เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2562 นายพงศา ชูแนม หัวหน้าพรรคกรีน และอดีตหัวหน้าหน่วยอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ อ.พะโต๊ะ จ. ชุมพร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ระบุว่าการที่รัฐบาลทหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แก้กฎหมายปลดล็อกให้ปลูกไม้มีค่าซึ่งเคยเป็นไม้หวงห้ามนั้นไม่ถือเป็นผลงาน คสช. หรือหน่วยงานราชการใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นผลงานของภาคประชาชนที่ต่อสู้อย่างต่อเนื่องมานับสิบปี ดังนี้

"เสวนายกเลิกไม้หวงห้ามตามมาตรา7 พ.ร.บ.ป่าไม้2484มีแต่ได้กับได้จริงหรือ;11/7/62เวทีลูกโลกสีเขียว เมื่อมีการตีกินอ้างผลงาน คสช./รมต.ทส./สนช./กรมป่าไม้ ว่าได้อาศัยช่วงจังหวะเวลาเหมาะสมเสนอปลดล็อกกฎหมายป่าไม้ที่ขุนนางราชการจัดให้ประชาชนเต็มๆ ฯลฯ โดยไม่มีสักประโยคว่าทุกอย่างเกิดจากการเรียกร้องของประชาชนมาก่อน จึงเสมือนการตีกิน ทำลายหลักฐานการต่อสู้ของพวกเราคนปลูกต้นไม้

ผมจึงต้องใช้โอกาสบอกประชาชนอีกครั้งในเวทีว่า ถ้าผมลุกขึ้นแล้วกล่าวว่าต้องขอขอบคุณ คสช.รมต.ทส.สนช. อธิบดีกรมป่าไม้ ที่ช่วยกันผลักดันการแก้กฎหมายที่ละเมิดสิทธิประชาชนเจ้าของต้นไม้มาตลอด78ปี ผมจะดูดี และอยู่เป็นมากๆ แต่มันเท่ากับผมได้สร้างนิสัยแย่ๆ ให้ประชาชนและร่วมกับขุนนางโกหกประชาชน ทำลายหลักฐานทางประวัติศาสตร์การต่อสู้แสนเหนื่อยหนักและยาวนานของประชาชน

นิสัยแย่ๆคือการเชื่อว่าปัญหาใดๆในแผ่นดินนี้ ราชการจะรับรู้และแก้ไขให้ทันการณ์ ประชาชนจะเป็นสุขภายใต้การปกครองนี้ และไม่ต้องลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องให้เหน็ดเหนื่อยเสียเวลา การต่อสู้เป็นเรื่องไร้สาระน่ารำคาญ รอไม่นานฟ้าก็ประทานให้ ในความจริงคือ การยกเลิกไม้หวงห้าม ไม่ได้เกิดจากความคิดและความหวังดีของ คสช.เพราะ คสช. มีแต่เพิ่มไม้หวงห้ามจาก 2ชนิด เป็น18ชนิดในที่ดินกรรมสิทธิ์

ไม่ใช่ความคิดกรมป่าไม้ เพราะตลอดเวลา 123 ปี กรมป่าไม้ไม่ปรากฏว่าจะมีอธิบดีคนไหนแม้แต่คนเดียวส่งหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าขอยกเลิกไม้หวงห้าม แต่ทั้งหมดเกิดจากการลุกขึ้นสู้เรียกร้องมายาวนานของพวกเรา จนรัฐบาลยากจะปฏิเสธ ไม่ใช่เพราะรัฐบาลคิดดีคิดได้ ผมไม่ต้องการคำขอบคุณหรือชื่นชมใดๆ เพียงแต่ ไม่ยอมให้ใครทำลายหลักฐานบิดเบือนหน้าประวัติศาสตร์ แค่ยกย่องขุนนางแต่จงใจปกผิดการต่อสู้ของพลเมือง"