุว่าเอกสารที่ออกมาไม่ใช่เอกสารปกปิดหรือเป็นความลับ
วันเดียวกัน เวลา 15.00 น. วันเดียวกัน ได้มีการประชุมด่วนคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธาน โดยมีวาระสำคัญเพื่อพิจารณายกเลิกคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ซึ่งถูก คสช. มีคำสั่งตามมาตรา 44 ให้ย้ายขาดจากข้าราชการตำรวจไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการอนุ ก.ตร. เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ ตามมติที่ประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 5/2562 เห็นชอบ ซึ่งมีนายตำรวจอื่นๆอีก 15 นาย โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวมี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เป็นประธานอนุกรรมการ และลงนามในประกาศ ก.ตร. โดย พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธาน ก.ตร. เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีการประชุม ก.ตร.ครั้งที่5/2562 โดยมีมติแต่งตั้งอนุ ก.ตร. เกี่ยวกับกฎหมาย และระเบียบ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีชื่อของ พล.ต.ท สุรเชษฐ์ รวมอยู่ด้วย ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร จะลงนามในประกาศเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าการพิจารณาเพื่อยกเลิกคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากกระแสข่าวอาจจะมีการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กลับมามีบทบาทในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง โดยเฉพาะข่าวที่ว่าจะมีการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กลับมาดำรงตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.
ต่อมา เวลา 16.00 น. พล.ต.อ.วิระชัย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการ ก.ตร. เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ เปิดเผยหลังการประชุม ก.ตร.ว่า ที่ประชุม ได้มีมติให้ถอนถอนชื่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เป็นหนึ่งในอนุกรรมการชุดนี้ ออกจากอนุกรรมการ ก.ตร.แล้ว
พร้อมกับ เห็นชอบแต่งตั้ง พ.ต.อ.ดร.มานะ เผาะช่วย รองผบก.น.8 รุ่น 36 มาทำหน้าที่แทน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อไปที่ประชุม ก.ตร.จะนำมติที่ประชุมเสนอต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธาน ก.ตร.ลงนามเห็นชอบต่อไป
ทางด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้เปิดเผยว่า ในตอนนี้ ตนได้ย้ายจากตำรวจ มาเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ผู้บังคับบัญชาของตนคือปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้มอบหมายงานในการให้คำปรึกษาในการช่วยเหลือประชาชนด้านต่างๆ ให้ “เพราะฉะนั้น ตนจะทำหน้าที่ของผมในฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ อย่างดีที่สุด และเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน แม้จะไม่ได้เป็นตำรวจ แล้ว แต่ก็ยังเป็นข้าราชการ ก็จะทำงานให้ประชาชนช่วยเหลือประชาชนต่อไป
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงกรณีที่มีชื่ออยู่ในคณะอนุกรรมการ ก.ตร.ว่า ตนอยู่ในคณะอนุกรรมการชุดนี้มา 3 ปีแล้ว ไม่ได้มีการถูกปรับออก แต่ที่มีการออกคำสั่งใหม่ เพราะมีการปรับเปลี่ยน บางท่านเท่านั้น ชื่อผมก็อยู่เหมือนเดิม ส่วนที่มีข่าวว่า เดินสายทำพิธีสะเดาะเคราะห์ในวัดต่างๆ เช่น ที่วัดพระแก้วนั้น โดยปกติ ตนเป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้ว เดินสายไปไหว้พระ สร้างโบสถ์สร้างพระสร้างวิหาร มาตลอด มาช่วงนี้ก็ไปไหว้พระทำบุญตามปกติของผม เพราะเราเป็นพุทธศาสนิกชน ไม่เคยมีการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ใดๆ ตนไปไหว้มาหมด ทั้งวัดพระแก้วศาลหลักเมือง ไหว้ หลวงปู่ทวดวัดช้างให้ วัดพะโคะ และไปที่ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ตอนนี้คุณพ่อของตนก็ไม่ค่อยสบายส่วนคุณแม่ก็หกล้มขาหัก ก็เป็นห่วงท่านจึงได้ไหว้พระให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองท่านด้วย
ส่วนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีตำรวจไปต้อนรับ และมีรถนำ ตอนไปไหว้ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชนั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไปไหนมาไหนคนเดียว ในช่วงหลังๆ แต่พอเพื่อนหรืออดีตลูกน้องรู้ ก็จะมาหา แต่ว่าไม่ใช่รถนำของตนแต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี