“7 พรรคฝ่ายค้าน”ขู่ไม่ทบทวนบรรจุญัตติตั้งกมธ.ตรวจสอบที่มาสว.เจอร้อง ป.ป.ช. เอาผิดประธาน-รองประธานสภาคนที่ 2
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 27 มิถุนายน ที่หอประชุมบริษัททีโอที 7 พรรคการเมืองฝ่ายค้าน ร่วมแถลงถึงกรณีที่ประธานสภาไม่บรรจุญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นร้องขอให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบที่มาของส.ว.
โดยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเราได้ยื่นญัตติเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปถึง 3 ญัตติ แต่กลับถูกรองประธานสภาคนที่ 2 ไม่บรรจุเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยอธิบายว่าส.ส.ไม่มีอำนาจในการตรวจสอบเรื่องนี้ จึงเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญไม่ได้ แต่สิ่งที่เราตั้งญัตติไปนั้น ขอย้ำว่า ไม่ได้ไปตรวจคุณสมบัติต้องห้ามของส.ว. เราทราบดีกว่าคนที่จะตรวจสอบคือส.ว.ด้วยกันเอง แต่เราตรวจสอบการได้มาซึ่งส.ว.
ทั้งนี้ ที่ 7 พรรคให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวเพราะเป็นประเด็นปัญหาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และทุกฝ่ายก็พยายามหาคำตอบว่ากระบวนการสรรหาเป็นอย่างไรกันแน่ เราพยายามใช้ทุกช่องทาง แต่ถูกปิดหมด ดังนั้นเราในฐานที่เป็นผู้แทนสภาฯ ในเมื่อประเด็นปัญหานี้ยังเป็นที่สงสัยในสังคม จะให้สภาผู้แทนฯ นั่งเฉยๆหรือ
นอกจากนี้ สิ่งที่รองประธานสภาฯ ไม่ยอมบรรจุ โดยอ้างว่าไม่มีอำนาจ หากพูดถึง คสช. เขาเป็นองค์กรสูงสุด เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ไม่มีใครตรวจสอบได้นั้น ตนมองว่าความเห็นแบบนี้เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย เพราะนั้นหมายความว่าอะไรที่เกี่ยวกับ คสช. เราจะยุ่งกับเขาไม่ได้เลยหรือ ทั้งที่อีกไม่กี่วันก็ คสช. ก็หมดอายุแล้ว สภาผู้แทนฯ เป็นองค์กรที่มาจากการเลือกตั้งเพียงองค์กรเดียว เราจำเป็นต้องใช้อำนาจที่ได้รับมาจากประชาชนในการทำงานตรวจสอบต่างๆ ตามที่ประชาชนสงสัย
"หากรองประธานสภาฯ พิจารณาเช่นนี้ เท่ากับลดอำนาจของสภาผู้แทนฯลง วันข้างหน้าสภาฯ อยากพิจารณาเรื่องประกาศคำสั่ง คสช. จะทำได้หรือไม่ หรือสุดท้ายแล้วเมื่อคสช.ไปแล้ว ผลผลิตการใช้อำนาจของเขายังอยู่ และเราไม่สามารถไปยุ่งอะไรกับเขาได้เลย แบบนี้เป็นอันตราย และอยากให้รองประธานสภาฯ ทบทวน เพราะหากไม่ทบทวนจะมีปัญหาในทางกฎหมาย และพรรคร่วมฝ่ายค้านจะสงวนเรื่องนี้ไว้พิจารณาในทางกฎหมายต่อไป"นายปิยบุตร กล่าว
ด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หากประธาน และรองประธานสภาวินิจฉัยเช่นนี้เป็นเจตนาที่จะละเมิดรัฐธรรมนูญ เพราะคสช. เป็นองค์กรที่เข้ามาใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ ฝ่ายนิติบัญญัติจึงมีหน้าที่ในการตรวจสอบ เรายื่นญัตติผ่านไป 8 วันแล้ว ทั้งที่ข้อบังคับระบุว่าเมื่อสมาชิกยื่นญัตติด่วนให้กับประธาน ประธานต้องแจ้งผู้ยื่นภายใน 5 วัน นับตั้งแต่วันรับญัตติ แต่นี่ยังไม่แจ้ง และหาก 7 วัน ไม่แจ้ง เราอนุมานว่าญัตติเราเป็นญัติด่วนแน่นอน แต่ผ่านไปแล้วกลับไม่มีถูกบรรจุอยู่ในวาระ แปลว่าท่านเจตนาไม่บรรจุญัตติ และไม่แจ้งเจ้าของญัตติ
"ดังนั้น จึงมีความผิดคือ 1.เจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้ และ 2.เราจะส่งเรื่องให้ป.ป.ช.ไต่สวนประธานและรองประธานสภาฯคนที่ 2 ที่ใช้อำนาจหน้าที่ในส่วนนี้ และส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และถ้ามีความผิดปรากฎชัดแจ้งจะผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 ตามมาอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่จำเป็นต้องทำ ทั้งนี้หากไม่ทบทวนบรรจุญัตติดังกล่าว เราจะเดินทางไปยื่นป.ป.ช. ในวันที่ 1 ก.ค. เพื่อให้ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวต่อไป"นพ.ชลน่าน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี