เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2562 ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรคทั้ง13คน โดยได้หารือถึงวันประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค ที่จะเลือกหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการประชุมว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการ ทำให้กรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันได้พ้นตำแหน่งทั้งคณะ มีรักษาการหัวหน้าพรรคทำหน้าที่เพื่อเตรียมเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่วันที่12ก.ค.เวลา10.00น. โดยองค์ประชุมประกอบด้วย มีรักษาการกรรมการบริหารพรรค ผู้แทนภาค ผู้แทนสาขา ตัวแทนประจำจังหวัด ส.ส.136 อดีตรัฐมนตรี โดยข้อบังคับกำหนดไม่ต่ำกว่า 250คน จะมีการประชุม มีวาระการประชุมวาระเดียวคือ เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ จากนั้น หัวหน้าพรรคจะเลือกรองหัวหน้า เลขาธิการพรรค นายทะเบียนพรรค โฆษกพรรค กรรมการบริหารพรรค ไม่เกิน29คน กระบวนการจะแล้วเสร็จกลางเดือนก.ค. มีผู้นำฝ่ายค้านไปทำหน้าที่ในวันที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในส่วนของกระแสข่าวนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น นายสมพงษ์ ก็เป็นคนหนึ่งที่มีสมาชิกเสนอ ซึ่งในวันที่ 12ก.ค.จะรู้ว่าใครเป็นหัวหน้าพรรค เช่นเดียวกับตำแหน่งเลขาธิการพรรค ที่ต้องผ่านกระบวนการให้บุคลากรในพรรคเลือก ตนเป็นเลขาธิการพรรค ตั้งแต่สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ทำต่อเนื่องมา ผ่านช่วงวิกฤติการเมืองตั้งแต่ช่วงชัตดาวน์ประเทศ ประคับประคองพรรคผ่านพ้นมาถึงช่วงรัฐประหาร ดูแลพรรคมาถึงการเลือกตั้ง24มี.ค. แม้จะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ก็ได้ร่วมมือทำงานกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด นำพาพรรคในช่วงมีวิกฤติการณ์ อยู่ในตำแหน่งมายาวนานพอสมควร ก็ได้เวลาที่พรรคควรหาคนมาทำหน้าที่ เป็นเรื่องของคนรุ่นหลัง แบกรับภารกิจต่อไป ไม่ได้ไปไหน ยังสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตย จะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆในกรรมการบริหารพรรค ไม่คิดจะย้ายพรรค ยังเชื่อมั่นในสิ่งที่พรรคเพื่อไทยดำรงอยู่ ถือว่าเราผ่านอะไรมามาก ตอนนี้ถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน อาจไปช่วยผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เป็นฝ่ายสนับสนุนให้ผู้นำฝ่ายค้านของพรรค อย่างไรก็ดีเพื่อไทยอยู่ในสถานการณ์พิเศษต้องระมัดระวังทางการเมืองอย่างสูง ถูกยุบมา2-3ครั้งแล้ว ที่เราจะทำคือ ทำอย่างไรที่รักษากฎกติกาทางการเมืองและอยู่ด้วยความปลอดภัยด้วย ข้อบังคับพรรคที่สามารถมีกรรมการบริหารพรรคได้ถึง 29คน ถือว่าไม่มาก ไม่น้อย ส่วนตัวอยากให้กรรมการบริหารเป็นส่วนผสมกันระหว่าง ส.ส. นักการเมืองที่มีประสบการณ์ นักการเมืองคนรุ่นใหม่ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้บริหารพรรคชุดใหม่จะปรับเปลี่ยนอย่างไร
“ความเป็นนักการเมืองที่ยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตย อยู่ตรงไหนก็เป็นและทำงานได้ ไม่เกี่ยวกับตำแหน่ง ไม่อยากเห็นการแย่งชิงอำนาจ การเมืองสมัยใหม่ควรใช้ตำแหน่งหน้าที่ที่เป็นอยู่ สร้างประโยชน์ มนุษย์เราอาจมีกิเลส อาจจะอยากต้องการตำแหน่ง ผมไม่ต้องมีตำแหน่งก็ทำงานได้ ถ้ายังมีเรี่ยวแรงก็ยังทำงานต่อไป ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งอะไร ไม่ว่าเขาจะอยากใช้เราหรือไม่ใช้เราก็ตาม แต่ผมคิดว่ายังสามารถทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยได้”นายภูมิธรรมกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี