"พรเพชร"ปัดตอบฝ่ายค้านแจ้งความ"ชวน"ปมญัตติสอบที่มาสว. โยน"นายกฯ"แจงสเปคสว. ยันไม่มีอำนาจพิจารณากฎหมายเหนือสส.
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 28 มิถุนายน 2562 ที่รัฐสภาใหม่ ย่านเกียกกาย นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 7 พรรคฝ่ายค้าน เตรียมแจ้งความ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานรัฐสภา คนที่สอง ละเว้นเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 กรณีไม่บรรจุญัตติตั้งกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบที่มาของ ส.ว.ว่า เรื่องที่จะไปดำเนินคดีตนไม่ขอตอบ ส่วนที่ ส.ส.อภิปรายในประเด็นที่ไม่อยากให้ ส.ว.ไปมีส่วนในกฎหมายปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ นั้น เป็นเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูปก็ขึ้นอยู่กับรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้อย่างไร ส.ว.ก็ต้องทำตาม ถ้าบัญญัติไว้เรื่องใดต้องทำอย่างไรบ้าง กฎหมายอะไรที่ต้องประชุมร่วมกันก็ต้องทำตาม ส่วนอะไรที่ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ดังนั้น จะทำผิดจากรัฐธรรมนูญไม่ได้ เป็นสมาชิกรัฐสภาจะทำผิดไม่ได้ นอกจากว่าจะไม่พอใจเรื่องอะไรกันก็ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องนั้น
เมื่อถามมว่า ส.ส.กังวลว่า ส.ว.จะมีอำนาจเหนือ ส.ส. นายพรเพชร กล่าวว่า จะไปอยู่เหนือได้อย่างไร เพราะกฎหมายทุกฉบับต้องเสนอมาที่ ส.ส.ก่อน ส.ว.เพียงแต่กลั่นกรอง หากมีปัญหาขึ้นมาก็จะต้องมีกระบวนการแก้ไขปัญหา ซึ่งตนยังไม่เห็นว่า ส.ว.จะไปมีอำนาจเหนือ ส.ส.ได้อย่างไรในกระบวนการร่างกฎหมาย
ส่วนญัตติในการตรวจสอบการตั้ง ส.ว.สามารถทำได้หรือไม่นั้น นายพรเพชร กล่าวว่า ต้องไปยื่นญัตติต่อ ส.ส.แล้วตนจะไปวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างไร เพราะตนเป็น ส.ว.ท่านจะใช้ดุลยพินิจอย่างไรก็เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร
เมื่อถามว่า ตามกระบวนการต่างๆ ถือว่าทำถูกต้องตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่ว่าจะ ส.ส.หรือ ส.ว.ถ้าจะต้องพิจารณาจะต้องทำไปตามหลักกฎหมาย ยึดมั่นในหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญ และดำเนินการไปตามนั้น ต่อข้อถามว่า ขั้นตอนการแต่งตั้งหรือการสรรหาเสร็จสิ้นไปหมดแล้ว การตรวจสอบย้อนหลังสามารถทำได้หรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะว่าจะมีขั้นตอนอะไรก็แล้วแต่ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย
เมื่อถามอีกว่า กรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ ส.ว.กรณีการถือครองหุ้นสื่อ จะส่งผลต่อการปฏิบัติงานของ ส.ว.หรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า เรื่องนี้นายเรืองไกร เสนอไปที่ กกต.และ กกต.คงจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งตนก็ยังไม่ได้เห็นรายละเอียดของคำร้องดังกล่าวว่ายื่นไปว่าอย่างไร ส่วนระยะที่ ส.ว.ต้องโอนหุ้นก่อนเข้ารับตำแหน่งนั้น ถ้าพูดตามความเห็นของตน กระบวนการสรรหาของ ส.ว.แตกต่างจากของ ส.ว.ตามรัฐธรรมนูญ เพราะ ส.ว.มีกระบวนการที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะต้องเสนอเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ผู้ที่จะเป็น ส.ว. ดังนั้น ตนมีความเห็นว่าผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ในการโปรดเกล้าฯ จะต้องตรวจดูคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการเสนอให้เป็น ส.ว.ว่าขาดคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามหรือไม่ ก็ต้องถือเป็นวันนั้น
"เอาง่ายๆ คงทราบว่ามีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และรัฐมนตรีหลายคนได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง ส.ว.ซึ่งต้องลาออกก่อน ซึ่งตนจำได้ว่าส่วนใหญ่ลาออกก่อนวันที่ 8 - 9 พ.ค.เป็นอย่างช้า ดังนั้น ถือว่าได้ปฏิบัติตามถูกต้องแล้ว คุณสมบัติข้อนี้ก็สมบูรณ์ เพราะเกิดขึ้นก่อนหัวหน้า คสช.จะเสนอรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าหัวหน้า คสช.นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ วันไหน รู้เพียงว่า เมื่อ คสช.แจ้งว่าจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ก็ขอให้ลาออกจากตำแหน่งเดิม" นายพรเพชร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี