เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2562 เฟซบุ๊กแฟนเพจ "อนาคตใหม่ - ปีกแรงงาน" ซึ่งเป็นเพจในเครือพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เผยแพร่บทความวิพากษ์วิจารณ์นโยบายจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในช่วงรัฐบาลทหาร โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ด้วยการยกเลิกจุดผ่อนผันที่เคยอนุญาตไปเป็นจำนวนมาก ว่ากระทบต่อคนฐานรากอย่างมากเพราะไม่มีพื้นที่อื่นที่มีศักยภาพในการค้าขายไว้รองรับ พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่าบางพื้นที่ไม่ถูกไล่รื้อโดยอ้างว่าเป็นคลาดท่องเที่ยว ดังนี้
ผู้ค้าขายหาบเร่แผงลอยได้รับผลกระทบจากนโยบายจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยริมถนนและทางเท้าของรัฐบาล คสช.เป็นอย่างมาก เมื่อครั้งปี 48 ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) , กทม. และสน.ท้องที่ ร่วมกับชาวบ้าน ทำประชาคม ประชุมเห็นชอบว่าพื้นที่นั้นๆควรให้ได้รับการทำการค้าได้ จึงมีการประกาศพื้นที่ผ่อนผันให้ค้าขายได้ชั่วคราว
ถัดมาปี 54 มีการให้ยกเลิกและหารือจุดผ่อนผันใหม่อีกครั้ง และเมื่อเกิดรัฐประหารปี 57 คสช.ทำนโยบายนี้ขึ้นมาด้วยมาตรการที่ค่อนข้างเด็ดขาด คือ ยกเลิกจุดผ่อนผันหลายร้อยจุด โดยเริ่มจากไล่รื้อจุดผ่อนผันที่มีผู้ค้าไม่ถึง 15 รายก่อน จนกระทั่งปี 59 เป็นต้นมา ทางกทม.มีการเข้มงวดไล่รื้อมากยิ่งขึ้นและมีคำสั่งให้ยกเลิกการผ่อนผันทั้งหมด
ตั้งแต่ ม.ค.2560 เป็นต้นไป จาก 644 จุดทั่ว กทม. ปัจจุบันเหลือค้าง 232 จุด โดยเจ้าหน้าที่มีเอกสารเซ็นต์ยินยอมให้ตัวแทนผู้ค้าขายเซ็นต์รับ แต่ตัวแทนคนดังกล่าว ทางผู้ค้าขายในพื้นที่นั้นๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับรู้และลงมติยินยอมให้เป็นตัวแทนไปเซ็นต์ไม่มีการประชาคม มีเพียงการอ้างอิงข้อมูลจาก กทม.ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นชอบ และใช้มาตรา 20 วรรค 1 พรบ.รักษาความสะอาด พ.ศ.2535 (พื้นที่สาธารณะฟุตบาทห้ามทำการค้า ห้ามตั้งวางสินค้า) และมาตรา 20 วรรค 2 (เว้นเสียแต่ว่าได้รับการยกเว้น) และจะมีการจัดพื้นที่ค้าขายแห่งใหม่ให้
แต่จนถึงขณะนี้ผู้ค้าขายกลับไม่ได้รับการชดเชยอย่างเป็นธรรม เมื่อมีการทำหนังสือทวงถาม ทาง กทม.แจ้งว่าไม่สามารถชดเชยพื้นที่ค้าขายใหม่ให้ได้ เนื่องจากผู้ค้าขายเป็นการเข้ามาค้าขายกันเอง บนพื้นที่ที่ไม่ใช่จุดถาวร ผู้ค้าขายมีการรวมกลุ่มกัน โดยลงขันเงินเพื่อเรียกร้องศาลปกครอง ทางศาลให้การคุ้มครองเพียง 60 วันเท่านั้น ผู้ค้าขายที่ไม่มีรายได้จึงไม่สามารถหาเงินมาช่วยกันเรียกร้องได้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด หรือมีพื้นที่ทำกิน ทำให้ต้องถอนฟ้องไป
และเคยรวมกันไปยื่นสำนักนายก ,กทม. ,มหาดไทย หรือแม้กระทั่งเดินเรียกร้องร่วมกับ UN นายก จึงส่งเรื่องให้มหาดไทย มหาดไทยส่งเรื่องไปยังกทม. ทางกทม.มีการทำหนังสือแจ้งว่าไม่สามารถให้กลับมาค้าขายได้อีกและเรื่องได้เงียบหายไป ผู้ค้าขายต้องหาเงินเพิ่มเพื่อไปเช่าพื้นที่ใหม่ในการทำอาชีพ แต่ปัจจัยในเรื่องค่าเช่าพื้นที่และการเข้าถึงของคนซื้อ ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะยาวได้
ซ้ำยังเกิดหนี้ สุดท้ายผู้ค้าขายจึงกลับมาสู่พื้นที่ค้าขายเดิม โดยใช้การแอบหรือลักลอบค้าขาย ขณะที่ฝ่าฝืนมีโทษตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 เจ้าหน้าที่เทศกิจมีอำนาจกล่าวตักเตือนไปจนถึงจับเปรียบเทียบสูงสุด 2,000 บาท ในขณะเดียวกันบางจุดผ่อนผันใกล้เคียงกลับไม่ถูกไล่รื้อโดยแจ้งว่าเป็นตลาดท่องเที่ยว นโยบายนี้ไม่มีมาตรการรองรับที่ถูกต้องชัดเจน และไร้ประสิทธิภาพในการจัดระเบียบ ส่งผลกระทบวงกว้างไม่เพียงแต่อาชีพค้าขายแผงลอยที่ไม่มีพื้นที่ทำกินเท่านั้น
ผู้ค้าขายต้องการให้ความร่วมมือกับภาครัฐขอเพียงมีมาตรการที่ชัดเจนและเยียวยาความสูญเสียจากมาตรการดังกล่าว เพราะผู้ค้าส่วนมากไม่ได้มีรายได้ที่สูงเพียงพอเลี้ยงชีพเท่านั้น อาจมีมายาคติว่าผู้ค้าบางส่วนมีฐานะดีนั่นเป็นเพียงส่วนน้อย ส่วนมากแล้วผู้ค้ามีภาระในชีวิตและมีรายได้ไม่พอรายจ่าย เช่นเดียวกับแรงงานนอกระบบทั่วไปในประเทศนี้กว่า 20 ล้านกว่าคนทั่วประเทศที่คุณภาพชีวิตย่ำแย่ไม่มีหลักประกันรายได้และสวัสดิการที่ดีจากภาครัฐ
ข้อเสนอของผู้เข้าร่วมแสดงความเห็น 1.จัดหาพื้นที่รองรับอย่างถูกต้อง ชัดเจน ก่อนการไล่รื้อพื้นที่ – พื้นที่ที่ไม่เป็นปัญหาการจราจร และไม่เป็นปัญหาต่อทางเท้าให้คนเดินได้ มีระเบียบการ มีการกำหนดจุด กำหนดเวลาค้าขาย หรือมีการลงทะเบียนให้ถูกต้องชัดเจน และไม่ให้มีกลุ่มคนเรียกรับผลประโยชน์ หรือเจ้าหน้าที่สามารถใช้อำนาจกันพื้นที่ให้คนของตนเข้าค้าขายได้ 2. จัดระเบียบและความสะอาดของพื้นที่ที่ให้ค้าขาย - ให้พื้นที่มีน้ำ ไฟ และจุดชำระล้างให้ชัดเจน บริเวณพื้นที่ค้าขายอาหารควรให้มีเครื่องดักไขมัน เพื่อความสะอาดและความเป็นระเบียบในการอยู่ร่วมกันในสังคมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี