ฝ่ายค้าน - ฝ่ายรัฐบาล รุมถล่มแผนปฏิรูปประเทศ พท. ย้ำไม่สามารถแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้ ด้าน'ปิยบุตร'แซะ'บิ๊กตู่' ควรปฏิรูปมากที่สุด ปชป. อัด เป็นการปฏิรูปแบบ 'ผู้ใหญ่รู้ดี ไม่มีทางสำเร็จ'
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมทีโอที ถ.แจ้งวัฒนะ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณารับทราบรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 (มกราคม - มีนาคม 2562) นั้น บรรยากาศการอภิปรายโดย ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน โดยย้ำถึงการไร้ความคืบหน้าของงานปฏิรูปประเทศตามแผนที่กำหนดไว้ ทั้งที่แผนดังกล่าวมีกรอบกำหนดเวลาทำงานกำกับไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแผนงานปฏิรูปของรัฐบาล ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกฯ เป็นผู้นำนั้น ใช้คำว่าปฏิรูปเป็นเพียงวาทกรรม เพราะไร้รูปธรรมที่ชัดเจน
โดย น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายในสาระสำคัญซึ่งชี้ให้เห็นว่า การดำเนินงานปฏิรูปตามแผนการปฏิรูปและยุทธศาสตร์ชาติ ไม่สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ โดยเฉพาะด้านแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ เพราะโครงการที่ดำเนินการนั้นขาดการบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อการปฏิรูป โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับมิติของเศรษฐกิจ รวมถึงผลงานไร้ผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม เพราะรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกฯ ทำให้การปฏิรูปเป็นเพียงวาทกรรมเท่านั้น
นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่าแผนปฏิรูปที่ต้องการให้เกิดความปรองดอง พบว่าใช้ค่ายทหารเป็นที่รับฟังความเห็นและเชิญตัวแทนนักการเมืองไปให้ความเห็น ที่ค่ายในจ.นครราชสีมา ซึ่งแผนปฏิรูปต่างๆ ที่เกิดขึ้นชาวบ้านมองว่าเป็นเรื่องน่าหัวเราะ อีกทั้งกรณีที่เคยมีข่าวว่าห้ามนักเรียนทำพานไหว้ครูที่เป็นรูปตราชั่งเอียง ที่ จ.สกลนคร ถูกสั่งห้าม ทำให้เห็นว่าการปฏิรูปที่ต้องการ คือ ไม่สามารถคิดแบบอื่นได้
นายปิยบุตร แสงกนกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ โดยมีสาระตอนหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ ฐานะผู้นำการปฏิรูปควรเป็นบุคคลที่ควรถูกปฏิรูปมากที่สุดภายใต้แผนปฏิรูปที่เสนอ เพื่อไม่ให้เกิดภาพของรัฐซ้อนรัฐ หรือ ซุปเปอร์รัฐบาล เนื่องจากการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐมนตรีนั้นถูกกำกับโดยแผนปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ ดังนั้นส.ส.ที่ถูกรับเลือกให้เป็นรัฐมนตรีนั้นจะทำหน้าที่เพียงดูเรื่องงบประมาณเท่านั้น ซึ่งตนมองว่ากรณีดังกล่าวคือการลดทอนคุณค่าของส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง นอกจากนั้นแผนงานปฏิรูปเป็นเพียงการสร้างอุตสาหกรรมปฏิรูปที่ได้ผลลัพธ์คือ กระดาษกองใหญ่ ขณะที่การตรวจสอบการปฏิรูปแม้ระบุว่าจะต้องรายงานต่อรัฐสภา และเมื่อมีกฎหมายที่ต้องออกเพื่อปฏิรูปให้ใช้การประชุมร่วมรัฐสภา ที่ให้ ส.ว.ร่วมด้วย คือกระบวนการให้ส.ว. เข้าครอบงำการทำงานของฝ่าย ส.ส.
นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า สำหรับองค์กรที่ควรปฏิรูปมากที่สุด คือ กองทัพ ปฏิรูปให้กองทัพเคารพสิทธิของประชาชน ปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง ไม่ใช่ใช้อำนาจรัฐประหารทุกๆ 4-6 ปี ทั้งนี้ตนมองว่าการปฏิรูปประเทศเป็นผลพวงมาจากรัฐประหาร ปี 2557 ดังนั้นตนมองว่าการปฏิรูปยุค คสช. เป็นข้ออ้างจากการรัฐประหาร และเป็นเครื่องมือครองและสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร และไม่ให้ความสำคัญกับประชาชน ทำให้ระบบรัฐประหารฝังตัวในรัฐธรรมนูญเพื่อรับรองให้การรัฐประหารมีความถูกต้อง
สำหรับการอภิปรายของ ส.ส.กลุ่มพรรคร่วมรัฐบาล อภิปรายทักท้วงแผนปฏิรูปประเทศที่ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนและขาดการบูรณาการการทำงานเนื่องจากมีโครงการเป็นจำนวนมาก พร้อมเสนอให้นำแผนปฏิรูปไปปรับปรุง พร้อมรับฟังความเห็นจากประชาชน รวมถึงผู้มีส่วนได้เสียเพิ่มเติม
โดยนายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า รายงานปฏิรูปเป็นเพียงภาพ แต่ปฏิบัติจริงไม่ได้ จึงมีคำถามว่า แผนปฏิรูปนี้สำคัญจริงหรือไม่ จะทำได้จริงหรือ เพราะเป็นเเผนปฏิรูปของข้าราชการ ไม่ใช่ปฏิรูปของประชาชน การปฏิรูปที่มอบนโยบายแบบผู้ใหญ่ใจดี ผู้ใหญ่รู้ดี ไม่มีทางสำเร็จได้ เเผนปฏิรูปจะต้องสัมพันกับเผนเเม่บท โครงการปฏิรูปต้องไม่ทับซ้อนกับกระทรวงเเละจังหวัดที่จะมีทำกันทุกปี ต้องระบุปัญหาสำคัญเร่งด่วนว่าคืออะไร และวัดผลความสำเร็จภายใน 1 หรือ 2 ปี
"การปฏิรูปประเทศที่สำคัญ ต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงและประชาชนได้รับประโยชน์ โดยแผนปฏิรูปประเทศที่ผ่านมาพบว่าขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียทำให้ขาดการร่วมมือ ส่วนตัวมองว่าแผนปฏิรูปประเทศที่กำหนดไว้เป็นของข้าราชการไม่ใช่ของประชาชน เพราะพบการมอบนโยบายจากข้างบนและเขียนแผนแบบผู้ใหญ่รู้ดี จึงเป็นสาเหตุที่การปฏิรูปไม่ประสบความสำเร็จ นอกจากนั้นรัฐบาลต้องปรับทัศนะคติต่อการรับฟังความเห็นของ สมาชิกแห่งสภาฯ ด้วยทัศนะคติที่เป็นบวกต่อกัน ไม่ใช่มองว่าสภาฯ คือเวทีคัดค้าน เพื่อให้การปฏิรูปเกิดขึ้นจากการร่วมมือ หากรัฐบาลไม่ปรับทัศนะอาจกลายเป็นการต่อสู้ระหว่างคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงและไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงได้” นายกนก กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายต่อรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ ช่วงเดือนมกราคม - เดือนมีนาคม 2562 เป็นเพียงวาระรับทราบเท่านั้น โดยไม่มีการลงมติใดๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี