เดือดแล้ว!“เสรีพิศุทธ์”สุดกลั้น ส่งทนายฟ้องหมิ่น“หมอระวี”ให้ข่าว“พวกไม่เอาสถาบัน” ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องเช้าวันที่ 26 ส.ค.
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 กรกฏาคม 2562 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย มอบอำนาจให้ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา
กรณีเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 เวลากลางวัน จำเลยได้กระทำผิดต่อกฎหมาย ด้วยการแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนและประชาชนทั่วประเทศตอนหนึ่งว่า “การต่อสู้ทางการเมืองครั้งนี้อาจมองในแง่หนึ่งได้ว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายเอาสถาบันกับไม่เอาสถาบัน ดังนั้นสมาชิกพรรคของเรา จะมีมติให้เราเลือกข้างที่รักษาสถาบัน โดยพรรคพลังธรรมใหม่จึงต้องประกาศจุดยืนตามเสียงข้างมากของสมาชิกพรรคทั่วประเทศที่จะเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐในการจัดตั้งรัฐบาล”
ทั้งๆที่ความจริงแล้ว พรรคการเมืองของโจทก์และพรรคการเมืองอื่นๆรวม 7 พรรคร่วมกันแถลง เพื่อแสดงจุดยืนทางการเมือง เป็นแนวร่วมต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อไปอีก โดยโจทก์และกลุ่ม7 พรรคการเมืองเรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย ได้กล่าวอยู่เสมอว่าเป็นฝ่ายที่ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่เคยนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ในการหาเสียงตามที่ถูกกล่าวหาให้ร้ายจากพรรคการเมืองอื่น
แต่จำเลยพยายามเอาใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเหตุคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) คำนวณให้จำเลยได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งๆที่จำเลยมีคะแนนเพียง 350,099 คะแนน ต่ำกว่าคะแนนที่พึงมี 71, 065 คะแนนเสียอีก ด้วยการใส่ร้ายโจทก์และพรรคการเมืองอื่นๆว่า “เป็นฝ่ายไม่เอาสถาบัน”
ทั้งนี้ คำว่าไม่เอาสถาบันนั้นเมื่อนำมาใช้กับความหมายรวมกับข้อความทั้งหมดที่จำเลยกล่าวมีความหมายในลักษณะแบ่งพวกแบ่งฝ่ายทางการเมือง มีเพียงความเห็นความหมายเดียวคือไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น
ข้อความที่จำเลยกล่าวทั้งหมด ย่อมหมายความว่า เหตุที่จำเลยและสมาชิกพรรคของจำเลยไม่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับโจทก์และพรรคการเมืองอื่นๆรวม 7 พรรค แต่ไปเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐนั้น เนื่องจากโจทก์เป็นหนึ่งในพรรคการเมือง 7 พรรคที่เป็นฝ่ายไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ คิดที่จะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น เพราะความจริงแล้วโจทก์และสมาชิกพรรคทุกคนมีความจงรักภักดีเทิดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศไทย ดังนั้นประชาชนชาวไทยจึงมีหน้าที่ต้องปกป้องรักษาไม่ให้บุคคลใดมาล้มล้างทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์
ข้อความที่จำเลยกล่าวจึงทำให้โจทก์และสมาชิกพรรคโจทก์ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ทำให้ประชาชนทั่วไปในสังคมเข้าใจว่าโจทก์เป็นพรรคการเมืองที่ไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่เทิดทูนและไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
การกระทำของจำเลยจึงเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ด้วยการโฆษณา โจทก์จึงนำคดีมาฟ้องขอให้ศาล ออกหมายเรียกจำเลยมาแก้ต่างคดีและพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326และ 328 ด้วย
ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำ อ.172 9/62 และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 26 สิงหาคม เวลา 9.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี