"บิ๊กช้าง"แจงกระทู้เด็กอนค.ปมเงื่อนไขคุ้มครอง"จ่านิว" ยันจนท.ไม่มีอำนาจให้หยุดเคลื่อนไหว หากทำด้วยความบริสุทธิ์ใจและตามกรอบรธน.
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 ที่หอประชุมทีโอที ถ.แจ้งวัฒนะ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งในวาระพิจารณากระทู้ถามสด นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ตั้งกระทู้ถามสดไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการติดตามนักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมกับสั่งให้ยุติการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว ซึ่งถูกคนร้ายรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ และเมื่อระยะเวลาหนึ่งมีเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยกับนายสิรวิชญ์ ให้หยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อแลกกับการคุ้มครองของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตอบกระทู้ดังกล่าวแทน พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด โดยเฉพาะการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยยืนยันว่า รัฐบาลคำนึงถึงหลักการของกฎหมายที่บุคคลเสมอกันตามกฎหมาย และมีสิทธิเสรีภาพที่จะเคลื่อนไหวและได้รับความคุ้มครอง สำหรับคดีนายสิรวิชญ์นั้น คาดว่าเร็วๆ นี้ จะออกหมายจับได้ หลังจากสอบพยานไปทั้งสิ้น 15 ปาก และสืบสวนไปมากแล้ว ทั้งนี้ กรณีที่ถูกตั้งเป็นประเด็นคำถามนั้นมีรายละเอียด 2 ส่วน คือ ส่วนของกรมคุ้มครองสิทธิ ฐานะนายสิรวิชญ์เป็นผู้เสียหาย
ดังนั้น ต้องได้รับค่าตอบแทนและได้รับการคุ้มครองพยาน และส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดูแลคุ้มครองตามที่ร้องขอ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ทั้งนี้ ยืนยันเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถสั่งห้ามให้บุคคลงดการแสดงออกทางการเมืองหากเป็นการเคลื่อนไหวที่บริสุทธิ์ใจ และตามกรอบของรัฐธรรมนูญและกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมทางการเมือง
"เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ห้ามให้เคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะไม่มีอำนาจหน้าที่จะห้ามได้ หากประชาชนใช้สิทธิการเคลื่อนไหวตามกฎหมายและบทบัญญัติรัฐธรรมนุญ ส่วนการติดตามถึงตัวนั้นผมไม่ทราบ แต่หากทำในเชิงบวก คือ ดูแลความปลอดภัย หากไปแล้วถูกทำร้ายอีกจะเกิดกรณีที่เกิดกับนายสิรวิชญ์อีกได้ ส่วนที่ คสช.ดำเนินการนั้นเป็นไปตามกรอบกฎหมายที่กำหนดไม่ได้ทำเกินอำนาจที่กฎหมายกำหนดไว้" พล.อ.ชัยชาญ กล่าว
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวด้วยว่า สำหรับการดูแลความปลอดภัยของประชาชนนั้น ตำรวจแต่ละท้องที่ได้พิจารณาและดูแลที่เข้มงวดมากขึ้น ทั้งนี้ ทราบมาว่ามีส่วนของนครบาลที่ดูแลบุคคลที่ร้องขอการดูแล จำนวน 76 คน ซึ่งการเข้าดูแลนั้นเป็นไปในเชิงบวก คือ การพบปะ และสอบถามถึงการเข้าดูแลประชาชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในท้องที่ที่รับผิดชอบ
ขณะที่มองว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้นเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของรัฐนั้น ตนยืนยันว่า หากเป็นการแสดงออกตามสิทธิ และเสรีภาพ ที่รัฐธรรมนูญกำหนด จะไม่ใช่เรื่องความมั่นคง แต่เหตุสำคัญที่เจ้าหน้าที่ต้องดูแลนั้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุกระทบกระทั่งกับฝ่ายที่เห็นด้วย หรือเห็นต่างของการชุมนุม ซึ่งอาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยกับประชาชน ซึ่งตนยืนยันว่า เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลประชาชนเพื่อความปลอดภัย และยึดความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นสำคัญ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี