ปิดฉากแถลงนโยบาย
‘บิ๊กตู่’ให้คำมัน
ยึดหลักนิติรัฐ-นิติธรรม
สุจริตเที่ยงธรรมโปร่งใส
เดินหน้ายุทธศาสตร์ชาติ
สั่งลาทีโอที-ใช้รัฐสภาใหม่
เสร็จสิ้นแถลงนโยบายรัฐบาล“บิ๊กตู่”ขอบคุณสมาชิกรัฐสภา ขอโทษหากพูดไปแล้วอาจไม่เหมาะสม ย้ำไม่โกรธ ลั่นมุ่งมั่นทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้คำมั่น ยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ความสุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใส เตรียมนำข้อเสนอแนะไปพิจารณา นัดชี้แจงส่วนราชการขับเคลื่อนนโยบายในเดือนสิงหาคมนี้ ปิดฉากใช้ห้องประชุม TOT เป็นครั้งสุดท้าย เตรียมใช้รัฐสภาใหม่
หลังจากสมาชิกรัฐสภาทั้งพรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคร่วมรัฐบาลและสมาชิกวุฒิสภาได้ร่วมอภิปรายติติง ท้วงติงพร้อมเสนอแนะต่อการแถลงนโยบายของรัฐสภา ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์อาชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่มีการอภิปรายอย่างต่อเนื่องเต็มที่เป็นเวลา2วันเศษ
โดยเฉพาะในช่วงท้ายนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายเรื่องหลักนิติรัฐนิติธรรมที่ต้องเขียนให้ชัดและปฏิบัติให้เป็นตัวอย่าง สอบถาม นายกรัฐมนตรีว่า มาตรฐานหน้าตารัฐมนตรีอยู่ในระดับนี้หรือไม่หากมีมาตรฐานเช่นนี้ก็ถือว่ามีปัญหา เคยมีคดีมัวหมอง สถานที่อโคจร สัตบุรุษไม่ควรไป ความน่าเชื่อถือ มีผลต่อการขับเคลื่อนนโยบาย
ตอบโต้เดือดช่วงท้ายอภิปราย
พร้อมยังอภิปรายพาดพิงนายอุตตม สาวนายน รมว.คลังกรณีคดีธนาคารกรุงไทยโดยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี เปลี่ยนตัวรัฐมนตรี ที่มีความเหมาะสมมากกว่านี้ ไม่ใช่คณะรัฐมนตรีสีเทา ทำให้เกิดการประท้วงของ นางกรณิช วามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐระบุว่า นายอุตตมคือเหยื่อของคนโกง ที่โกงเป็นระบบ โกงเป็นกระบวนการ มีนายใหญ่ที่เป็นนักโทษหนีคดี
จากนั้นนายพรเพชร วิชิตชลชัย ทำหน้าที่ประธานในประชุมได้ขอให้หยุดการประท้วงแล้ววินิจฉัยว่า กรณีการอภิปรายเรื่องนายอุตตมนั้นพูดกันบ่อยมาก ทุกคนในที่นี้ คงคิดได้ด้วยตัวเอง อย่าพูดซ้ำมากเพราะตอนนี้ก็ดึกแล้ว และได้เปิดโอกาสให้ นายสุทินอภิปรายต่อไปถึงเรื่องกัญชาเสรีขอให้เผยแพร่ ข้อยุติทางการแพทย์ให้ชาวบ้านได้รับรู้ให้ความรู้ในการนำมาใช้เพราะกัญชาไม่ได้รักษาทุกโรค ทุกรูปแบบ กัญชาก็คือยาเสพติดแต่วันนี้ค้นพบคุณค่าทางการแพทย์ การส่งเสริมให้ปลูกกัญชา ต้องระวังผลข้างเคียงทางสังคม
‘อุตตม’แจงยันคุณสมบัติครบถ้วน
หลังจากนั้น นายอุตตม ได้นำแผ่นชาร์ตมาประกอบการชี้แจงที่สมาชิกอภิปรายถึงความไม่เหมาะสมในการเป็น รมว.คลังโดยยืนยันว่าตนมีคุณสมบัติครบถ้วน บริสุทธิ์ เพราะไม่ใช่ผู้กระทำความผิด กรณีธนาคารกรุงไทย มีการไต่สวนทุกขั้นตอนจากองค์กรอิสระ ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานอัยการสูงสุดและศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และพิพากษาว่า ตนบริสุทธิ์ ไม่ได้กระทำความผิด โดยมีพยานหลักฐานที่พิสูจน์ได้อย่างชัดเจน สมาชิกสามารถมองได้ว่าตนมีความผิด หรือมัวหมอง แต่สุดท้ายสังคมจะเป็นผู้ตัดสิน
อย่างไรก็ดีนายอุตตมยังได้ชี้แจงไล่เรียงรายละเอียดของคดีตามไทม์ไลน์ ตั้งแต่ปี2546สะท้อนว่าหน่วยงานที่มีหน้าตรวจสอบ ทุกหน่วยงาน วินิจฉัยเช่นเดียวกันทั้งหมดว่า ตนไม่มีความผิดและขอยืนยันต่อรัฐสภาว่าจะรักษาผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ จะไม่ให้ผู้ใดมาทำลายประเทศชาติเด็ดขาด
นายกฯลั่นไม่โกรธ จะลุยทำงาน
ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงว่า“แม่ผมเป็นครู ภรรยาผมก็เป็นครู ไม่เห็นใครแสดงกิริยาแบบนี้กับผม ผมจะไม่โกรธ อยากฟังความเห็นที่มีประโยชน์ ผมทุ่มเททำงานมาตลอด5ปี นึกถึงสถานการณ์ที่ ผมเลือกไม่ได้บ้าง ถ้าผมทำไม่ดีทั้งหมด ผมจะเข้ามากระบวนการประชาธิปไตยแบบนี้ได้อย่างไร ผมทุ่มเทมาหลายปี จะมาจากกี่พรรค เป็นร้อยพรรค ผมก็จะทำงาน”
“วันนี้ติดหล่มประเทศมา10กว่าปีแล้วจะกลายเป็นประเทศล้มเหลว เหมือนบ้านหลังหนึ่ง กำลังจะพังลงไป ขอให้ช่วยกัน ก่ออิฐ ถือปืน การพูดจาใดๆ ต้องมีหลักการและเหตุผล ทุกคนตั้งใจมาทำงาน วันนี้มาแถลงนโยบายรัฐบาลใหม่ ยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่างเลย เราเคารพในกระบวนการรัฐธรรมนูญ จะทำงานหลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภา การที่รัฐสภาจะมีเกียรติหรือไม่มีเกียรติอยู่ที่คนนั่งอยู่ในรัฐสภา”นายกฯย้ำ
วิษณุยันนโยบายยึดหลักนิติธรรม
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณีนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่านโยบายรัฐบาลไม่มีหลักนิติธรรม โดยขอยืนยันว่า นโยบายระบุเกี่ยวกับการใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ยุติธรรม เสมอภาค เท่าเทียมและเป็นไปตามหลักนิติธรรม ในหน้า28รวมถึงหลักสิทธิมนุษยชน ที่ระบุว่าจะปฏิบัติตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และยืนยันถึงการทำหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ได้ให้ความเห็นทางกฎหมาย ที่มีผลต่อการตัดสินขององค์กรอื่น แต่เป็นการให้ความรู้ทางกฎหมายเท่านั้น ตามที่ให้สมญากันว่าเป็นรองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย
ย้ำขอโทษ ถ้าพูดไม่เหมาะสม
จนกระทั่งเวลา03.20น.ของรุ่งเช้าวันที่ 27 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลุกชี้แจงปิดท้ายการแถลงนโยบายรัฐบาลถึงในการใช้งบประมาณ โดยเฉพาะการกู้เงินเพื่อชดเชยงบประมาณ รวมถึงที่มางบประมาณจากงบประมาณแผ่นดิน เงินกู้ และการลงทุน ยืนยันว่านโยบายรัฐบาลไม่ได้เอื้อให้นายทุนเพราะเอกชนรับความเสี่ยงเอง ภาครัฐ แค่อำนวยความสะดวก ส่วนการนำไปสู่การปฏิบัติ ก็จะมีการทำแผนการของบประมาณ โดยผู้ดำเนินการ คือ กระทรวง ทบวง กรม หรือ เอกชนที่เข้ามาร่วมทุน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายในแถลงนโยบายรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า สิ่งที่พูดไป อันไหนอาจไม่เหมาะสม ก็ขอโทษ และต้องใช้เวลาปรับตัวเข้าหากันสักระยะหนึ่ง เชื่อว่า ทุกคนรักชาติ รักประชาชน ไม่มีใครเก่งกว่าใคร หาแต่เรื่องความเกลียดชัง ความขัดแย้งกันก็เป็นเรื่องของกฎหมาย แต่จะไม่ใช้เวลาเหล่านี้มาทะเลาะ เบาะแว้ง กันอีกต่อไป
ลั่นนโยบายก้าวตามโรดแมปชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงถึงนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินว่าหลายคนอาจจะมองว่านโยบายเลื่อนลอย ล่องลอยจับต้องไม่ได้ ซึ่งนโยบาย ที่ทำมา มีการคิดมาแล้ว แต่ที่แถลงไปเป็นกรอบนโยบายอย่างกว้างๆ แต่การขับเคลื่อนประเทศ จะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ นโยบายรัฐบาล แผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทการปฏิรูปประเทศ โดย แบ่งเป็นระยะสั้น เร่งด่วน 1 ปี ระยะกลาง 2-3 ปี และ ระยะยาว 5 ปี มีการกระจายอำนาจ มีการตรวจสอบ ประเมินผล และแก้ไขปรับปรุงว่าเป็นไปตามนโยบายหรือไม่ และยืนยันว่านโยบายทั้งหมด ไม่ได้มาจากตนเองเพียงคนเดียว แต่ผ่านการคิดมาจากหลายคน และจะพยายามทำให้ 100 เปอร์เซ็นต์ ให้มากที่สุด ระหว่างชี้แจงพล.อ.ประยุทธ์ยังทักถึงสมาชิกบางคนว่าหน้าแดงและระบุว่าไม่ชอบพฤติกรรมของสมาชิก ที่หัวเราะเยาะไปด้วย และบางคนก็นั่งไม่เรียบร้อย
ย้ำขอบคุณจะนำข้อเสนอไปแก้ไข
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวปิดท้ายในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาโดยขอบคุณผู้อภิปรายและจะนำความเห็นของสมาชิกรัฐสภาไปพิจารณาแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาปากท้อง การสร้างรายได้เกษตรกร ปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาความเหลื่อมล้ำ การพัฒนาการศึกษา การพัฒนาทักษะ เพื่อสร้างรายได้ให้ผู้ใช้แรงงาน การสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน และการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ โดยรัฐบาลจะนำข้อสังเกตต่างๆไปพิจารณาเพิ่มเติมในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลต่อไปและจะบูรณการการทำงานระหว่างส่วนราชการเพื่อประโยชน์ของประชาชน
นัดชี้แจงส่วนราชการ สิงหานี้
อีกทั้งได้ย้ำว่า ขั้นตอนหลังจากการเสร็จสิ้นการแถลงนโยบาย รัฐบาลก็ได้วางแผนการขับเคลื่อนนโยบายไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยในเดือนสิงหาคมนี้ รัฐบาลจะประชุมชี้แจงส่วนราชการ เพื่อสร้างความเข้าใจทิศทางและเป้าหมายที่คาดหวังของนโยบายต่างๆ โดยกำหนดกรอบเวลา เป้าหมาย การชี้วัดที่ชัดเจน เพื่อขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม สอดคล้องกับความต้องการของประชากร
คำมั่นมุ่งมั่นทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
“ขอให้ความมั่นใจต่อประชาชนที่รับชมการแถลงนโยบายว่า รัฐบาลใหม่จะมุ่งมั่นทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตามที่ได้สัญญากันไว้ ว่าจะทำหน้าที่เพื่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ จะทำงานร่วมกันด้วยการบูรณการทั้งแผนคน แผนเงินและแผนงาน ยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ความสุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใส รักษาวินัยการเงินการคลัง อย่างเคร่งครัด เพื่อก้าวไปอย่างมั่นคงในศตวรรษที่ 21 โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำให้คำมั่นทิ้งท้าย
จากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภา ที่ได้ทำหน้าที่ร่วมกันแสดงความเห็น ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม ทราบว่า สมาชิกหลายคนได้เตรียมข้อมูลมา แต่ก็ไม่สามารถทำให้ได้อภิปรายกันได้ทุกคน และได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 03.33น.
สมศักดิ์ ชม นายกฯ-โวรบ.อยู่ยาว
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พรรคพลังประชารัฐกล่าวถึงภาพรวมการแถลงนโยบายของรัฐบาลว่าเห็นความเปลี่ยนแปลงจากการนำเสนอจากการแถลงนโยบายจากรัฐบาลก่อนๆ ปกตินายกฯจะอ่านเอกสารที่เตรียมมา แล้วมีการซักถามกัน ที่ผ่านๆมานายกฯจะไม่ค่อยอยู่ในห้องประชุม อาจจะตอบคำถามเล็กน้อย แล้วออกไป แล้วกลับมาขอบคุณสมาชิกรัฐสภา แต่พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในห้องรับฟังการอภิปรายตลอด อาจมีหายไปรับแขกของบ้านเมืองบ้าง แต่ไม่นานก็กลับมา แล้วท่านตอบฝ่ายซักถาม จนรัฐมนตรีบางกระทรวงไม่ต้องตอบ เพราะนายกฯช่วยตอบได้หมด แสดงให้เห็นว่านโยบายที่รัฐบาลเขียนมา คนที่เข้าใจมากที่สุด คือ นายกฯ ดังนั้น การติดตามผลงานของรัฐบาล น่าจะออกมาได้ตามแผนที่เขียนเอาไว้ และเมื่อผลงานรัฐบาลออกมาดี จะเป็นเกราะที่คุ้มครองรัฐบาลให้อยู่ได้นาน อาจจะครบวาระ แต่ต้องดูต่อไปว่าจะเป็นไปตามที่คิดไว้หรือไม่
“หากประชาชนฟังการแถลงนโยบาย จะเห็นนายกฯอยู่ในห้องประชุมตลอดเวลา ท่านเป็นคนตรงไปตรงมา อารมณ์ไม่เครียด บางครั้งอาจดูเหมือนหนักแต่ไม่หนัก หากพูด หรือแสดงอะไรผิดไปก็ขอโทษทันที ไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมากมาย อย่ามองเพียงการแสดงออก ขอยืนยันตรงนี้ว่านายกฯและรัฐมนตรีทุกคนมีความตั้งใจทำงาน เพื่อแก้ปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชน” นายสมศักดิ์ย้ำ และว่าหลังแถลงนโยบายเสร็จ สัปดาห์หน้า จะลงพื้นที่ตรวจกรมต่างๆในสังกัดกระทรวงยุติธรรมเพื่อมอบนโยบาย
พปชร.ขอบคุณ ฝ่ายค้าน-สว.
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่าการแถลงนโยบายของรัฐบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องขอขอบคุณ พรรคฝ่ายค้าน สมาชิกรัฐสภาที่อภิปราย เสนอแนะนโยบายอย่างเต็มที่ แม้บางช่วงบรรยากาศตึงเครียดบ้าง แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ชี้แจงฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ทุกนโยบาย ก็ตอบโจทย์ของประเทศ สามารถสร้างความอยู่ดีกินดีให้ชาวบ้านได้อย่างแน่นอนจากนี้ไปรัฐบาลก็จะเร่งดำเนินตามนโยบายทันทีเพื่อพัฒนาประเทศไปในทิศทางที่ประชาชนคาดหวัง
พท.ฟุ้ง’ฝ่ายค้าน’ทำหน้าที่เข้าเป้า
ในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.)นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค พท.กล่าวถึงหลังการอภิปรายนโยบายรัฐบาลว่าฝ่ายรัฐบาลพยายามใช้ข้อบังคับเพื่อระงับยับยั้งการอภิปรายไม่ให้การอภิปรายมีความต่อเนื่อง เนื้อหาสาระขาดไปแม้จะเจอปัญหาอุปสรรค เจอยุทธวิธีในการระงับยับยั้ง แต่ก็ไม่สามารถที่จะใช้งานได้ การอภิปรายของฝ่ายค้านซึ่งเตรียมตัวมาดี ทำให้การถ่ายทอดข้อมูลข้อเท็จจริงแต่ละคนแต่ละเรื่องแต่ละด้านเข้าเป้าทำให้การรับรู้ของประชาชนทราบถึงข้อบกพร่อง โดยเฉพาะจุดอ่อนของการแถลงนโยบายของรัฐบาลว่ามี 2 ประเด็น ในเรื่องความเหมาะสม คุณธรรมจริยธรรมโดยเฉพาะ คนที่มาดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่า ยังมีข้อบกพร่องอย่างไร
ส่วนการขับเคลื่อนนโยบาย ฝ่ายค้านก็ได้อภิปรายชี้ให้เห็นถึงความเลื่อนลอย จับต้องไม่ได้ ของนโยบายซึ่งจากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ได้สะท้อนความเชื่อมั่นโดยเฉพาะการชี้แจงของรัฐบาลว่าให้การชี้แจงนโยบายของสอบตก รัฐบาลจะต้องรับรู้รับทราบ ต่อความไม่มั่นใจดังกล่าว
แจ้งงดประชุม2สภา สัปดาห์หน้า
ด้านนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวต่อว่าเนื่องจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีความจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายอุปกรณ์สิ่งของ และระบบอิเล็กทรอนิกส์จากหอประชุมใหญ่ทีโอที แจ้งวัฒนะไปที่ห้องประชุมใหญ่วุฒิสภา เกียกกาย ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในคราวต่อไป ในการนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เห็นสมควรให้มีคำสั่งงดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพุธที่ 31 ก.ค.นี้ และวันพฤหัสบดีที่ 1 ส.ค.นี้
นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าในการประชุมรัฐสภาครั้งนี้ ถือเป็นการประชุมวันสุดท้าย ที่จะใช้ห้องประชุมชั่วคราวสำนักงานใหญ่ ทีโอที แจ้งวัฒนะ และในสัปดาห์หน้า จะงดการประชุมรัฐสภา ทั้งในส่วนของ ส.ส. และ ส.ว. เป็นเวลา 1 สัปดาห์เนื่องจากจะมีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์สิ่งของ และระบบเทคโนโลยีต่างออกจากห้องประชุมชั่วคราวสำนักงานใหญ่ทีโอที แจ้งวัฒนะ กลับไปติดตั้ง ที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่‘สัปปายะสภาสถาน’แยกเกียกกาย
เตรียมใช้’รัฐสภาใหม่’ประชุม
หลังจากนี้ ในสัปดาห์ถัดไปจะเริ่มใช้ห้องประชุมจันทราในอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ในประชุมเป็นครั้งแรก ส่วนความพร้อมของรัฐสภาใหม่เกียกกายนั้น แม้ยังไม่เต็ม100เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากยังมีหลายเรื่องที่ต้องทดสอบ แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อรองรับสมาชิกรัฐสภาและสื่อมวลชนโดยนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาได้บอกว่าทุกอย่างเรียบร้อย ไม่ได้เห็นบรรยากาศแบบนี้มานานแล้วและขอขอบคุณทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี