“เรืองไกร” จี้ “บิ๊กตู่” ใช้ม.44 ขวาง “อุตตม” นั่งรัฐมนตรี ชี้ ไม่มีความเหมาะสม ปมเอี่ยวคดีปล่อยกู้กรุงไทย
8 กรกฎาคม 2562 ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อทักท้วงกรณีนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มีกระแสข่าวจะเป็นรัฐมนตรี มีความไม่เหมาะสม
โดยนายเรืองไกร กล่าวว่า นายอุตตม มีส่วนในการปล่อยกู้ให้กับกลุ่มบริษัท กฤษดามหานคร ซึ่งแม้นายอุตตม จะชี้แจงว่า เขาไม่ผิด แต่การพิจารณาเรื่องนี้ว่า ถูกหรือผิดหรือไม่นั้น ควรพิจารณาจากพยานหลักฐานและคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นหลัก โดยคดีดังกล่าวเกิดขึ้นสมัยที่นายอุตตม เป็นกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย และในคำพิพากษา ตอนหนึ่งระบุว่า “นอกจากคณะกรรมการบริหาร จะมีเจตนาฝ่าฝืนประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องการให้สินเชื่อที่เล็งเห็นได้ว่า จะเรียกคืนไม่ได้ ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2532 และคำสั่งธนาคารกรุงไทย ที่ ร.222/2545 เรื่องนโยบายสินเชื่อ ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2545 ข้อ 3.1.3 ข้อย่อย 2 ก. แล้ว คณะกรรมการบริหารยังมีเจตนาช่วยเหลือ ให้จำเลยที่ 19 ได้รับอนุมัติสินเชื่อจำนวนถึง 9,900,000,000 บาท โดยมิได้รักษาประโยชน์ของธนาคารผู้เสียหาย” ดังนั้น เมื่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 160 (4) บัญญัติไว้ชัดเจนว่า รัฐมนตรีต้องมีความชื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จึงต้องพิจารณาว่า นายอุตตมมีความเหมาะสมหรือไม่ ประกอบกับ คสช. เคยใช้มาตรา 44 ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในกรณีที่มีลักษณะใกล้เคียงกับกรณีเช่นนี้หลายครั้ง จึงควรนำมาพิจารณาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายตามมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เจตนาของการยื่นหนังสือครั้งนี้คืออะไร ในเมื่อคณะกรรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ไม่ชี้มูลว่า นายอุตตม มีความผิด และมีมติตีตกข้อกล่าวหาไปแล้ว นายเรืองไกร กล่าวว่า หลังการรัฐประหาร 2549 คตส. ได้ใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งคำกล่าวหาที่ตีตกนั้น ไม่ใช่คำสั่งชี้ขาดทางคดี การไม่สั่งฟ้อง ศาลจึงลงโทษไม่ได้ แต่เมื่อศาลตัดสินเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2558 แล้ว ก็เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่ต้องดำเนินการเอาผิดต่อ แต่เหตุใดจึงไม่ทำ ตนคิดว่า คำถามนี้ควรถูกถามมากกว่า
“เมื่อศาลฎีกาชี้แล้วว่ากรรมการบริหารทั้ง 5 คนมีพฤติการณ์ฝ่าฝืนประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ศาลไม่ได้บอกตรงไหนเลยว่า นายอุตตมไม่ผิด ดังนั้น ไม่ว่า คตส.หรือแบงก์ชาติจะกล่าวหาหรือไม่กล่าวหา เมื่อศาลวินิจฉัยแล้วว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดจาก 5 ท่าน ก็จำเป็นต้องดำเนินการ” นายเรืองไกร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี