“ดอน” เผยผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เป็นไปด้วยดี พร้อมย้ำกับนานาชาติ ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยมาตลอด ผ่านการเลือกตั้ง จัดรัฐบาลร่วมและแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ด้าน “สมศักดิ์” เผยรู้มาว่า “บิ๊กตู่” ดูแลดีเอสไอ ก่อนนั่ง รมต.ปัดต้องการคุมคดี แต่เพื่อให้งานความมั่นคงทั้งหมดรวดเร็ว เชื่อ สส.อดนั่งขรก.การเมือง ไร้ปัญหา
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศเปิดเผยผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 52 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมว่า การประชุมเป็นไปด้วยดี ภาพรวมของการประชุม มีทั้งเรื่องการหารือประเด็นการส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับรัฐยะไข่ มุมมองอาเซียนอินโดแปซิฟิก และทะเลจีนใต้ ซึ่งภาคีเครือข่ายส่งเสริมการร่วมมือร่วมใจ และไทยก็พยายามส่งเสริมให้ทะเลจีนใต้ เป็นทะเลแห่งสันติ ยั่งยืน และมั่นคง ยอมรับว่าสถานการณ์ในทะเลจีนใต้นั้นยังมีอยู่ แต่ทุกคนก็หวังว่า สถานการณ์จะดีขึ้น
ย้ำไทยเป็น’ประชาธิปไตย’มาตลอด
นายดอน กล่าวอีกว่า สำหรับมุมมองด้านการเมืองของประเทศที่เข้าร่วมประชุมที่มีต่อประเทศไทยนั้น ย้ำว่า ประเทศไทยมีความเป็นประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งและตั้งรัฐบาลร่วม ที่ประกอบด้วยพรรคการเมืองต่างๆสิ่งสำคัญที่สุดก็คือการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาที่ผ่านมาซึ่งตอกย้ำว่าประชาธิปไตยของประเทศไทยมีมาโดยตลอด
ส่วนกรณีสงครามทางการค้าระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้นั้น ในการประชุมครั้งนี้ ส่วนตัวคิดว่าไม่มีอะไรที่ชัดเจน แต่ก็ไม่มีความขัดแย้งกันของระหว่างทั้งสองประเทศ ยืนยันทั้งสองประเทศอย่างแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นที่ดีต่อกันได้ ส่วนในมุมมองของที่ประชุมก็เห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรจะพูดคุยหารือกันมากขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อใจกันและกัน พร้อมระบุอีกว่า ความขัดแย้งใดใดสามารถแก้ปัญหาด้วยความพยายามของทุกภาคส่วนที่จะพูดคุยกัน ยืนยันว่า ทุกคนจะต้องชนะด้วยกันทั้งหมด ไม่มีใครที่จะมีผลลัพธ์เป็นศูนย์ ทุกคนจะต้องพยายามคุยกันมากขึ้น และลดความขัดแย้งตลอดจนแก้ปัญหาเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย จึงหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี
อาเซียนร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมสมดุล
นายดอน ยังกล่าวอีกว่ากรณียุทธศาสตร์ของอาเซียนกับภูมิภาคอื่น สามารถเปรียบได้กับสิ่งมีชีวิตในทะเลที่มีความหลากหลาย มุมมองอาเซียนเหมือนสัตว์ทะเลกินพืชที่รักสันติ ไม่มีอันตราย อาเซียนจึงต้องเน้นพัฒนาด้านการค้าและร่วมมือกันเพื่อไม่ให้เป็นอาหารของปลาใหญ่ แต่ท้ายที่สุดทั้งสัตว์ที่กินพืชและกินเนื้อก็จะต้องอยู่ร่วมกันได้เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่แข็งแรง สันติและสมดุลให้กับโลกที่สวยงาม
พร้อมย้ำว่า อาเซียนไม่มีเป้าหมายควบคุม หรือท้าทายคนอื่น ไม่สนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไม่เป็นภัยต่อผู้อื่น อาเซียนจะต้องร่วมมือพัฒนาไปข้างหน้า โดยไม่ทำร้ายใครที่จะทำให้เกิดการตอบโต้ตามมา อีกทั้งอาเซียนจะต้องมีเป้าหมายในการสร้างประโยชน์ร่วมกันด้วย
ทุกปท.เห็นพ้องปลดอาวุธนิวเคลียร์
ส่วนเหตุผลที่ผู้แทนของเกาหลีเหนือ มาร่วมเป็นผู้ฟังแต่ไม่ได้มาร่วมหารือในที่ประชุมด้วยนั้น นายดอน กล่าวว่า อาจคาดเดาเหตุผลได้มากมาย แต่ยอมรับว่าทุกประเทศเห็นพ้องต้องกันในเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ แล้วก็สนับสนุนให้ผู้นำของทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้พบประกันตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน ซึ่งทุกคนก็ให้กำลังใจให้การพบประกันนั้นมีผลลัพธ์ในเชิงบวก ไม่มีใครอยากเห็นการยิงขีปนาวุธระหว่างกัน จึงหวังว่าถ้าหากได้หารือกันมากขึ้นก็จะมีความเข้าใจกันมากขึ้น
รัฐสภาเตรียมประชุมAIPA
นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขานุการประธานรัฐสภา ในฐานะกรรมการอำนวยการจัดการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน( AIPA) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่2 ส.ค.มีการประชุมคณะกรรมการฯ จัดประชุม AIPA ครั้งที่40 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-30 ส.ค.ที่โรงแรมแชงกรี-ลา กทม. โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าแต่ละด้าน อาทิ ด้านพิธีกร ด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ต่อสาธารณะ และด้านการรักษาความปลอดภัย ในภาพรวมมีความพร้อมมากกว่าร้อยละ 90 เปอร์เซ็นต์
นายอิสระ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังหยิบยกประเด็นเหตุระเบิดหลายจุดทั่ว กทม.เมื่อวันที่2ส.ค.มาพูดหารือถึงแนวทางและมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยในช่วงจัดงานประชุม ซึ่งพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร สมาชิกส.ว.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการแพทย์ ได้ให้ความมั่นใจต่อที่ประชุมว่า รัฐสภาร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เตรียมการในเรื่องนี้อย่างรัดกุม เพื่อรองรับสถานการณ์อย่างเต็มที่ แต่จะมีการทบทวนแผนการปฏิบัติกับทีมรักษาความปลอดภัย เพื่อยกระดับมาตรการต่างๆ ให้เข้มงวดตลอดช่วงการจัดประชุมอีกครั้ง โดยจะมีการแถลงความคืบหน้า ในวันที่ 7 ส.ค. นอกจากนี้ในที่ประชุม นายชวน ยังได้กำชับว่า นอกจากเรื่องเข้มงวดการรักษาความปลอดภัยเเล้ว ให้ดูแลเรื่องทีมเเพทย์ฉุกเฉินให้มีความพร้อมด้วย
ชี้‘บิ๊กตู่’คุมDSIงานรวดเร็วชัดขึ้น
ทางด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเข้าไปดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพราะต้องการดูคดีเองว่า คงไม่ใช่ เพราะส่วนตัวทราบมาก่อนจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมแล้ว ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะดูแลรับผิดชอบด้วยตัวเองเพราะที่ผ่านมาหน่วยงานความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ ได้ขึ้นกับหลายคน ทาง พล.อ.ประยุทธ์ ทราบปัญหาจึงเข้ามาดูแลเอง เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันได้รวดเร็วชัดเจนมากขึ้น
เชื่อส.ส.อดนั่งขรก.การเมืองไร้ปัญหา
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีส.ส.ไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองจะเกิดการเคลื่อนไหวหรือไม่ หลังก่อนหน้านี้ ได้มีการวางตัวให้ส.ส.ไปดำรงตำแหน่งว่า กฎหมายได้มีการตีความแล้วว่า ส.ส.ไม่สามารถดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองได้ ซึ่งการพูดคุยในคณะกรรมยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐก็พูดคุยกันดี ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนรัฐมนตรี ต้องลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยืนยันว่า ยังไม่มีการพูดคุยกัน โดยขอยังไม่แสดงความคิดเห็นเพราะพูดไป ก็กังวลจะเกิดปัญหาซึ่งรอให้กรรมการบริหารพรรค พิจารณาดีกว่า
พท.บี้ไม่เลิกซัดรัฐบาลขัด รธน.
ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมาว่า รัฐบาลมีการกระทำขัดรัฐธรรมนูญในหลายมาตรา ไม่ว่าจะเป็น มาตรา 161 เรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนทำงานของคณะรัฐมนตรี รวมถึงการจัดทำนโยบายที่ขัดกับรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ในมาตรา 162 และ 164เนื่องจากการแถลงนโยบายของรัฐบาลไม่มีการพูดถึงในส่วนของงบประมาณที่จะนำมาใช้ในแผนงานที่รัฐบาลประกาศไว้ว่าจะนำงบประมาณมาจากที่ใด
“รัฐบาลเลือกที่จะไม่ลงรายละเอียดที่มาของงบประมาณเป็นการกระทำที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าแต่ละนโยบายที่รัฐบาลประกาศออกมาจะใช้งบประมาณจากที่ใด การแสดงเจตนาของรัฐบาล เป็นการกระทำที่ไม่รับผิดชอบต่อประชาชนและรัฐสภาทั้งนี้สมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย มีการบรรจุถึงโครงการนโยบายและที่มาของงบประมาณอย่างชัดเจนแต่รัฐบาลนี้กลับไม่ให้ความสำคัญ”นายจุลพันธ์ ย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี