‘ณัฐวุฒิ’ดีใจหลาย เผยศาลยกฟ้อง7จำเลยเผาศาลากลาง
เมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม 2562 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ขอแสดงความยินดี 7 จำเลยคดีเพลิงไหม้ศาลากลาง จ.มุกดาหาร เมื่อปี 2553 ต่อสู้คดีพิสูจน์ความจริงมาหลายปี ช่วยเหลือดูแลกันมาตามกำลัง
วันนี้ศาลพิพากษายกฟ้อง
ดีใจหลาย พี่น้องเอ๊ย ....
วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก “ยูดีดีนิวส์” ซึ่งเกาะติดความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) รายงานว่า ศาลฎีกามุกดาหารอ่านคำพิพากษา “ยกฟ้อง” จำเลยคดีเพลิงไหม้ศาลากลางจังหวัดมุกดาหารเมื่อปี 2553 ทั้ง 7 คน หลังจากได้ต่อสู้คดีพิสูจน์ความจริงมาเป็นเวลายาวนานร่วม 9 ปี ซึ่งศาลได้พิจารณาจากพยานทั้งโจทย์และจำเลยทั้งหมดแล้ว จึงได้พิพากษายกฟ้องทั้ง 7 คนไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ท่ามกลางความปลาบปลื้มใจของจำเลยทั้ง 7 คนและครอบครัว รวมทั้งทีมทนายความที่ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์
เมื่อย้อนเหตุการณ์ไปในช่วงสายของวันที่ 19 พ.ค. 53 มีการเผายางหน้าศาลากลางจังหวัด ผู้ชุมนุมขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อเจรจาขอตั้งเวทีชุมนุมกดดันรัฐบาลให้ยุติสลายการชุมนุมในกรุงเทพฯ แต่ไม่ประสบผล ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจ ปีนรั้วเข้าไปในศาลากลางและลำเลียงยางเข้าไปวางตรงทางเข้า มีการพยายามโยนไฟเข้ากองยาง แต่ก็มีการห้ามปรามและช่วยกันดับไฟ จนกระทั่งมีวัยรุ่นกลิ้งยางเข้าไปใกล้อาคารหลังเก่า จากนั้นก็เกิดไฟลุกแล้วลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุมและดับไฟ
อย่างไรก็ตาม มีการจับกุมผู้ชุมนุมในที่เกิดเหตุ 16 ราย ในจำนวนนี้มี 1 รายเป็นเยาวชน โดยผู้ชุมนุมหลายรายระบุว่าเจ้าหน้าที่ใช้กระบองทุบตีทำร้ายร่างกายระหว่างจับกุม โดยศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม เม.ย. - พ.ค. 53 (ศปช.) กล่าวถึงเหตุจับกุมในวันนั้นว่า
“ทั้งหมดถูกควบคุมตัวรวมกันไว้ในรถผู้ต้องขังของตำรวจ บริเวณกลางลานซีเมนต์หน้าอาคารศาลากลางหลังเก่าซึ่งถูกไฟไหม้ไปแล้ว เป็นเวลา 2 คืน โดยไม่มีการปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นถูกนำไปขังที่เรือนจำมุกดาหารด้วยข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์และบุกรุกสถานที่ราชการ ในจำนวนคนที่ถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บและถูกจับกุมในช่วงสลายการชุมนุมทั้ง 16 คนนี้ ในที่สุดอัยการสั่งไม่ฟ้อง 1 คน และศาลพิพากษายกฟ้องถึง 10 คน”
อย่างไรก็ตาม มีการตามจับกุมเพิ่มเติมอีกภายหลังจนจำเลยในคดีนี้มีถึง 29 คน รวมยกฟ้อง 16 คน ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 13 คน ๆ ละ 20 ปี ส่วนคดีเยาวชนนั้นขึ้นศาลเยาวชน พิพากษาให้มีความผิดฐานบุกรุกและให้คุมประพฤติ ในระหว่างที่คดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์ นายประคอง ทองน้อย 1 ใน 13 จำเลยได้เสียชีวิตลง
ต่อมา 30 ก.ย. 58 ศาลอุทธรณ์มุกดาหารได้พิพากษาลดโทษเหลือ 1 ใน 4 คงเหลือโทษจำคุก 15 ปี และเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 60 นายดวง คนยืน ก็ได้เสียชีวิตอีกหนึ่งคนหลังจากถูกเรือนจำส่งมารักษาตัวเนื่องจากเป็นมะเร็งที่ถุงน้ำดีและตับระยะสุดท้าย โดยนางแก้ว คนยืน ผู้เป็นภรรยาได้กล่าวว่าทางเรือนจำจังหวัดมุกดาหารได้ส่งตัวนายดวงมาที่โรงพยาบาลจังหวัดมุกดาหารก่อนนายดวงเสียชีวิตนานสองเดือนเศษ
มาถึงวันนี้ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษายกฟ้อง นับเป็นเวลายาวนานนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อ 19 พ.ค. 53 และในที่สุดก็ได้พิสูจน์ความจริงว่า “คนเสื้อแดงไม่ได้เผาศาลากลางจังหวัด” “นปช.ไม่ได้เผาเซ็นทรัลเวิลด์” แต่ยังมีคนบางกลุ่ม, สื่อบางค่าย ยังใช้วาทะกรรม “เผาบ้านเผาเมือง” เพื่อสร้างความเกลียดชังกันในสังคมไทยและหวังผลทางการเมืองต่อไปโดยไม่ได้สนใจเลยความวาทะกรรมดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี