วันพุธ ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ผ่าเบื้องหลัง'สุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล' ย้อนอดีต'เอแบค'ป่วน!!

ผ่าเบื้องหลัง'สุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล' ย้อนอดีต'เอแบค'ป่วน!!

วันศุกร์ ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2562, 02.00 น.
Tag : สุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล เอแบค
  •  

กรณีที่มีมือดีไปร้องต่อผู้ตรวจผู้ตรวจการแผ่นดินเรื่องสัดส่วนกำลังผลิตกระแสไฟฟ้า จนทำให้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ปั่นป่วนทั้งระบบเมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และปรากฎว่า คนที่ไปร้องปรากฎชื่อ “สุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล”นั้น

“สุทธิพร”เป็นใครมาจากไหน?


รับรองว่า เมื่อได้รับรู้ข้อมูลแล้วจะต้องตกตะลึงอ้าปากค้างไปตามๆกันแน่นอน โดยย้อนหลังไปเมื่อปี 2558 ซึ่งในขณะนั้นได้ เกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้นมาอย่างรุนแรงภายในมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) ว่าใครกันแน่ที่เป็นอธิการฯตัวจริง ระหว่าง “ภราดาบัญชา แสงหิรัญ” อธิการบดี และ “สุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล” ซึ่งในเวลานั้นเป็นคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ และอ้างว่ามีอำนาจปฏิบัติหน้าที่รักษาการอธิการบดี โดยชนวนปัญหามาจากกรณีจัดซื้อเครื่องฝึกบินจำลอง (Simulator) สำหรับสาขาวิศวกรรมการบิน คณะวิศวกรรมศาสตร์

เหตุการณ์ในครั้งนั้น ได้ก่อให้เกิดการปัญหากันอย่างรุนแรง คณาจารย์เกิดความแตกแยก แบ่งออกเป็นฝักเป็นฝ่าย แต่ที่เกือบจะต้องพลอยฟ้าพลอยฝนรับความซวยไปด้วยก็คือ นักศึกษา ซึ่งเกือบจะไม่ได้รับปริญญาบัตร เพราะไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่มีอำนาจอนุมัติปริญญาบัตร

หนักข้อไปกว่านั้น ได้เกิดเหตุการณ์ทำร้ายคณาจารย์ และที่น่าตกใจยังมีการนำกลุ่มชายฉกรรจ์เข้าปิดล้อมมหาวิทยาลัย ร้อนไปถึง “พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ” รมว.ศึกษาธิการ ในขณะนั้น ต้องเข้ามาหย่าศึก ประกาศใช้อำนาจพิเศษ ตั้งคณะกรรมการเข้ามาควบคุมมหาวิทยาลัย ก่อนที่จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องราวและปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในที่สุด ก่อนที่จะได้ผลสรุปว่าฝ่ายบริหารเดิม ซึ่งก็คือฝ่ายของ “ภราดาบัญชา” บริสุทธิ์ กระทั่ง “สุทธิพร”ต้องยอมรามือ และถอยตัวเองออกจากมหาวิทยาลัยไปในที่สุดเนื่องจากหมดสัญญาจ้าง

เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับม.เอแบค จบไปแล้วก็จริง แต่ก็ยังทิ้งร่องรอยความบอบช้ำอันเกิดจากการกระทำของคนบางกลุ่ม และเมื่อพลิกแฟ้มข้อมูลหาข่าวทิ่เกิดขึ้นในขณะนั้นก็ยิ่งน่าตกใจ เพราะปี 2558 มีข่าวความรุนแรงจากกรณีนิ้เกิดขึ้นกับเอแบคถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2558

มีรายงานข่าวว่า “รศ.ดร.ประทิต สันติประภพ” ผอ.ห้องวิจัยเทคโนโลยีเครือข่าย คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.อัสสัมชัญ เดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ สน.หัวหมาก ว่าถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งมูลเหตุมาจากการที่เข้าไปสังเกตการณ์ “พล.ร.ท.วิทวัส ณ นคร” หัวหน้าแผนกวิชาแมคคาทรอนิกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.อัสสัมชัญ ที่กำลังสั่งการให้แผนกบริหารและทรัพยากรบุคคลทำตามคำสั่งของตน โดย พล.ร.ท.วิทวัส อ้างว่า “สุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล” คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ในเวลานั้น ซึ่งเป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการอธิการบดี ม.อัสสัมชัญ มอบหมายให้ตนมาดูแลแผนกบริหารและทรัพยากรบุคคล แต่เจ้าหน้าที่เองก็ไม่แน่ใจว่าจะทำตามคำสั่งดีหรือไม่เพราะคำสั่งแต่งตั้งรักษาการอธิการบดีนั้นถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเมื่อ รศ.ดร.ประทิต ยกมือถือขึ้นจะบันทึกภาพ จู่ๆ ก็มีชายฉกรรจ์ปรี่เข้ามาทำร้ายร่างกาย

เหตุการณ์ลอบทำร้ายคณาจารย์ในครั้งแรกผ่านไปไม่กี่เดือน ต่อมาในเดือนธันวาคม ได้เกิดเหตุการณ์โด่งดังไปทั่วประเทศเมื่อ “สุทธิพร” พร้อมกลุ่มชายฉกรรจ์ ได้พยายามเข้าปิดล้อมบริเวณประตูหน้าของ ม.อัสสัมชัญ

โดยเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 ธันวาคม ที่บริเวณหน้าประตูมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก (เอแบค) ซอยรามคำแหง 24 กทม.หลังจากเกิดกรณีความขัดแย้งของคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย จนเกิดความแตกแยกเป็นสองฝ่ายได้มี นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล อธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ พร้อมทนายความ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่า 20 นาย นำคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจากศาลแพ่ง ลงวันที่ 4 ส.ค.58 ว่า ห้ามมิให้บุคคล 5 คน ประกอบด้วย นายบัญชา แสงหิรัญ , นายวิทยา เจริญศรี , นายธนา กายพันธุ์เลิศ , นายวีระศักดิ์ อนุ สนธิวงศ์ และ นายสมพล ณ สงขลา ขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ ในฐานะรักษาการอธิการบดี แต่ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้ทำการขัดขวางไม่ให้ นายสุทธิพร พร้อมพวก เข้าไปด้านใน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้นำประกาศห้ามมิให้บุคคล ซึ่งประกอบด้วย นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล น.ส.นรนุช ไผ่แก้ว ดร.รุ่งศรี ว่องวิทวัส น.อ.ชำนาญ สอนแพง เข้าไปในมหาวิทยาลัย โดยนำมาติดบริเวณหน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย จากนั้นได้นำกุญแจมาล็อกประตูทางเข้า-ออกไว้ทุกด้าน ซึ่งมีการอ้างว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยห้ามมิให้บุคคลตามที่ประกาศ เข้ามาในมหาวิทยาลัย

ทั้งนี้ นายสุทธิพร ได้นำช่างกุญแจพร้อมเครื่องตัดเหล็ก เข้าทำการตัดโซ่ที่คล้องประตูทางด้านข้าง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ นายสุทธิพร กว่า 20 คน พยายามช่วยกันยกประตูออก จนเกิดการกระทบกระทั่งกัน โดยทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัย ได้นำกำลังมาขัดขวาง พร้อมใช้ถังดับเพลิง และน้ำมาทำการฉีดสกัด เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเข้าไปภายใน จนเหตุการณ์ชลมุนเกิดขึ้น

ต่อมาได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก และเจ้าหน้าที่ทหาร ร.12 พัน 2 รอ. จ.สระแก้ว นำกำลังประมาณ 30 นาย เข้าควบคุมสถานการณ์ โดยไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกัน ทั้งสองฝ่ายจึงแยกย้ายกันไป โดยทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยได้มีการตรึงกำลังไว้โดยรอบ

ต่อมาเวลาประมาณ 14.30 น.นายสุทธิพร พร้อมเจ้าหน้าที่ เดินทางกลับมายังหน้ามหาวิทยาลัยอีกครั้ง และได้พยายามใช้คีมตัดกุญแจประตูอีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชุดเก่าของทางมหาวิทยาลัย ได้นำถังดับเพลิงมาฉีดสกัด และมีการโต้เถียงกันเกิดขึ้น ท่ามกลางการเฝ้าระวังสถานการณ์จากตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (คฝ.บก.น.4) และเจ้าหน้าที่ทหาร

นี่คือ ข้อมูลข่าวสารในอดีต และเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธความเป็นจริงได้  ความจริงย่อมคือความจริงอยู่วันยังค่ำ และต่อมาก็อย่างที่รับทราบกันคือ “พล.อ.ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ”รมว.ศึกษาธิการ ในขณะนั้น ต้องใช้ “ยาแรง” สั่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเข้าควบคุมการบริหาร ม.อัสสัมชัญ ในที่สุด ก่อนจะมีการชำระสะสางตั้งกรรมการตรวจสอบสวน ก่อนจะมีคำตอบให้สังคมว่า ขั้วอำนาจผู้บริหารเดิม ซึ่งอยู่คนละฝั่งกับ “สุทธิพร”นั้นบริสุทธิ์ ส่วน “สุทธิพร” มีฐานะเป็นเพียงคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้หมดสัญญาจ้างและต้องออกจากมหาวิทยาลัยไป ก่อนจะหายหน้าหายตาไปจากสังคม และกลับมาปรากฎชื่อเป็นข่าวอีกครั้งด้วยการไปยื่นเรื่องร้องต่อผู้ตรวจผู้ตรวจการแผ่นดินเรื่องสัดส่วนกำลังผลิตกระแสไฟฟ้า จนทำให้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ปั่นป่วนทั้งระบบนั่นเอง!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

คกก.เยียวยาผู้เสียหายฯ มีมติจ่ายชดเชยเหยื่อซ้อมทรมาน3กรณี

'สุรเดช'ลุยพบเกษตรกรภาคเหนือ รับฟังปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ

'เต้น'มาแล้ว 50 ปี 'ทักษิณ-อิ๊งค์'ร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด

‘สมชัย’สวด‘อิ๊งค์’ ชี้พยักเพยิด-หัวเราะ ไม่ให้เกียรติ‘สื่อ’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved