ใกล้เข้ามาแล้วกับ วันแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) 25-26 ก.ค. 2562 โดย ครม. ชุดใหม่ยังคงมี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ในครั้งนี้ด้วยความที่เป็นนายกฯ จากการเลือกตั้ง ไม่ใช่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างตลอด 5 ปีที่ผ่านมา จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญ “ศึกซักฟอก” จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฝ่ายค้านแบบ “จัดหนัก-จัดเต็ม” แบบไม่มีอะไรต้องเกรงใจกัน
ซึ่ง 1 ในแกนนำ “ฝ่ายค้าน 7 พรรค” ที่ถูกจับตามองว่าจะสร้างสีสันในสภาได้อย่างมากแม้จะมี สส.ในสภาเพียง 10 เสียงนั่นคือ “วีรบุรุษนาแก” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ผู้มีลีลาการปราศรัยแบบ “ดุเดือดเลือดพล่าน” แต่ก่อนจะถึงวันนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปิดที่ทำการพรรคย่านบางขุนนนท์ ให้สัมภาษณ์พิเศษ “แนวหน้า” ในหลายเรื่องที่กำลังเป็นประเด็นการเมืองในขณะนี้
กรอบการทำงานของพรรคเสรีรวมไทย ในวันแถลงนโยบายรัฐบาล :
การทำงานต้องแบ่งกันตามสัดส่วนสส. ของแต่ละพรรค ซึ่งพรรคใหญ่อย่างเพื่อไทย อนาคตใหม่ เขาก็ต้องใช้สิทธิของเขามากหน่อย ซึ่งทางสภาก็ต้องคุยกับสมาชิกทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน แล้วจึงกำหนดขอบเขตว่ารัฐบาลใช้เท่าไหร่ ฝ่ายค้านใช้เท่าไหร่ จากนั้นจึงกำหนดกรอบเป็นสัดส่วนว่าพรรคไหนใช้เท่าไหร่ และเมื่อเราได้รู้ว่าพรรคเราได้เวลาเท่าไหร่ เราก็จะมาบริหารกันเอง ว่าลูกพรรคเราจะพูดได้กี่คน โดยจะพูดตามความรู้ของ สส. แต่ละคน
และผมในฐานะหัวหน้าพรรคจะพูดในภาพรวมของนโยบายอันไหนดี อันไหนไม่ดี ซึ่งเราจะเป็นกลาง สิ่งไหนเป็นนโยบายที่ดี เราก็สนับสนุน สิ่งใดที่รัฐบาลไม่พูดถึงและเป็นนโยบายของพรรคเราโดยเฉพาะ เราก็จะฝากให้เขาไปคิด ฝากไปทำ ซึ่งถ้าเขาเป็นรัฐบาลที่ดีเขาต้องเอาไปคิดไปปฏิบัติ แต่ถ้าเขาไม่เอาก็ใช้ไม่ได้ แต่เชื่อว่าเขาคงไม่พูดอย่างนั้น ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน
มองหน้าตาของรัฐบาลชุดใหม่อย่างไรบ้าง :
5 ปีที่ผ่านามา คุณทำงานผลเป็นอย่างไร ผมไม่ได้สรุปเอง แต่เอาข้อมูลจากสภาพัฒน์ ธนาคารแห่งประเทศไทย จากองค์กรระดับโลกต่างๆ มาสรุปให้ฟังว่าใน 5 ปี ที่คุณเป็นรัฐบาล มีอำนาจเด็ดขาด มีมาตรา 44 อยู่ในมือ คุณทำได้เท่านี้ แต่มาขณะนี้คุณต้องเอาพรรคการเมือง ต้องเอานักการเมือง ต้องแบ่งโควตา คุณจะบริหารนักการเมืองเหมือนตอนที่คุณแต่งตั้งคนของตัวเองก่อนนี้ มันไม่ได้แล้ว คุณจะชี้นิ้วสั่งเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว แล้วคุณจะทำได้หรือ
โดยเฉพาะรองนายกฯ ในรัฐบาลนี้ หลายคนก็คือคนเดิม อย่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่คุมเรื่องเศรษฐกิจมา แล้วเป็นอย่างไร อยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ ว่าคุณบริหารประเทศ คุณมีคนแค่นี้หรือ คนในประเทศไทยที่จะมาดูแลเศรษฐกิจให้ประเทศชาติ มีแค่นี้เองหรือ ทำไมต้องใช้คนเดิม ในเมื่อการบริหารประเทศที่ผ่านมา ทำได้เท่านี้ ทำไมคุณไม่เปลี่ยน หรืออย่างนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ผมเคยทำงานร่วมกับท่าน ก็เห็นว่าท่านเป็นคนเก่งพอพูดเรื่องไหนสามารถตอบได้เลย เพราะมีความรู้อยู่ในหัว
แต่ท่านคิดเพื่อประโยชน์ตนเองมากเกินไป นั่นคือการอยากมีอำนาจ อยากมีผลประโยชน์ในทุกๆ รัฐบาล เขาจึงต้องเอาใจผู้มีอำนาจ ดังนั้นคำพูดของนายวิษณุ จึงเบี่ยงเบนมาตลอดในช่วงหลังๆ เพื่อเอาใจผู้มีอำนาจ และให้เขาอยู่ในอำนาจได้ ซึ่งมันผิด ถ้าคุณยังทำอย่างนี้มันก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ เดี๋ยวนี้เขาเห็นนายวิษณุ ไม่ใช่นักกฎหมายแล้ว ไม่ใช่คนมีความหมาย ไม่ใช่คนที่น่าเคารพเชื่อถือแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ยังเอามาเป็นรองนายกฯ อีก
เสถียรภาพรัฐบาลจะอยู่อย่างไรเมื่อมีเสียงปริ่มน้ำ :
รัฐบาลมีเสียงในสภา 251 เสียง เกินกึ่งหนึ่งมาเพียง 1 เสียง ถ้ามีโหวตอะไรในสภาหากทั้ง 251 เสียง ยังโหวตให้ ก็ถือว่ายังชนะอยู่ แต่ถ้ามองไปที่การจัดตั้ง ครม. แล้วหน้าตาออกมาแบบนี้ มันมีความแตกแยกทั้งคนที่ได้และที่ไม่ได้ ความแตกแยกนี้ถ้าต่อไปมีการงดออกเสียง สมมุติแค่ 5 คนก็ตายแล้ว แต่ถ้าโมโหมากๆ ยกพรรคโหวตให้ฝ่ายตรงข้าม รัฐบาลจะอยู่ได้หรือ แต่เชื่อว่าเขาคงไม่แคร์ เพราะถ้าแพ้ในสภาก็มีทางเลือกคือลาออก หรือยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เพราะคิดว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 ยังอยู่
ถ้าเลือกตั้งมาใหม่ ได้เท่าไหร่ ก็ยังมีเสียง 250 สว. (สมาชิกวุฒิสภา) หนุนให้เป็นนายกฯ ได้อีก คนดีคิดอย่างนี้ได้หรือ ตอนนี้จึงมีคำพูดกันว่า เป็นนายกฯ ครั้งแรกก็ปล้นเขามา เป็นนายกฯ ครั้งที่สองก็โกงเขามา เดี๋ยวถ้าจะเป็นนายกฯ ครั้งที่สามก็จะมีอีก แล้วประชาชนจะทนได้หรือ เชื่อว่าประชาชนคงไม่ทนแล้ว จากการที่เรามีผู้นำประเทศอย่างนี้ คนเรานั้นไม้แก่มันดัดยาก จะเตือนอะไรเขาก็คงไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ ไม่มีทาง
“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เคยออกมาเปิดเผยว่าพรรคเสรีรวมไทยถูกดึงให้ไปร่วมรัฐบาล :
ครับ ตอนจัดตั้งรัฐบาล มีการมาติดต่อว่าจะให้หัวละ 30 ล้านบาท พรรคเรามีสส. 10 คน ก็ให้ 300 ล้านบาท แล้วจะให้ตำแหน่งรองนายกฯ กับผม แถมคิดคำตอบให้ด้วยว่าจะให้ผมคุมตำรวจ เพื่อจะได้ชี้แจงประชาชนได้ว่าจำเป็นต้องไปอยู่กับเขา เพราะต้องการแก้ไขปัญหาของตำรวจ เพราะถ้าเป็นฝ่ายค้านก็แก้ไม่ได้ เพราะเขาคิดว่า 251 เสียงคงไม่พอ แต่จะไปเอาพรรคเพื่อไทยหรืออนาคตใหม่มันเป็นไปไม่ได้ แต่เราทำไม่ได้ เพราะตอนหาเสียงเราพูดกับประชาชนว่าไม่สนับสนุนเผด็จการ
ในเมื่อเราไม่ยอมไป เขาจึงเล็งไปที่พรรคอนาคตใหม่ แต่ไม่ใช่ไปซื้อเขานะ ไปทำลาย จึงมีประเด็นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีปล่อยเงินให้พรรคตัวเองกู้ ซึ่งถ้าเขาทำลายพรรคอนาคตใหม่ได้ ยุบพรรคได้ คนก็จะกระสานซ่านเซ็น เขาก็จะช้อนได้ คิดว่า คนในพรรคอนาคตใหม่จะมีอุดมการณ์หมดหรือ ตอนนี้นายธนาธรดูแลอยู่ก็ยังอยู่ แต่พอพรรคล่มสลาย พวกที่เข้ามาโดยไม่คาดฝัน เพราะระบบเลือกตั้ง ได้เงินไป 5-10 ล้าน เขาก็เอา ผมจึงคิดว่ามันสกปรกไปหมด นึกไม่ถึงเลย
จะให้โอกาสรัฐบาลทำงานนานเท่าไร :
ผมคงต้องให้โอกาสรัฐบาลบริหารประเทศไปก่อน แต่โดยส่วนตัวนั้นไม่เชื่อมั่นเลย เพราะการตั้งรัฐมนตรีของเขา ผมเห็นว่าไม่เหมาะสมหลายคน โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่มีข่าวว่าค้ายาเสพติด คุณเอามาเป็นรัฐมนตรีได้อย่างไร แม้นายวิษณุจะตะแบงว่าถึงต้องโทษคดียาเสพติดแต่ไม่ใช่ศาลไทย มันไม่เกี่ยวกัน ในรัฐธรรมนูญเขาพูดถึงว่าเคยต้องคำพิพากษาจะในประเทศไหนก็ผิดทั้งนั้น
อีกทั้งใน พ.ร.บ.ความร่วมมือกันระหว่างประเทศทางอาญา เขาระบุชัดเจนว่าเมื่อต้องคำพิพากษาของศาลประเทศอื่น ก็เท่ากับว่าเหมือนต้องคำพิพากษาของศาลไทย นอกจากนี้รัฐมนตรีหลายคนก็เคยเป็นแกนนำ กปปส. ตกลง พล.อ.ประยุทธ์ คุณเป็นหัวหน้า กปปส. ตัวจริงใช่หรือไม่ หลายคนก็ถูกฟ้องข้อหากบฏ ก็เลยเคลือบแคลงสงสัยว่าการยึดอำนาจที่ผ่านมา ซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาประท้วงเพื่อให้ทหารออกมานั้นมันใช่หรือไม่ ซึ่งแค่คุณสมบัติเบื้องต้นของการเป็นรัฐมนตรีเขาก็ไม่เหมาะสมแล้ว เราจะเอาคนแบบนี้มาเป็นรัฐมนตรีหรือ
ประเทศเราที่ไม่เจริญ เพราะเรามีคนเป็นรัฐมนตรีที่ขาดคุณภาพ ที่ผ่านมารัฐมนตรีหลายคนมาจากระบบพรรค ระบบอุปถัมภ์ ระบบเครือญาติ บางคนไม่เคยเป็นรัฐมนตรี ไม่เคยผ่านงานบริหาร อาจมีบางคนเคยบริหารบริษัทมาบ้าง แต่การบริหารประเทศมันเป็นอีกอย่างหนึ่ง พ่อไม่เป็นให้ลูกเป็น พี่ไม่ได้เป็นก็ให้น้องเป็น เป็นการแบ่งโควตากัน ประเทศถึงไปไม่รอด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี